“แดงเดือด” ยกนี้ผีแพ้ไมได้ “ซัวเรซ” รีเทิร์นซื้อใจหงส์

เอเยนซี - ถือเป็นความกดดันแสนสาหัสที่ เดวิด มอยส์ ไม่เคยประสบมาก่อนในอาชีพกุนซือ เพราะเพิ่งรับงานคุมสโมสรยักษ์ใหญ่ระดับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นครั้งแรก สำหรับเกม แคปิตอล วัน คัพ รอบ 3 เปิดบ้านรับมือ ลิเวอร์พูล วันพุธที่ 25 กันยายนนี้ที่จะร่วงแต่ไก่โห่ไม่ได้เด็ดขาด เนื่องจากเพิ่งแพ้ย่อยยับเกม ดาร์บี แมตช์ ขณะเดียวกันไฮไลท์ของฝั่งอาคันตุกะก็อยู่ที่การพ้นโทษแบนของ หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าจอมสร้างปัญหาที่จะต้องพิสูจน์ตัวเองให้สาวกของทีมได้เห็นเช่นกันว่า 4 ห้องหัวใจยังพร้อมทุ่มเทให้กับทีมต่อไปหรือไม่

ยกแรกที่ทั้งคู่เจอกันเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลายคนบ่นอุบว่า “แดงเดือด” มาเยือนแต่หัววันไปหน่อยทำให้ขาดอรรถรส เพราะไม่ว่าฝ่ายไหนเพลี่ยงพล้ำก็ใช่ว่าจะหลุดจากวงโคจรลุ้นแชมป์ เนื่องจาก พรีเมียร์ ลีก เพิ่งเปิดฤดูกาล ก่อนที่ชัยชนะจะอยู่ในกำมือ ลิเวอร์พูล เชือดคา แอนฟิลด์ 1-0 ทว่ายกนี้ถือว่ามีความหมายยิ่งยวด เพราะต่างเพิ่งปราชัยมาในเกมลีก แม้ว่าจะเป็นถ้วย แคปิตอล วัน คัพ ที่ปกติสโมสรใหญ่มักจะมองข้ามและเรียกใช้บริการแข้งสำรองผสมผสานดาวรุ่งก็ตาม ดังนั้นดีกรีความมันแมตช์นี้น่าจะพุ่งทะลุปรอทอย่างแน่นอน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แมนฯยู แม้ว่าจะเล่นในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่ต้องแบกความกดดันที่จะตกรอบไม่ได้อย่างเด็ดขาด หลังจากแพ้มาแล้ว 2 เกมในลีก นัดล่าสุดยิ่งเลวร้ายเพราะเป็น ดาร์บี แมตช์ บุกไปโดน แมนฯซิตี ยำใหญ่ 1-4 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 กันยายนที่ผ่านมาจนมีเพียงแค่ 7 แต้มจาก 5 นัดตามจ่าฝูงร่วมอย่าง อาร์เซนอล และ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ถึง 5 แต้ม หลังเกม มอยส์ ออกมาโอดครวญเจอโปรแกรมหนักเล่นงาน เนื่องจาก 11 นัดแรกได้ดวลครบเลยทั้ง เชลซี, ลิเวอร์พูล, “เรือใบสีฟ้า” และต่อด้วย “ปืนโต” กลางเดือนพฤศจิกายนนี้

แต่คำแก้ตัวของ มอยส์ คงฟังไม่ขึ้น เพราะฤดูกาลที่แล้ว เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คุม แมนฯยู 10 นัดแรกก็เจอ ลิเวอร์พูล, เชลซี และ อาร์เซนอล แถมกวาด 3 แต้มได้ทั้งหมด แพ้เพียงแค่ เอฟเวอร์ตัน กับ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ เท่านั้น ก่อนที่บั้นปลายจะเข้าป้ายคว้าแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 20 มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่

มอยส์ ที่นั่งคอตกอยู่ ณ ซุ้มม้านั่งสำรองถือเป็นภาพที่ไม่ควรแสดงออกอย่างยิ่งและคงต้องกลับไปทำการบ้านอย่างหนัก เพราะนักเตะที่ส่งไปเจอกับ แมนฯซิตี ถือว่าไม่ขี้เหร่ มารูยาน เฟลไลนี กองกลางทีมชาติเบลเยียมที่เพิ่งคว้ามาจาก เอฟเวอร์ตัน ได้สตาร์ทแดนกลางคู่ ไมเคิล คาร์ริค แต่ยืนตำแหน่งเกมรับผิดพลาดไปหมด ขณะที่ แอชลีย์ ยัง กับ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ปีก 2 ข้างก็ถูกจับทางได้หมด มีแค่คนเดียวที่เล่นดีคือ เวย์น รูนีย์ ซึ่งซัดฟรีคิกตีไข่แตกช่วงท้ายเกม คงได้ยืนคู่หน้าพร้อม โรบิน ฟาน เพอร์ซี หอกเลือดดัตช์ที่เจ็บต้นขาวืดเกมกับ แมนฯซิตี

