หลุยซ์ ซัวเรซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัย จะได้กลับมาสวมยูนิฟอร์ม ลิเวอร์พูล ลงเล่นแมตช์อย่างเป็นทางการอีกครั้งวันพุธที่ 25 กันยายนนี้ ที่จะบุกไปเยือน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำศึก “แดงเดือด” เวอร์ชันเกม แคปิตอล วัน คัพ รอบ 3 แน่นอนว่าก่อนเกม อลัน แฮนเซน อดีตกองหลัง “หงส์แดง” ระหว่างปี 1977-1991 ได้ทำการวิเคราะห์ 5 สิ่งที่น่าจับตามองในการคืนสนามครั้งนี้ผ่านทาง “เทเลกราฟ” สื่อดังของอังกฤษ
คิดถึงฉันไหมเวลาที่เธอ?
หลังจากความพ่ายแพ้ให้แก่ เซาแธมป์ตัน อย่างพลิกล็อกคาถิ่น แอนฟิลด์ 0-1 ศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ประกอบกับการที่ ลิเวอร์พูล ขาด ฟิลิปเป คูตินโญ จอมทัพชาวบราซิเลียน ที่ได้รับบาดเจ็บ ต้องดูกระแสตอบรับการกลับมาของ ซัวเรซ จากสาวก “เดอะ ค็อป” ว่าจะเป็นไปในแง่ไหน เนื่องจากซัมเมอร์ที่ผ่านมาเจ้าตัวก็ประกาศต้องการย้ายสังกัด แต่ไม่เป็นไปตามตั้งใจ ดังนั้นที่สำคัญกองหน้าทีมชาติอุรุกวัยก็จะต้องทุ่มเทเต็มที่ในเกมนี้ ณ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ตลอดระยะเวลาที่ได้อยู่ในสนาม
จะเข้ากับระบบทีมได้หรือไม่?
การกลับมาของ ซัวเรซ แมตช์นี้ต้องดูว่า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือ ลิเวอร์พูล จะวางกลยุทธ์แบบไหนในการไปเยือน แมนฯยู เพราะที่ผ่านมา 5 นัดในลีกเก็บไป 10 แต้มยังขาดความหลากหลายในการเข้าโจมตีคู่ต่อสู้ นักเตะส่วนใหญ่รูปร่างค่อนข้างเล็กเน้นความคล่องตัว ดังนั้นช่วง 20 นาทีสุดท้ายเกมกับ เซาแธมป์ตัน เห็นได้ชัดเลยว่าแรงปะทะทางกายภาพสู้ไม่ได้ โดยเฉพาะลูกโด่งที่โจมตีเข้ากรอบเขตโทษ นอกจากนี้จะประสานกับ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ได้ดีแค่ไหน เพราะหอกจอมฉาวสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรุกดังนั้นน่าจะมีอิสระพอสมควร แต่อีกทางหนึ่งก็คือยากจะคาดเดาว่าจังหวะไหนจะจ่ายหรือทะลุทะลวงไปเอง
ปฏิกิริยาจากแฟนบอล?
ปฏิกิริยาของสาวก “เดอะ ค็อป” ถือว่าสำคัญอย่างยิ่งก็สามารถเห็นได้ตั้งแต่ช่วงก่อนเกมที่นักเตะจะต้องลงมาวอร์มอัปตามธรรมเนียก็จะต้องปรบมือจากนั้นก็มีการประกาศรายชื่อผู้เล่น โดยระหว่างช่วงปรีซีซันที่ผ่านมา ซัวเรซ ก็ได้ลงเล่นเกม เทสติโมเนียล แมตช์ ของ สตีเวน เจอร์ราร์ด กองกลางกัปตัน ลิเวอร์พูล ไปแล้วที่พบ โอลิมเปียกอส แต่คงไม่ง่ายที่เขาจะได้รับการต้อนรับจากแฟนบอลเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ของสนามจนกว่าจะพิสูจน์ตัวเองหรือยิงประตูได้ เพราะซัมเมอร์ที่ผ่านมาเหตุผลที่ไม่ได้ย้ายทีมก็เพราะบอร์ดบริหารปัดข้อเสนอก้อนโตจาก อาร์เซนอล
พฤติกรรมนับจากนี้ไป?
ที่ผ่านมา ซัวเรซ สร้างปัญหามากมายกับการเล่นบนเวที พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นข้อหาพุ่งล้ม, เหยียดผิว และล่าสุดกัดแขน บรานิสลาฟ อิวาโนวิช กองหลัง เชลซี เมื่อปีที่แล้วจนโดนแบน 10 นัด ซึ่งแน่นอนว่าพฤติกรรมที่เกิดขึ้นต่อเนื่องเช่นนี้คงไม่สามารถหยุดได้เพียงชั่วข้ามคืนอาจจะฟิวส์ขาดขึ้นมาอีกเมื่อไหร่ก็ได้ โดยตอนนี้ได้กลายเป็นนักเตะที่จุดเดือดต่ำไปแล้ว และจะเป็นจุดอ่อนให้กับคู่ต่อสู้โจมตีและยั่วยุสารพัดยามอยู่ในสนาม สิ่งเดียวคือจะต้องเรียนรู้และควบคุมตนเองให้ได้ เพราะอายุก็ไม่ใช่น้อยๆ ปาเข้าไป 26 ปีแล้ว
จะอยู่กับทีมนานแค่ไหน?
ความเป็นจริงก็คือลึกๆ แล้ว ซัวเรซ ยังต้องการเล่นให้กับสโมสรที่ได้ลุยศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ดังนั้นฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล ต้องช่วยกันติดท็อปโฟร์ให้ได้เป็นอย่างน้อย เพื่อยืดเวลาอยู่ในถิ่น แอนฟิลด์ ต่อไป เพราะเจ้าตัวรู้ดีว่าสามารถเรียกค่าเหนื่อยได้อีกอื้อซ่าหากย้ายไปเล่นให้ บาเยิร์น มิวนิก หรือ รีล มาดริด ถ้าหากปิดฤดูกาลนี้เป้าหมายไม่เป็นไปตามที่หวัง การออกมางอแงขอย้ายทีมย่อมเกิดขึ้นอีกแน่นอน เนื่องจากถือเป็นซูเปอร์สตาร์ที่มีความทะเยอะทะยาน เพราะหลังย้ายจาก อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม ก็ได้แชมป์แค่ถ้วยเดียวคือ ลีก คัพ ฤดูกาล 2011-12