ASTV ผู้จัดการรายวัน - ก่อนไปลุ้น ปาร์ค อินบี โปรสาวเกาหลีสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์เมเจอร์ 4 ทัวร์นาเมนต์ติดต่อกัน “วีเมนส์ บริติช โอเพน” ช่วงต้นเดือนสิงหาคม สุดสัปดาห์นี้ขอเป็นคิวให้บรรดาก้านเหล็กหนุ่มลงประชันวงสวิงในศึก “ดิ โอเพน แชมเปียนชิป” ณ สนาม มัวร์ฟิลด์ กอล์ฟ ลิงค์ส ประเทศสกอตแลนด์ โดยปีนี้สื่อต่างชาติเทน้ำหนักไปที่ใครจะผงาดขึ้นคว้าแชมป์เมเจอร์แรกของตัวเอง มากกว่าโฟกัสที่ ไทเกอร์ วูดส์ และ รอรีย์ แม็คอิลรอย
การแข่งขันกอล์ฟเมเจอร์ 2 รายการแรกของปี 2013 อย่าง “เดอะ มาสเตอร์ส” และ “ยูเอส โอเพน” ที่เมืองลุงแซม กลายเป็นเวทีปลดล็อกแชมป์เมเจอร์ใบแรกของทั้ง อดัม สกอตต์ จากออสเตรเลีย และ จัสติน โรส ก้านเหล็กชาวเมืองผู้ดีตามลำดับ เมื่อถึงคิวศึก “ดิ โอเพน” ครั้งที่ 142 ซึ่งจะเปิดฉากหวดรอบแรกในวันพฤหัสบดีที่ 18 ก.ค.นี้ ทำให้ “กอล์ฟ แชนแนล” สื่อสวิงชั้นนำของโลกวิเคราะห์ว่า หนนี้มีโอกาสที่จะได้เห็นโปรม้ามืดขึ้นมาลุ้นคว้า “คลาเร็ท จัก” ประเดิมเมเจอร์แรกของตัวเองมีมากกว่า
จากสถิติที่ระบุว่าในช่วง 5 ปีหลังสุด ไม่เคยมีนักกอล์ฟมือท็อป 10 ของโลกคว้าแชมป์ได้แม้แต่ครั้งเดียว โดยสถานการณ์ของ วูดส์ มือ 1 ของโลกที่ต้องการลุ้นเมเจอร์ใบที่ 15 เพิ่งหายเจ็บข้อศอกซ้าย จึงทำผลงานในเมเจอร์ 2 รายการที่ผ่านมายังไม่แน่นอนเหมือนเก่า ส่วน แม็คอิลรอย ดาวรุ่งไอร์แลนด์เหนือ ผ่านมาครึ่งปีฟอร์มยังไม่กระเตื้อง ลุ้นหนักในการผ่านตัดตัวแต่ละทุกสัปดาห์ จึงไม่แปลกที่โอกาสของ เซร์จิโอ การ์เซีย จากสเปน, ลุก โดนัลด์ ขวัญใจเจ้าถิ่น หรือแม้แต่ แบรนด์ท สนีเดเกอร์ แชมป์ “เฟดเอ็กซ์ ซีรีส์” ปี 2012 จะมีมากขึ้น
โดย การ์เซีย วัย 33 ปี หวังตามรอย สกอตต์ และ โรส เปิดซิงเมเจอร์แรกให้ได้ในปีนี้ หลังต้องอกหักมา 59 ครั้ง ซึ่งความจริงแล้ว ด้วยฝีมือโปรสัญชาติสเปนไม่ควรต้องคอยจนถึงวันนี้ ทว่าเขาดันมาเกิดในยุคเดียวกับ “พญาเสือ” ที่เป็นคู่กัดตลอดมานับตั้งแต่ถูกสวิงมือ 1 โลกคนปัจจุบัน แย่งแชมป์ “พีจีเอ แชมเปียนชิป” ไปตั้งแต่ปี 1999 ทั้งนี้ “เอล นินโญ” ใกล้เคียงกับการคว้าแชมป์บนแผ่นดินผู้ดีมากที่สุดในปี 2007 ด้วยการนำเดี่ยวมาตั้งแต่รอบแรก แต่ตกม้าตายพ่าย พาแดรก แฮร์ริงตัน ก้านเหล็กไอริชในการดวลเพลย์ออฟ มาคราวนี้ การ์เซีย มือ 15 ของโลก เข้าเกณฑ์ตามสถิติและคงไม่อยากวืดแชมป์อีกครั้ง
