xs
xsm
sm
md
lg

ล้างบาง “เปาไทย” ชนวนความขัดแย้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้ตัดสินถูกมองว่าเป็นชนวนความขัดแย้ง
ASTVผู้จัดการรายวัน – เหตุการณ์ที่แฟนบอลหญิงของอาร์มี ยูไนเต็ด โดนลูกหลงจากกองเชียร์เชียงราย ยูไนเต็ด ปาก้อนหินใส่ที่เบ้าตาจนเลือดอาบถูกหามตัวส่งโรงพยาบาล หลังจบเกมที่ “กว่างโซ้ง” เปิดรังเฉือนชนะ 2-1 ในศึกโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ ลีก เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นการสะท้อนภาพวงการลูกหนังไทยในเวลานี้ได้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากปัญหาทะเลาะวิวาทที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันจนเอือมแล้ว หากมองลึกเข้าไปจะพบว่าหลายครั้งที่อุณหภูมิในสนามเริ่มเดือด เกิดจากการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินที่เป่านกหวีดได้ค้านสายตา ดังนั้นถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะต้องมีการล้างบางวงการเชิ้ตดำครั้งใหญ่ ก่อนที่ปัญหาความขัดแย้งจะบานปลายไปมากกว่านี้

ปัญหาเรื่องมาตรฐานของผู้ตัดสินไทยนับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น แรกเริ่มมีเพียงแค่ฝ่ายเสียประโยชน์เท่านั้นที่ออกมาโอดครวญ แต่ทุกวันนี้ไม่ว่าจะเป็นทีมที่แพ้หรือชนะต่างก็ออกมาตำหนิ ถึงขนาดมีการตั้งข้อสังเกตว่าความผิดพลาดนั้นมีลับลมคมใน หรือผลประโยชน์แอบแฝงอยู่เบื้องหลังหรือไม่

โดยเรื่องนี้ “รองเสือ” สกล วรรณพงษ์ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ ได้ให้ความเห็นว่าเป็นเรื่องที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยต้องรับผิดชอบด้วยการเปลี่ยนคณะผู้ตัดสินใหม่ “ปัญหาแฟนบอลทะเลาะวิวาทกันนั้นหลายฝ่ายต้องร่วมรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นสโมสรที่ดูแลจัดการไม่ดีในเรื่องผังที่นั่ง การระบายคน และการรักษาความปลอดภัย ทั้งนี้สมาคมฟุตบอลฯ ควรต้องเปิดอบรมอย่างเข้มงวดด้วย”

“อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่เลยมาจากผู้ตัดสิน เพราะหลายครั้งที่ผู้ตัดสินไม่มีความยุติธรรม ขาดคุณธรรมและจรรยาบรรณ รวมถึงประสบการณ์ไม่เพียงพอ จึงนำมาซึ่งต้นเหตุของการทะเลาะวิวาททั้งตัวนักฟุตบอลในสนามและกองเชียร์ ที่สำคัญเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าทุกวันนี้สังคมไม่ให้การยอมรับ ดังนั้นสมาคมฟุตบอลฯควรจะต้องเปลี่ยนผู้ตัดสินชุดใหม่ให้มีมาตรฐานมากขึ้น” รองผู้ว่าการ กกท.ชี้ชัด

ในส่วนของคนทำทีมอย่าง อรรณพ สิงห์โตทอง รองประธานสโมสรชลบุรี เอฟซี เป็นอีกหนึ่งเสียงที่ยกมือเห็นพ้องด้วยเช่นกัน “ณ เวลานี้ หรือยิ่งภายใน 2 เดือนที่ผ่านมา ผมพูดได้เต็มปากว่าปัญหาข้างต้นส่วนใหญ่มาจากผู้ตัดสิน ทุกวันนี้วงการผู้ตัดสินกำลังแย่ ขาดความน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก มีการแบ่งก๊กแบ่งเหล่า มิหนำซ้ำยังมีบางกลุ่มที่มีนายใหญ่คอยหนุนหลัง บางรายตัดสินผิดพลาด แต่ก็ไม่ได้รับบทลงโทษ ส่งผลให้ผู้ตัดสินดีๆ หลายคนต้องหายไป เรื่องนี้คนในวงการฟุตบอลรู้ดี แต่ยิ่งพูดก็จะยิ่งทำให้ฟุตบอลไทยเสื่อมเสีย”

