ก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำ นปช.เผยเจ้าหน้าที่สมาคมลูกหนัง แจ้งให้ไปเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ รับงงเหมือนกัน พร้อมยืนยันไม่มี “เหลือง-แดง” แต่บอก “บังยี” วรวีร์ มะกูดี เป็นประมุขมาตั้งแต่สมัย คมช.
หลังจากที่ นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำ นปช.โผล่ไปร่วมการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา พร้อมกับชัยชนะของ นายวรวีร์ มะกูดี เหนือ นายวิรัช ชาญพานิชย์ 42-28 คะแนน ท่ามกลางความไม่พอใจของแฟนฟุตบอล และผู้สนับสนุนนายวิรัช ที่มองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่โปร่งใส โดยเฉพาะตัวนายก่อแก้ว มีสิทธิเลือกตั้งได้อย่างไร เมื่อปัจจุบันไม่ได้เป็นประธานสโมสร พังงา เอฟซี แล้ว
อย่างไรก็ตาม นายก่อแก้ว ได้แสดงความเห็นผ่านสังคมออนไลน์ถึงการเข้าร่วมการเลือกตั้งครั้งนี้ หลังจากมีแฟนฟุตบอลบางส่วนแสดงความไม่พอใจว่า “เมื่อวานไปเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ผลออกมา ดร.วรวีร์ มะกูดี ได้รับเลือกอีกสมัย โดยการเลือกตั้งครั้งนี้ มีฟีฟา และ การกีฬาฯ มาช่วยกำกับดูแล หลังจากที่มีความขัดแย้งกันอย่างหนักในการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ และต้องล้มการเลือกตั้งมาแล้ว ทำให้เกิดความล่าช้ามาหลายเดือน”
“แฟนบอลบางคนที่อกหักจากผลการเลือกตั้ง มาฟาดงวงฟาดงากับผมด้วย (ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าผมเลือกใคร) หาว่าผมไปสวมสิทธิ์ในการโหวตจากคนอื่นที่ควรมีสิทธิ์ จึงขอเรียนอธิบายไว้ดังนี้ครับ
ผมเป็นอดีตประธานสโมสรพังงา เอฟซี ซึ่งเพิ่งหมดวาระ โดยหลังหมดฤดูกาล สโมสรได้จัดตั้งนิติบุคคล (บริษัท) ขึ้นมาทำหน้าที่บริหารสโมสรเพื่อให้เป็นไปตามสากล ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร โดยให้กรรมการนิติบุคคลเป็นผู้ทำหน้าที่บริหารและลงนามในนิติกรรมทางกฎหมายต่างๆ แทนการให้ประธานสโมสรมีอำนาจ ซึ่งโดยความเข้าใจผมตอนแรก ก็มองว่ากรรมการนิติบุคคลที่จัดตั้งใหม่น่าจะเป็นผู้มีสิทธิโหวตในครั้งนี้”
พร้อมกันนี้ นายก่อแก้ว ยังยอมรับด้วยว่าเดินทางมาเลือกตั้ง เนื่องจากได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่สมาคมฟุตบอลฯ “เจ้าหน้าที่สมาคมฟุตบอลฯ แจ้งว่าเนื่องจากทีมพังงาเอฟซี และบางทีมที่มีสิทธิ์เลือกนายกสมาคมฯครั้งนี้ ได้สิทธิ์เลือกนายกสมาคมฯคนใหม่ เพราะใช้ผลการแข่งขันของฤดูกาลที่ผ่านมา จึงต้องให้สิทธิ์ผู้บริหารชุดที่ผ่านมาเป็นผู้มีสิทธิ์โหวตออกเสียงครั้งนี้ (ผมก็ยังงง ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่ให้สิทธิ์ผู้บริหารชุดที่มีอำนาจทางกฎหมาย ณ วันที่ทำการโหวตเลือกตั้ง) ผมจึงได้รับสิทธิ์ให้ไปโหวตเลือกตั้งครั้งนี้ และเนื่องจากผมไม่ได้มอบอำนาจให้ใครไปโหวตแทน เนื่องจากคิดว่าตัวเองอยู่ในกรุงเทพฯอยู่แล้ว จึงน่าจะสะดวกกว่าที่จะให้พรรคพวกที่พังงามาโหวต จึงทำให้บางคนที่ผิดหวังกับการเลือกตั้งออกมาโจมตีอย่างหนัก หาว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีพรรคเพื่อไทยเกี่ยวข้อง ทั้งๆ ที่ไม่จริงครับ เหตุผลดังนี้ครับ”
ขณะเดียวกัน แกนนำ นปช.ยังกล่าวยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง และยืนยันว่า “บังยี” เป็นนายกสมาคมฟุตบอลฯ มาตั้งแต่สมัยรัฐบาลที่เกิดจากการรัฐประหาร โดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช.“คุณวรวีร์ เป็นนายกสมาคมฯ มาตั้งแต่ปี 2550 สมัยรัฐบาล คมช.แล้วครับ ซึ่งผมไม่รู้จักทั้งคุณวรวีย์ และคุณวิรัช เป็นการส่วนตัว แต่ถูกล็อบบี้ทั้งจากพรรคพวกในพรรคและนอกพรรคให้เลือกคุณวรวีร์บ้าง เลือกคุณวิรัช ด้วยเหตุผลที่ต่างกันไป”
“ผู้สมัครเป็นกรรมการบริหารในสายของของคุณวรวีร์ มีบุคลากรจากซีกพรรคประชาธิปัตย์ร่วมด้วย เช่น ส.ส.ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ หรือ คุณนวลพรรณ ล่ำซำ ในขณะที่ ในสายของของคุณวิรัช มี ส.ส.ชาดา ไทยเศรษฐ์ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และ ส.ส.พุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ จาก ปชป.มาร่วมทีมด้วย ซึ่งคละเคล้ากันไป เนื่องจากวงการฟุตบอลมีบุคลากรที่เป็นตระกูลนักการเมือง มีส่วนร่วมในการบริหารทีมต่างๆ เกือบทั่วประเทศ แถมมีข่าวลือว่า มีคุณเนวิน ชิดชอบ มาร่วมสนับสนุนผู้สมัครบางท่าน จึงทำให้หลายคนมองว่าการเมืองมีส่วนเกี่ยวข้อง แล้วลากพรรคเพื่อไทยไปมีส่วนร่วมด้วยเท่านั้นเอง”
“ผลการเลือกตั้งที่ออกมา มีคนที่สมหวังและผิดหวัง นานาจิตตัง เป็นธรรมชาติของมนุษย์ โดยส่วนตัวผมมองว่า ทั้งคุณวรวีร์ และ คุณวิรัช มีจุดแข็งและจุดอ่อนที่น่าจะเสริมซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดี ในเมื่อการเลือกตั้งจบแล้ว แทนที่จะขัดแย้งกันต่อไป คุณวรวีร์น่าจะเชิญคุณวิรัช มาร่วมงานด้วย เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนสมาคมฟุตบอลไทยให้ดีกว่าเดิม โดยเฉพาะการสรรค์สร้างทีมชาติไทย ให้มีผลงานอยู่แถวหน้าอาเซียน และอยู่ในกลุ่มนำของเอเซีย ตามที่แฟนบอลทั้งประเทศคาดหวังไว้ ผมจึงเรียนมาเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน งานนี้ไม่มีเหลือง ไม่มีแดง ไม่มีเพื่อไทย มีแต่คนไทยที่ต้องการทำเพื่อประเทศไทยเท่านั้นครับ” อดีตประธานทีม พังงา เอฟซี เผย