ด้าน สนีเดเกอร์ เป็นหนึ่งในนักกอล์ฟไม่กี่คนในทัวร์ที่มีอายุครบ 32 ปีในซีซันนี้ ดันบังเอิญอายุเท่ากับเจ้าของแชมป์เมเจอร์ 2 รายการแรกของปีอย่าง สกอตต์ และ โรส พอดี ซึ่งหากตัดเหตุผลด้านทฤษฏีกับมือฝีมือออกไป จับเทียบตามบัญญัติไตรยางศ์เขาคือโปรวัย 32 ปี ที่มีสิทธิ์ประเดิมแชมป์เมเจอร์แรกใน “ดิ โอเพน” ตามรอยเพื่อร่วมอาชีพมากที่สุด อย่างไรก็ดี ในความเป็นจริงประสบการณ์แข่งเมเจอร์ 23 ครั้ง คว้าอันดับ 3 ร่วมรายการนี้เมื่อปีก่อน ทำให้ สนีเดเกอร์ เป็นอีกหนึ่งชื่อที่น่าจับตามอง
ขณะที่ ลุก โดนัลด์ อดีตมือ 1 โลกที่ไร้โชคในระดับเมเจอร์ออกมาประกาศทุกฤดูกาลว่า ต้องการจารึกชื่อบนถ้วยเมเจอร์ให้ได้สักครั้ง และแรงกระตุ้นจากเพื่อนร่วมอาชีพที่เพิ่งฉลองแชมป์ใน 2 รายการแรกของปีคงยิ่งทำให้ โดนัลด์ มีความมุ่งมั่นมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อพ่วงด้วยเสียงเชียร์และความคุ้นเคยในฐานะเจ้าถิ่นเขาน่าจะทำได้ดีกว่าการจบอันดับ 5 ร่วมในปีที่ผ่านมา
สำหรับ ลี เวสต์วูด สวิงจอมเก๋าจากอังกฤษที่อายุขึ้นหลัก 40 ปี เหลือเวลาไม่มากในการทำตามฝันหากไม่อยากถูกจารึกเป็นยอดนักกอล์ฟของโลกรายที่ 8 ในประวัติศาสตร์ที่มีอายุเกินหลัก 4 แต่ไม่สามารถซิวแชมป์เมเจอร์มาประดับบารมีได้ “เวสตี” ฟอร์มพีคสุดในปี 2010 เคยเป็นรองแชมป์ 2 รายการที่ “เดอะ มาสเตอร์ส” และรายการนี้ โดยสุดสัปดาห์นี้เขามีโอกาสพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง
นอกจากนี้ “บริติช โอเพน” ปีนี้เป็นหนแรกที่ก้านเหล็กไทยสร้างประวัติศาสตร์เข้าร่วมแข่งได้ถึง 3 ราย ได้แก่ “โปรช้าง” ธงชัย ใจดี มือหนึ่งเอเชีย 3 สมัย (2001, 2004 และ 2009) ที่ลงแข่งรายการนี้เป็นครั้งที่ 7 และ “โปรเล็ก” ถาวร วิรัตน์จันทร์ ที่เคยทำอันดับดีสุดที่ 31 ร่วม เมื่อปี 2006 รวมทั้ง “โปรอาร์ม” กิรเดช อภิบาลรัตน์ สวิงเลือดใหม่ที่เพิ่งได้การ์ดลุยยูโรเปียนทัวร์ เมื่อต้นปี ซึ่งแฟนกอล์ฟชาวไทยต้องติดตามให้กำลังใจเชียร์กันต่อไป