รูนีย์ ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงยิง 4 ประตูจาก 3 นัดหลังสุด ออกมากระตุ้นพลพรรค แมนฯยู ที่ออกสตาร์ทเลวร้ายรอบ 9 ปีว่า “เราทุกคนต้องยกระดับขึ้นไม่ว่าจะเป็นเกมไหนก็ตามทั้ง ดาร์บี แมตช์ หรือเจอกับ ลิเวอร์พูล ความพ่ายแพ้ไม่เคยสวยงาม ผมเป็นแฟนบอลมาก่อนและตอนนี้คือนักเตะ อาจจะเป็นการดีที่ได้ทำศึกแดงเดือดเพราะทุกคนจะได้แสดงปฎิกิริยาออกมา ทั้งนัดกระชับมิตร, แคปิตอล วัน คัพ หรือ พรีเมียร์ ลีก สำคัญทั้งสิ้น เราต้องพยายายามคว้าชัยเพื่อโยนความผิดหวังเอาไว้เบื้องหลังให้ได้”

ขณะที่ทีมเยือน ลิเวอร์พูล สตาร์ทร้อนแรงชนะ 3 นัดรวดทีมเดียวขึ้นไปรั้งจ่าฝูง แต่ก็ผ่านไปไวเหมือนลมพัดหลังบุกเสมอ สวอนซี ซิตี 2-2 และแพ้คาถิ่นต่อ เซาแธมป์ตัน 0-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา แต่เหนืออื่นใดผลงานของลูกทีม เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ถูกกลบด้วยการคืนสนามของ ซัวเรซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัยที่ชดใช้โทษแบน 10 นัดจากเกมลีกฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งงับแขน บรานิสลาฟ อิวาโนวิช กองหลัง เชลซี แมตช์เสมอกัน 2-2 ที่ แอนฟิลด์ และน่าจะออกสตาร์ทตัวจริงแดนหน้า หลังจากอัดอั้นกับการดูเพื่อนเล่นบนอัฒจันทร์มานาน

ก่อนเกม ร็อดเจอร์ส ออกมากระตุ้น ซัวเรซ ว่า "เขาจะต้องพิสูจน์ตนเอง เพราะทุกคนต้องการที่จะเห็นการต่อสู้ภายใต้ยูนิฟอร์มสีแดง สิ่งที่ยอดเยี่ยมของสโมสรแห่งนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าสิ่งที่ผู้เล่นแสดงออกมา เขาจะต้องถูกคาดหมายถึงความจริงใจที่มีต่อทีมและหิวกระหายในชัยชนะรวมถึงต่อสู้อย่างเช่นก่อนหน้านี้"

ลิเวอร์พูล เกมนี้มีหลายอย่างต้องจับตาว่า ร็อดเจอร์ส จะให้ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ กองหน้าฟอร์มฮอตที่ซัด 6 ประตูจาก 5 นัดรวมทุกรายการเล่นกับ ซัวเรซ อย่างไร ยามไม่มี ฟิลิปเป คูตินโญ เป็นจอมทัพเนื่องจากบาดเจ็บ เพราะสไตล์หอกทีมชาติอุรุกวัยจับทางยากไปกับบอลได้ดีจังหวะไหนจะยิงหรือจ่าย รวมถึงปฎิกิริยาจากสาวก “เดอะ ค็อป” เพราะซัมเมอร์ที่ผ่านมาหอกวัย 26 ปีประกาศต้องการย้ายไปเล่นให้สโมสรที่คว้าสิทธิ์ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก แต่บอร์ดบริหารปัดข้อเสนอของ อาร์เซนอล รวมถึงจะทำพฤติกรรมฉาวอะไรอีกหรือไม่ ซึ่งเมื่อถึงปลายฤดูกาลไม่ได้ท็อปโฟร์ตามเป้าวันแห่งการลาจากคงมาถึง เพราะเจ้าตัวรู้ดีว่าการย้ายไปเล่นให้กับ บาเยิร์น มิวนิก หรือ รีล มาดริด สามารถฟันค่าเหนื่อยได้อีกอื้อซ่า