xs
xsm
sm
md
lg

“เจ๊มล” ดักคอ “บังยี” อย่าฟ้องฟีฟา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เชิญ กกท. กับ กรมการปกครอง เข้าชี้แจง
นางนฤมล ศิริวัฒน์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการการกฎหมาย สวัสดิการ และสิทธิประโยชน์ด้านการกีฬา ดักคอ “บังยี” วรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย 3 สมัย ว่าไม่ควรนำปัญหาการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลวาระใหม่ไปฟ้องร้องต่อสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟา) หากทุกอย่างมีข้อสรุปออกมาแล้วเป็นไปตามกฎหมายไทย

เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นางนฤมล ศิริวัฒน์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการการกฎหมาย สวัสดิการ และสิทธิประโยชน์ด้านการกีฬา เรียนเชิญตัวแทนจากการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และ กรมการปกครอง มาพูดคุยชี้แจงในเรื่องการบังคับใช้กฏหมายกรณีปัญหาการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย คนใหม่ ณ ห้อง 104 อาคารรัฐสภา 2 โดยมี นายมนตรี ไชยพันธุ์ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา พร้อมด้วย ดร.อลงกต วรกี ผู้อำนวยการส่วนรักษาความสงบเรียบร้อย 2 (สรร.2) สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง เข้าชี้แจง

โดยภายหลังการหารือกว่า 3 ชั่วโมง นางนฤมล ได้เผยถึงกรณีที่ นายวรวีร์ มะกูดี รักษาการนายกสมาคมฟุตบอลฯ เตรียมที่จะลดจำนวนเสียงของสโมสรสมาชิกที่ใช้ในการเลือกตั้งให้เหลือ 72 เสียงว่า ไม่สามารถทำได้ “ตามที่ทางคณะกรรมการได้ศึกษากฎหมายดูแล้ว มีความเห็นว่าการที่ทางสมาคมฯจะตัดเสียงสมาชิกออกนั้นไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเป็นการขัดต่อข้อบังคับของสมาคมฯเองและกฎหมายแพ่ง รวมถึงการที่จะใช้ธรรมนูญใหม่จัดเลือกตั้งก็ตาม เนื่องจากยังมีหลายข้อที่ทางกรมการปกครองทักท้วงว่าผิดต่อกฎหมาย ถึงแม้ทางสมาคมฯจะมีการรับรองมติ แต่ก็เป็นไปได้ที่จะไม่ได้รับการจดทะเบียน แต่ทั้งนี้ทุกฝ่ายก็มีสิทธิ์ที่จะร้องเรียนได้เช่นกัน”

พร้อมกันนี้ได้มีผู้สื่อข่าวถามขึ้นมาว่า หากหลังจากนี้มีข้อสรุปออกมาว่าทางสมาคมฟุตบอลฯไม่สามารถใช้ธรรมนูญใหม่ในการจัดการเลือกนายกสมาคมฯตั้งตามที่ นายวรวีร์ อ้างว่าเป็นไปตามฟีฟาได้ แล้วมีการร้องเรียนต่อลูกหนังโลกเกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร ในเรื่องนี้ “เจ๊มล” ได้กล่าวว่า “ทาง กมธ.กีฬาวุฒิสภา ขอร้องว่าอย่าให้ถึงขั้นมีการนำเรื่องไปฟ้องร้องต่อฟีฟาเลย เพราะปัจจุบันนี้ประเทศไทยบอบช้ำมามากแล้วในส่วนของกีฬาโลก”

“การที่คุณวรวีร์ หรือใครจะทำอะไรควรจะต้องระมัดระวังว่าจะเกิดประโยชน์หรือความเสียหายต่อประเทศไทยอย่างไรบ้าง ซึ่งถ้าฟีฟาจะมีความเห็นอย่างไร ก็ขอให้ทางฟีฟาดำเนินการเอง อย่าให้มีกรณีที่ว่าคนไทยเป็นคนนำเรื่องไปฟ้อง เพื่อที่จะมีบทลงโทษต่อประเทศไทยเอง เราจึงแนะนำว่าคุณวรวีร์ ไม่ควรนำเรื่องนี้ไปร้องเรียนต่อฟีฟา หากทุกอย่างมีข้อสรุปออกมาแล้วเป็นไปตามกฎหมายไทย เพราะจะเป็นการชักศึกเข้าบ้าน ซึ่งจากนี้เป็นหน้าที่ของ กกท.ที่จะเป็นผู้ชี้แจงต่อฟีฟาให้เข้าใจว่าธรรมนูญใหม่นั้นยังขัดต่อกฎหมายไทยอยู่” นางนฤมลกล่าว

ด้าน ดร.อลงกต ได้เปิดเผยถึงการที่จะเปลี่ยนแปลงข้อบังคับของสมาคมฯให้เป็นไปตามลูกหนังโลกในอนาคต เนื่องจากปัจจุบันยังผิดต่อกฎหมายไทยว่า เป็นเรื่องภายในของสมาคมฯที่จะต้องจัดการเอง จากนั้นจึงนำไปให้ กกท.รับรอง สุดท้ายทางกรมการปกครองจึงจะพิจารณาว่าสามารถจดทะเบียนได้หรือไม่
ดร.อลงกต จากกรมการปกครอง
กำลังโหลดความคิดเห็น