xs
xsm
sm
md
lg

“โปรอาร์ม” ไล่ตามฝัน ปักธงไทยใน พีจีเอ ทัวร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มองไกลถึง พีจีเอ ทัวร์
ASTV ผู้จัดการรายวัน – 2013 ถือเป็นฤดูกาลที่กราฟชีวิตของ กิรเดช อภิบาลรัตน์ กำลังไต่ระดับขึ้น หลังคว้าการ์ดลุยศึก ยูโรเปียน ทัวร์ พร้อมโอกาสล้ำค่าร่วมสวิงเวทีระดับ เมเจอร์ 2 รายการ และเมื่อเก็บประสบการณ์จนสุกงอม “โปรอาร์ม” จึงขอสานฝันต่อด้วยการมองหาแชมป์สักรายการก่อนพาตัวเองเข้าไปเล่นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ที่สุดของโลกอย่าง พีจีเอ ทัวร์ ในฤดูกาลหน้า

กิรเดช วัย 24 ปีพัฒนาฝีมืออย่างรวดเร็ว หลังคว้าการ์ด ยูโรเปียน ทัวร์ เป็นปีแรก เบื้องต้นวางแผนขอเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้มากที่สุดและสามารถคว้าสิทธิ์ร่วมแข่งเมเจอร์ถึง 2 รายการ เริ่มที่ “ดิ โอเพน แชมเปียนชิป” สกอตแลนด์ ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถึงแม้ไม่ผ่านตัดตัว แต่รายการนี้ถือเป็นบทเรียนที่ยอดเยี่ยม จากนั้น 2 สัปดาห์ถัดมาได้ประเดิมศึก เวิลด์ กอล์ฟ แชมเปียนชิป “บริดจสโตน อินวิเตชันแนล” ที่รัฐโอไฮโอ เมืองลุงแซม ด้วยการจบอันดับ 40 ร่วม กระทั่งล่าสุดเรียกฟอร์มเก่งจบอันดับที่ 25 ร่วม สกอร์รวม 1 โอเวอร์พาร์ใน “พีจีเอ แชมเปียนชิป”

“โปรอาร์ม” ที่รั้งตำแหน่งผู้นำตารางเงินรางวัลสะสม เอเชียน ทัวร์ ณ ขณะนี้ยอมรับว่า “เมเจอร์แรกที่ ดิ โอเพน ผมออกสตาร์ทได้ดี เมื่อเข้าสู่วันที่สองทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดจนไม่ผ่านการตัดตัวและเริ่มมีรู้สึกท้อบ้างกับฟอร์มของตัวเอง แต่พยายามคิดว่ายังมีแมตช์ใหญ่รออยู่จึงพยายามนำประสบการณ์มาปรับใช้ตั้งเป้าหมายขอผ่านการตัดตัวให้ได้และสามารถจบอันดับ 40 ร่วม กับ 25 ร่วม จึงถือเป็นผลงานที่น่าพอใจมาก”

ถึงวันนี้ผ่านไปเพียง 4 เดือนเท่านั้นจากวันที่คว้าแชมป์ “เมย์แบงก์ มาเลเซียน โอเพน” ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อเดือนมีนาคม ทว่าสะสมเงินรางวัลในศึก ยูโรเปียน ทัวร์ โกยไปแล้วกว่า 683,627 ยูโร (ประมาณ 27.3 ล้านบาท) พร้อมกับก้าวขึ้นมารั้งมือวางอันดับ 77 ของโลก ซึ่งแผนต่อไปก่อนรูดม่านปิดฉากฤดูกาลนี้ กิรเดช หวังจะซิวแชมป์ในศึก ยูโรเปียน ทัวร์ มาประดับตู้โชว์ให้ได้สักรายการเพื่อขยับอันดับเข้าไปติดมือท็อป 50 ของโลกให้ได้ อันเป็นใบเบิกทางสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกลงแข่งในระดับพีจีเอ ทัวร์ ฤดูกาล 2014 แบบอัตโนมัติ

