เอเยนซี - ศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ได้ฤกษ์เปิดฉากโม่แข้งรอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก วันอังคารที่ 17 กันยายนนี้ ซึ่งฤดูกาล 2013-14 ถือเป็นอีกปีที่มีเรื่องราวน่าสนใจและต้องติดตามมากมาย ทางด้าน “ซอคเกอร์เน็ต” สำนักข่าวชื่อดังจึงประมวลมาให้ดังต่อไปนี้
บาเยิร์น มิวนิก ป้องกันแชมป์
ถ้าจะหาสโมสรแรกที่ป้องกันแชมป์ภายใต้ชื่อ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก บาเยิร์น ทริปเปิลแชมป์ทีมแรกของเยอรมนีเมื่อปีที่แล้ว ก็ดูจะมีภาษีมากที่สุด ขุมกำลังเดิมก็มีให้เลือกล้นมืออยู่แล้ว แถมยังเติมความหลากหลายกับ 2 ตัวรุกใหม่อย่าง มาริโอ เกิทเซ และ ติอาโก อัลคานทารา บวกประสบการณ์ของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือที่เคยพา บาร์เซโลนา ครองเจ้ายุโรปมาแล้ว 2 สมัย ก่อนหน้านี้ เอซี มิลาน, อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยเข้าชิง 2 สมัยแต่ทำไม่สำเร็จ หนล่าสุดเป็น “รอสโซเนรี” ที่ทำได้เมื่อปี 1988-89 และ 1989-90 แต่เป็นชื่อเดิมคือ ยูโรเปียน คัพ ซึ่งช่วงกลางทศวรรษ 70 “เสือใต้” ก็เคยสร้างความฮือฮาด้วยการคว้าแชมป์ 3 ปีติดมาแล้ว
โชเช มูรินโญ ลุ้นแชมป์สมัย 3
มูรินโญ เป็น 1 ใน 4 กุนซือที่คว้าแชมป์ยุโรปกับ 2 สโมสรที่แตกต่างกันคือ ปอร์โต กับ อินเตอร์ มิลาน เสียดายที่ไม่ถึงฝั่งฝันกับ รีล มาดริด ก่อนกลับสู่ เชลซี ในฤดูกาลนี้ แน่นอนว่าขุมกำลังนักเตะชุดนี้เคยได้สัมผัสถ้วย “บิ๊ก เอียร์” มาแล้วฤดูกาล 2011-12 ภายใต้การคุมทัพของ โรแบร์โต ดิ มัตเตโอ ซึ่งผู้เล่นตัวเก๋าอย่าง จอห์น เทอร์รี, แฟรงค์ แลมพาร์ด, ปีเตอร์ เช็ก และ แอชลีย์ โคล ยังอยู่กันครบครัน แถมเติมความสดของ เอเดน ฮาซาร์ด, ออสการ์ และ รามิเรส รวมถึงแข้งใหม่อีกเพียบ ดังนั้นจะบอกว่าไม่มีลุ้นคงไม่ได้
ความท้าทายครั้งใหม่ของ เดวิด มอยส์
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือที่พา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้าชิง 3 จาก 6 ครั้งหลังสุด และได้แชมป์มาครอง 1 ครั้งปี 2007-08 ดังนั้นทายาทอย่าง เดวิด มอยส์ ถือว่าจะต้องเผชิญกับความกดดันแสนสาหัสและประสบการณ์ครั้งใหม่ หลังจากก่อนหน้านี้พา เอฟเวอร์ตัน เพลย์ออฟเมื่อปี 2005 แต่อกหักไม่ได้เข้ารอบแบ่งกลุ่ม ถือว่าไม่ง่ายเลย เนื่องจากซัมเมอร์ที่ผ่านมาคว้านักเตะได้แค่คนเดียวคือ มารูยาน เฟลไลนี กองกลางทีมชาติเบลเยียมจากต้นสังกัดเก่า แถมผู้เล่นชุดเดิมปีที่แล้วไปไกลแค่รอบ 16 ทีมสุดท้ายก่อนแพ้ รีล มาดริด
แผน บี ของ บาร์เซโลนา
บาร์เซโลนา ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นสโมสรที่มีเกมรุกดีที่สุดในโลก แต่ฤดูกาลที่แล้วแพ้ บาเยิร์น มิวนิก แบบย่อยยับรอบรองชนะเลิศสกอร์รวม 0-7 รวมถึงรอบแบ่งกลุ่มแพ้ กลาสโกว์ เซลติก ตามด้วยรอบ 16 ทีมสุดท้ายแพ้ เอซี มิลาน รอบ 8 ทีมสุดท้ายเสมอ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทั้ง 2 นัด แสดงให้เห็นว่าระบบการเล่น “ติกี-ตากา” ที่เลืองชื่ออาจจะถูกจับทางได้แล้ว แถมปีนี้ยังเปลี่ยนมาใช้กุนซือ เคราร์โด มาร์ติโน ดังนั้นต้องกู้ศักดิ์ศรีคืนมาจากการคว้าแชมป์ 2 ใน 3 ปี ซึ่งอาจจะต้องมีแผน บี เพื่อหวังสูงกกว่าการเข้ารอบรองชนะเลิศ 7 ปีติดต่อกัน
แกเร็ธ เบล ไม่การันตีความสำเร็จ
รีล มาดริด ทุ่มเงินสถิติโลกใหม่คว้า แกเร็ธ เบล ปีกทีมชาติเวลส์ มาจาก ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ด้วยค่าตัว 86 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,300 ล้านบาท) โดยมีเป้าหมายเพื่อคว้าแชมป์ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก สมัยที่ 10 แต่ก็ไม่การันตี เพราะที่ผ่านมา คริสเตียโน โรนัลโด, กาก้า, เมซุต โอซิล, คาริม เบนเซมา, ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท, อาร์เยน ร็อบเบน และ เวสลีย์ สไนเดอร์ ไม่อาจพาทีมไปถึงฝั่งฝัน ก่อนที่ 2 รายหลังจะย้ายออกไปและไปประสบความสำเร็จได้แชมป์กับ บาเยิร์น และ อินเตอร์ มิลาน ตามลำดับ ปีที่แล้ว “ราชันชุดขาว” เข้าถึงรอบตัดเชือกก่อนแพ้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
จับตาสโมสรเงินหนา
ถือว่าบรรดาสโมสรเงินถุงเงินถังปฎิวัติเสริมทัพกันได้อย่างน่าจับตามองทั้ง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่ได้ เอดินสัน คาวานี กองหน้าทีมชาติอุรุกวัย มาจาก นาโปลี มาประสานงานกับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ทำให้น่ากลัวไม่น้อย ปีที่แล้ว เปแอสเช เสมอ บาร์เซโลนา 2 นัดก่อนตกรอบ 8 ทีมไปอย่างน่าเสียดาย แมนเชสเตอร์ ซิตี จ่ายเหยียบ 100 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5 พันล้านบาท) กวาดตัวรุกอย่าง เฆซุส นาบาส, เฟอร์นานดินโญ และ อัลบาโร เนเกรโด ถือว่าทั้งคู่มีประสบการณ์มากขึ้นชนิดที่ว่าใครก็จะมองข้ามไม่ได้เด็ดขาด