ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ในวงการกอล์ฟการที่บรรดาทัวร์ริงโปรหัวแถวของโลกเปลี่ยนแคดดีกันเป็นว่าเล่นถือเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ เพราะไม่ว่าจะเปลี่ยนระหว่างซีซัน ระหว่างสัปดาห์ หรือระหว่างวันแข่งขันก็มีให้เห็นมากมาย แต่ถ้าหากจะมีก้านเหล็กสักคนที่เชื่อใจและใช้บริการคนแบกถุงกอล์ฟเพียงรายเดียวตลอดอาชีพคงหาได้น้อยมาก ซึ่งความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของ ฟิล มิคเคลสัน กับแชมป์เมเจอร์ “ดิ โอเพน แชมเปียนชิป” สมัยแรกเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน “จิม โบนส์ แม็คเคย์” คือผู้อยู่เบื้องหลังที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้
จิม แม็คเคย์ เดินตาม มิคเคลสัน ทุกทัวร์นาเมนต์มีพื้นเพเป็นชาวเมืองผู้ดี แต่ย้ายไปเติบโตที่ฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ และหันมาเอาดีทางด้านกอล์ฟได้เป็นนักกีฬาของวิทยาลัยโคลัมบัส ในรัฐจอร์เจีย ก่อนผันตัวเองมาเปิดร้านขายอุปกรณ์สวิงและใช้เวลาว่างรับงานแคดดีให้กับ ลาร์รี ไมซ์, สกอตต์ ซิมพ์สัน และ เคอร์ติส สเตรนจ์ จากนั้นเป็นสวิง “สิงห์อีซ้าย” ที่มาติดต่อจ้างให้ไปช่วยแบกถุงในเวที พีจีเอ ทัวร์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นและสถานีสุดท้ายของแคดดีรายนี้
ว่ากันว่าแม่ทัพที่เก่งกาจในการรบนอกจากอาวุธคู่กายยังต้องมีทหารเอกคู่ใจ แต่สำหรับ มิคเคลสัน นอกจากฝีมือและพรสวรรค์ที่ติดตัวมา อีกหนึ่งฟันเฟืองที่ช่วยให้ “เลฟตี” ประสบความสำเร็จมากมายคือชายที่ชื่อ แม็คเคย์ แคดดีคนเก่งที่ทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขเดินแบกถุงกอล์ฟให้เขามานานกว่า 21 ปี ตั้งแต่สมัยปี 1992 ที่ก้าวขึ้นมาเทิร์นโปรเล่นกอล์ฟอาชีพครั้งแรก และมีส่วนพาโปรชาวมะกันคว้าแชมป์มาทั้งหมด 51 รายการ
โดยโปรวัย 43 ปี เคยกล่าวถึงแคดดีของเขาว่า “โบนส์ เป็นผู้ชายคนเดียวในสนามกอล์ฟที่ต้องการเห็นผมเล่นดี ดังนั้นนี่คือเหตุผลว่าทำไมผมถึงอยู่ในจุดนี้กับเขาและยอมถูกบ่นมากมาย เพราะเขาคือคนเดียวที่พยายามช่วยและหาทางออกให้กับผมในยามคับขัน”
จากผลงานที่ผ่านมาจึงไม่น่าแปลกที่คู่หูของ “เลฟตี” จะถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในแคดดีที่เยี่ยมที่สุดของยุคนี้ ร่วมกับ สตีฟ วิลเลียมส์ อดีตคู่หู ไทเกอร์ วูดส์ ที่ปัจจุบันทำงานกับ อดัม สกอตต์ และ เกร็ก เฮียร์มอน แคดดีของ ชาร์ล ชวาร์ตเซล มือดังจากแอฟริกาใต้ ซึ่งเมื่อวัดผลงานและเทียบเรตเงินเดือนของแคดดีทั่วไปตามท้องตลาดที่ได้ค่าจ้างสัปดาห์ละ 1,000 - 1,500 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 30,000 - 45,000 บาท) ถือว่าธรรมดามาก เพราะสำหรับ โบนส์ เขาอยู่ด้วยใจและค่าจ้างที่ได้รับคือส่วนแบ่ง 10 เปอร์เซ็นต์ของเงินรางวัลในแต่ละรายการที่ยอดโปรชาวอเมริกันทำได้ หากเป็นแชมป์เงินจะสูงตามไปด้วยแต่กลับกันถ้าไม่ผ่านตัดตัวเขาก็ไม่ได้เงินเช่นกัน
ล่าสุดหลังจากการคว้าถ้วย “คลาเร็ท จัก” ที่สนามมัวร์ฟิลด์ ประเทศสกอตแลนด์ มิคเคลสัน ถือโอกาสชวน แม็คเคย์ ที่มีฐานะเป็นมากกว่าเจ้านาย-ลูกน้อง ร่วมปาร์ตีกับครอบครัวบนเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวระหว่างเดินทางกลับเมืองลุงแซม งานนี้ทำเอาแคดดีคนเก่งที่มีแผนจะค้างอีกคืนปฏิเสธไม่ลง
สำหรับ โบนส์ และ “เลฟตี” เคยอกหักด้วยกันมานับไม่ถ้วน เอาเท่าที่จำความทั้งคู่ได้ชื่อว่าเป็นพระรองในเมเจอร์ “ยูเอส โอเพน” ร่วมกันถึง 6 สมัย แต่กับชัยชนะครั้งนี้ที่แผ่นดินวิสกีพวกเขาต่างยกให้เป็นแชมป์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาชีพ “ผมว่ามันเป็นอารมณ์ที่สวยงามกับการได้ทำงานร่วมกับใครบางคนนานถึง 21 ปี ได้ดูช๊อตการเล่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิตในรอบสุดท้ายของศึกกอล์ฟรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก”
“ผมแทบไม่ได้สั่งหรือแนะนำเขา ผมเคยเห็น ฟิล ทำสิ่งที่น่าทึ่งมากมาย แต่ผลงานการตีเข้ามา 5 อันเดอร์พาร์ 66 รอบสุดท้าย ที่ดิ โอเพน ผมพูดไม่ออกเลยว่ามันมีความสุขแค่ไหน เขามาที่นี่เพื่อเป็นผู้ชนะแต่ที่ผ่านมาเรามีเปอร์เซ็นต์ทำสำเร็จน้อยมาก เขาไม่ผ่านตัดตัวปี 2012 ที่รอยัล ลิธัม ไม่เคยเป็นแชมป์ยูเอส โอเพน มันเจ็บปวดแต่ก็ต้องเก็บไว้และวางแผนเพื่อวันต่อไป จนมาถึงครั้งนี้เขาทำมันสำเร็จจนได้” แม็คเคย์ กล่าวทิ้งท้าย
เรื่องโดย : ปภังกรณ์ นิลวรกุล