“ตั้งแต่เด็กๆ แล้วผมมองว่า พีจีเอ ทัวร์ เป็นการแข่งกอล์ฟรายการใหญ่ที่สุดของโลกและยังเชื่อว่านักกอล์ฟไทยมีความสามารถมากพอที่จะเข้าปักธงไทยในทัวร์นาเมนต์นี้ได้ เป้าหมายของผมหลังจากเริ่มปรับตัวได้และมีประสบการณ์มากขึ้นคือหวังว่าจะทำผลงานติดท็อป 50 ของโลกให้ได้ก่อนจบซีซันนี้ เพื่อคว้าสิทธิ์ไปแข่งปีหน้าโดยอัตโนมัติ ต่อจากนี้มีแมตช์ให้เล่นอีกกว่า 14 รายการทั้งใน เอเชียน ทัวร์, แจแปน กอล์ฟ ทัวร์ แต่หวังจะคว้าแชมป์ใน ยูโรเปียน ทัวร์ ให้ได้อย่างน้อย 1 รายการรวมถึงต้องเลือกเล่นในแมตช์ใหญ่ๆ ที่มีการคิดคะแนนสูงเพื่อขยับแรงกิงโลกอย่างต่อเนื่อง” กิรเดช กล่าว

ทั้งนี้ในเรื่องการเดินทางที่ใช้เวลามากขึ้นอาจทำให้เวลาซ้อมลดลง กิรเดช ชี้ว่าต้องวางแผนให้ดีในอีกกว่า 14 รายการที่เหลือทั้ง เอเชียน ทัวร์ อย่าง “ซีไอเอ็มบี คลาสสิก” กับ “เอชเอสบีซี แชมเปียนชิป” ส่วน ยูโรเปียน ทัวร์ มีแมตช์อย่าง “จอห์นนี วอล์คเกอร์ แชมเปียนชิป”, “ไอเอสพีเอส ฮานดะ เวลส์ โอเพน” รวมถึง “โอเมกา ยูโรเปียน มาสเตอร์” รออยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของซีซัน ซึ่งจะพยายามแข่งติดกันไม่เกิน 3 รายการและหาช่วงพักเพื่อไม่ให้รู้สึกเหนื่อยเกินไป

ขณะเดียวกันโปรกอล์ฟเลือดไทยได้เปรยถึงเรื่องการย้ายไปตั้งหลักปักฐานในเมืองลุงแซมฤดูกาลหน้าด้วยเช่นกัน เพื่อเตรียมตัวเข้าแข่งทัวร์ใหญ่ที่สุดของโลก แต่ยังไม่ได้ฟันธงเลือกว่าเป็นในรัฐไหน โดยต้องใช้เวลาช่วงปิดซีซันพิจารณาอีกครั้ง เพราะถ้าหากคว้าการ์ดใน พีจีเอ ปีนี้ไม่สำเร็จอาจต้องเลือกว่าจะร่วมแข่งใน “เว็บบ์ ดอท คอม” ทัวร์รองเป็นเวลา 2 ปี เพื่อทำอันดับ หรือจะลงแข่งใน ยูโรเปียน ทัวร์ ต่อเหมือนในปัจจุบัน

ท้ายที่สุดนี้ไม่ว่า กิรเดช จะทำอันดับติดท็อป 50 ตามเป้าที่วางไว้สำเร็จในฤดูกาลนี้หรือไม่ แต่สิ่งสำคัญสวิงหนุ่มรายนี้เชื่อมั่นเต็มเปี่ยมว่าอนาคตอันใกล้จะต้องมีนักกอล์ฟชาวไทยสามารถเข้าไปโบกธงในเวที พีจีเอ ทัวร์ ได้อย่างแน่นอน ส่วนตัวก็จะขอทำผลงานให้ดีที่สุดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับก้านเหล็กรุ่นน้องที่จะก้าวขึ้นมาในรุ่นต่อไป เหมือนในอดีตที่ตนเองยึดเอารุ่นพี่อย่าง บุญชู เรืองกิจ เป็นตัวอย่างและมาไกลได้ถึงทุกวันนี้
ลุย “พีจีเอ แชมเปียนชิป” มาแล้ว
แชมป์ เมย์แบงก์ จุดเริ่มต้นความสำเร็จ
ลีลาในศึก “ดิ โอเพน”
กำลังโหลดความคิดเห็น