ASTV ผู้จัดการรายวัน - กีฬามวยสากลสมัครเล่นนับเป็นหนึ่งในกีฬาความหวังของทีมชาติไทยในการลุ้นเหรียญทองตั้งแต่ระดับโลกอย่าง โอลิมปิก ไล่มาถึงระดับทวีปอย่าง เอเชียนเกมส์ หรือแม้แต่ระดับภูมิภาคอย่าง “ซีเกมส์” ซึ่งการแข่งขันมหกรรมกีฬาแห่งอาเซียน ครั้งที่ 27 ณ กรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมาร์ ระหว่างวันที่ 11-20 ธันวาคมนี้ ขุนพลเสื้อกล้ามไทยถูกจับจ้องหมายตาเป็นพิเศษว่ามีโอกาสกวาดทั้ง 10 เหรียญทอง จากกำปั้นชาย 6 รุ่น และกำปั้นหญิง 4 รุ่น
ซึ่ง “ตลาดแขก” ทวีวัฒน์ อิสลาม หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมกำปั้นไทย ชุดลุยศึก “เนปิดอว์เกมส์” เปิดเผยว่าได้เรียกนักกีฬาเข้ามาเก็บตัวแล้ว และในรุ่นต่างๆ ก็มีการแข่งขันกันเพื่อหาตัวแทนทีมชาติไทยที่ดีที่สุดสำหรับโอกาสคว้าเหรียญทองในแต่ละรุ่น โดยมีโปรแกรมอุ่นเครื่องศึกมวยนานาชาติ “ไต้หวัน อินเตอร์เนชันแนล บ๊อกซิง ทัวร์นาเมนต์” ระหว่างวันที่ 1-31 สิงหาคม ที่กรุงไทเป ไต้หวัน โดยคาดว่าน่าจะมีการประกาศรายชื่อทีมชาติไทยในช่วงเดือนกันยายน ก่อนใช้การแข่งขันศึกเวิลด์ แชมเปียนชิปส์ ที่กรุงอัลมาตี ประเทศคาซัคสถาน ระหว่าง 11-27 ตุลาคมนี้ เป็นรายการเตรียมความพร้อม ทั้งนี้ “ตลาดแขก” ได้นำกำปั้นแต่ละคนที่เป็นคู่แข่งในแต่ละรุ่นมาเปรียบมวยถึงโอกาสลุยซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ดังต่อไปนี้
รุ่น 49 กิโลกรัมชาย ยุรนันท์ โด่กระโทก เจ้าของเหรียญทองชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ตัวตายตัวแทนของ แก้ว พงษ์ประยูร ถือว่ามีพื้นฐานมวยที่ดี จากการวางรากฐานในโรงเรียนกีฬาเทศบาลจังหวัดนครราชสีมา ทว่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยนสไตล์จากการชกไปสู่ระดับมวยอาชีพให้มากขึ้น และถือว่ามีดีกรีดีกว่า ศาสตรา ทาแน่น เจ้าของรองแชมป์ประเทศไทย ที่มีอายุค่อนข้างมากถึง 28 ปีแล้ว
รุ่น 52 กิโลกรัมชาย ตัวเต็งอย่าง “เจ้าสด” ฉัตรชัย บุตรดี ที่พกประสบการณ์เวทีระดับโลก และประสบความสำเร็จกับรางวัลต่างๆ มากมาย บวกกับวินัยในการฝึกซ้อมที่เป็นแบบอย่างให้กับรุ่นน้องได้เป็นอย่างดี ต้องมาเบียดกับ ธเนศ องค์จันต๊ะ ดีกรีเหรียญทองแดง ศึกเอเชีย แชมเปียนชิปส์ ที่ประเทศจอร์แดน ก็มีดีไม่แพ้กัน ต้องวัดกันถึงฎีกาที่ 2 รายการสำคัญที่ไต้หวันและคาซัคสถาน
รุ่น 56 กิโลกรัมชาย แม้ ดอนชัย ทาธิ จะเป็นตัวยืนของรุ่นนี้ จากพลังกำปั้นที่หนักแน่น และโดดเด่นอยู่แล้ว ขณะที่คู่แข่งอย่าง ธนาวุฒิ เพชรขุ้ม น้องชายของ วรพจน์ เพชรขุ้ม ดีกรีเหรียญเงินโอลิมปิก 2004 แต่ก็ยังไม่สามารถเบียดสู้อย่างสูสีได้เลย อีกทั้ง “ตลาดแขก” ยังยอมรับว่าอยากได้นักชกรุ่นนี้ที่มีฝีมือเทียบเคียงกับ สมจิตร จงจอหอ, ภาคภูมิ แจ้งโพธิ์นาค เนื่องจากเป็นรุ่นที่สามารถทำน้ำหนักเพิ่ม-ลด ไปชกในรุ่นใกล้เคียงได้แบบไม่เสียเปรียบรูปร่าง ทว่ายังไม่มีกำปั้นรายใดใกล้เคียงในเวลานี้