“เดอะ เซนต์” ยังกล่าวต่อไปว่า “นอกจากนั้นผมยังได้ข่าวมาว่ามีผู้ตัดสินและผู้ควบคุมการแข่งขันหลายรายที่ได้รับค่าตอบแทนไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย จึงทำให้เปาเลวๆ บางคนออกนอกลู่นอกทาง ซึ่งเรื่องนี้มีการพูดกันปากต่อปากทำให้เวลาแข่งขันฝ่ายเสียประโยชน์ก็จะเริ่มมีความอคติเกิดขึ้น และเมื่อแข่งจบแล้วก็ยังมีเรื่องการอุทธรณ์โทษของแต่ละทีมก็ไม่เสมอภาคกัน จึงนำมาซึ่งความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจกัน”

“ทุกฝ่ายต้องยอมรับความจริงเปิดอกคุยกัน วิธีแก้คือต้องเปลี่ยนวีธีคิดของคณะผู้ตัดสิน ต้องสร้างความซื่อสัตย์และทัศนคติที่ดีให้ทีมต่างๆ ได้เห็น เพราะหากผิดพลาดโดยสุจริตจริงๆ ก็ไม่มีใครว่า เนื่องจากนักฟุตบอลและแฟนบอลก็เป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว แต่ถ้าเปลี่ยนความคิดไม่ได้ก็คงต้องเปลี่ยนคณะทำงานชุดใหม่แทน” บิ๊กฉลามชลทิ้งท้าย

อย่างไรก็ตาม “เสธ.ตุ้ม” พล.อ.ชินเสณ ทองโกมล ประธานคณะกรรมการผู้ตัดสินของสมาคมฟุตบอลฯ ได้ออกมาโต้ความเห็นแง่ลบว่าไม่เป็นความจริง “ตอนนี้อยู่ช่วงปลายฤดูกาล มีผลเรื่องการตกชั้นเลื่อนชั้นสูง จึงทำให้แฟนบอลบางคนอินกับเกมมากไป บางสโมสรก็มีแกนนำคอยยั่วยุ ดังนั้นจะมาโทษผู้ตัดสินอย่างเดียวไม่ได้ และที่ว่าทางเราไม่มีบทลงโทษคนที่ทำหน้าที่ผิดพลาดนั้นไม่เป็นความจริง เพราะคนไหนผิดเราก็ว่ากันตามผิดไม่มีปกป้องอยู่แล้ว ทั้งนี้ต้องดูที่เจตนาด้วย รวมถึงเรื่องเงินค่าจ้างเช่นกันที่ได้ครบไม่มีปัญหา”

ส่วนกรณีที่มีผู้ตัดสินออกนอกลู่นอกทางนั้น นายใหญ่เชิ้ตดำยอมรับว่าหลายๆ แมตช์ที่ผ่านมานั้นอาจมีจริง “หลังจากที่ได้พิจารณาดูหลายๆ แมตช์ที่ผ่านมานั้นผมคิดว่าอาจมีบ้าง แต่ทั้งนี้เราก็ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนที่จะไปเอาผิดได้ จึงได้แต่ตั้งข้อสังเกต ซึ่งเราก็มีมาตรการรองรับอยู่แล้ว เมื่อคนไหนขาดความน่าเชื่อถือเราก็จะปรับลดงานลง สำหรับทางแก้จากนี้นั้นช่วงเวลาที่เหลือท้ายซีซัน เราก็จะคัดเอาเฉพาะที่มีฝีมือจริงๆ ลงทำหน้าที่ ผมบอกได้เลยว่าพวกที่ได้รับความไว้วางใจ แต่ยังทำหน้าที่ผิดพลาดมีโทษหนักแน่นอน

ขณะที่ “บิ๊กเปี๊ยก” นายองอาจ ก่อสินค้า รักษาการเลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ ยังไม่ปักใจเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยให้ความเห็นว่าอาจระแวงกันมากไปเอง “เรื่องการตัดสินก็มีส่วน แต่ก็ยังไม่สามารถพูดได้เต็มปาก เพราะมีหลายๆ ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เช่น บางครั้งแฟนบอลมีความระแวงกันไปเอง”

ซึ่งไม่ว่าการทำหน้าที่ของเชิ้ตดำจะมีผลต่อความขัดแย้งของกองเชียร์มากน้อยแค่ไหน แต่พูดได้เต็มปากว่าเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มอุณหภูมิทั้งในและนอกสนามแน่นอน จนอาจบานปลายขึ้นเรื่อยๆ หากยังไม่สามารถเรียกศรัทธาจากแฟนบอล รวมถึงคนทำทีมกลับมาได้
แฟนบอลที่โดนลูกหลงรายล่าสุด
กกท.ฟันธงต้องเปลี่ยนเปายกชุด
เสธ.ตุ้ม รับมีเชิ้ตดำเลวอยู่จริง
กำลังโหลดความคิดเห็น