รุ่น 60 กิโลกรัมชาย นับว่าเป็นรุ่นที่น่าจับตามอง โดยตัวเต็งอย่าง สายลม อาดี กำปั้นที่ผ่านสมรภูมิมาอย่างโชกโชน อาทิ โอิลิมปิก 2012 พัฒนาฝีมือรุดหน้าไปมาก โดยสามารถคว้าเหรียญเงินในศึกชิงแชมป์เอเชีย ที่เมืองอัมมาน ประเทศจอร์แดน หลังพ่ายต่อ เบริก อับดรัคมานอฟ จากคาซัคสถานในรอบชิงชนะเลิศไปอย่างน่าเสียดาย ขณะที่ ชัยยา รวมธรรม คู่แข่งก็มีฝีมือดีไม่น้อย แม้เป็นตัวสำรอง แต่พร้อมแทนที่ได้ตลอดเวลา
รุ่น 64 กิโลกรัมชาย วุฒิชัย มาสุข ยังเป็นตัวยืนมาโดยตลอดจากผลงานมากมาย อาทิ แชมป์คิงส์คัพ, แชมป์เอเชีย 2009 ที่ประเทศจีน, เหรียญทองแดง ซีเกมส์ ที่ประเทศลาว, เหรียญทองแดง เอเชียนเกมส์ 2010 “กวางโจวเกมส์” ยากเกินกว่าที่ อัจฉริยะ แห้วสุโน นักชกอ่อนประสบการณ์กว่าที่มีแต่ความสดจะเบียดได้
รุ่น 69 กิโลกรัมชาย ด้วยความหนักหน่วงในการออกหมัด ทำให้ อภิเชษฐ์ แสนสิทธิ์ เจ้าของเหรียญทองซีเกมส์ 2011 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ถูกมองเป็นนักชกที่อยู่เหนือกว่าคู่แข่งในย่านอาเซียนอยู่มาก โดยเคยโชว์พลังกำปั้นส่งคู่ต่อสู้แพ้น็อคไปแล้วในศึกชิงแชมป์เอเชียมาแล้ว
รุ่น 75 กิโลกรัมชาย อภิสิทธิ์ ขันโคกเครือ แม้จะเป็นนักมวยที่มีสไตล์การชกดุดันแต่ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ จากการยอมรับของหัวหน้าโค้ชทีมชาติไทย อย่างไรก็ตามสิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับ “ตลาดแขก” คงเป็น อนวัช ถองกระโทก กำปั้นตัวแทนรุ่น 81 กิโลกรัมชาย หลังจากหยิบเหรียญทองแดง ศึกชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศจอร์แดน มาครองชนิดเหนือความคาดหมาย จากสไตล์การออกหมัดไม่ต่างจากรูปแบบการชกของนักชกรุ่นใหญ่ในยุโรป ทำให้มีการคาดหวังกันว่าจะสามารถประสบความสำเร็จได้ เช่นเดียวกับ สุริยา ปราสาทหินพิมาย อดีตนักชกรุ่น 75 กิโลกรัม ที่เคยวคว้าเหรียญทองแดงจากโอลิมปิก 2004
สุดท้ายขุนพลนักชกสาวไทยที่สมาคมมวยสากลแห่งประเทศไทยส่งอีก 4 รุ่นประกอบด้วยรุ่น 51 กิโลกรัมหญิง โสภิดา สะทุมรัมย์, รุ่น 54 กิโลกรัมหญิง เปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม, รุ่น 57 กิโลกรัมหญิง ทัศมาลี ทองจันทร์ และรุ่น 60 กิโลกรัมหญิง สุดาพร ศรีสอนดี ต่างเป็นนักกีฬาหน้าเดิมที่คว้าเหรียญทองยกเซ็ต ขณะที่นักกีฬาชุดเยาวชนต่างไม่อาจก้าวมาเทียบเคียงได้ เนื่องจากมีนักกีฬาจำนวนน้อย และขาดการแข่งขันรายการใหญ่ๆ ให้ประลองฝีมือเอง