การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดไฟเขียวให้ 108 สโมสรสมาชิก สามารถจัดการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยคนใหม่ ในวันที่ 8 สิงหาคม 2556 เองได้ ตามข้อบังคับของสมาคมฯ พร้อมเผยได้ส่งเรื่องชี้แจงกับสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟา เป็นที่เรียบร้อยเพื่อป้องกันบทลงโทษที่จะตามมา
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เวลา 11.00 น.นายวิรัช ชาญพานิชย์ และ นายอดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายอรรณพ สิงห์โตทอง รองประธานสโมสรชลบุรี เอฟซี, นายณฐภณ ปัญญาคณานุกูล ประธานสโมสรพัทยา เอฟซี ในฐานะผู้สนับสนุน เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เพื่อขอจัดการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯวาระใหม่ โดยใช้เสียงของสโมสรสมาชิกจำนวน 108 ทีม ซึ่งมากกว่า 1 ใน 3 ตามข้อบังคับของสมาคมฟุตบอลฯฉบับปัจจุบัน พร้อมกำหนดวันเวลาและสถานที่เลือกตั้ง
โดยภายหลังจากที่ทั้ง 4 คน ได้เข้าหารือกับ นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย นายวิรัช ได้เปิดเผยว่า “สโมสรสมาชิกจำนวน 108 ทีม ต้องการใช้สิทธิอันชอบธรรมตามข้อบังคับ และขณะนี้ นายวรวีร์ มะกูดี ได้หมดเวลารักษาการ 30 วันลงไปแล้ว ซึ่งจำนวนเสียงที่เรามีอยู่มันมากกว่าครึ่ง ซึ่งเราก็สามารถเปิดการเลือกตั้งเองได้ และเราได้กำหนดแล้วว่าจะจัดการเลือกตั้งในวันที่ 8 สิงหาคม เวลา 9.00 น.ที่ ห้องประชุมสโมสรกองทัพบก (วิภาวดี)”
พร้อมกันนี้ “บิ๊กก๊อง” ได้กล่าวต่อถึงการเปลี่ยนแปลงธรรมนูญข้อบังคับของสมาคมฟุตบอลให้เป็นไปตามที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟา) กำหนดว่า “เราเคารพการทำงานของฟีฟาอยู่แล้ว อย่างที่เคยบอกไปว่าธรรมนูญฉบับใหม่นี้มีแค่ข้อเดียวที่เรารับไม่ได้คือการตัดสิทธิ์สโมสรที่มีสิทธิ์ออกเสียงเดิม ถึงตรงนี้ผมก็ยังไม่คิดว่าฟีฟาจะแบนเรา ถึงจะแบนแต่เมื่อเราได้ทีมทำงานชุดใหม่เราก็จะประสานงานกับฟีฟาทำงานร่วมกัน ซึ่งก็สามารถแก้ไขได้โดยใช้ระยะเวลาไม่นาน”
ขณะที่ นายกนกพันธุ์ ได้เปิดไฟเขียวให้สโมสรสมาชิกดำเนินการ “การที่สโมสรสมาชิกได้ยื่นเรื่องตามข้อบังคับขอจัดการเลือกตั้งเองนั้น ทาง กกท.ได้หารือกับกรมการปกครองแล้วว่าสามารถทำได้ ซึ่งการที่ฝ่ายนายวิรัชจะเปิดการเลือกตั้งวันที่ 8 ส.ค.ก็สามารถทำได้ตามกรอบของข้อบังคับ ฉะนั้นจึงต้องขอเลื่อนการแถลงข่าวเกี่ยวกับข้อสรุปต่างๆ ในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ออกไปก่อน”
“สำหรับในเรื่องของธรรมนูญใหม่ที่ทางสมาคมฟุตบอลฯต้องการแก้ไขนั้น กรมการปกครองได้ยืนยันว่ามีบางข้อยังไม่สอดคล้องกับกฎหมายไทย จึงยังไม่สามารถที่จะเปลี่ยนได้ ส่วนจะมีบทลงโทษจากทางฟีฟาหรือไม่นั้น ทาง กกท.ก็ได้ชี้แจงกับทางลูกหนังโลกเป็นที่เรียบร้อย คงจะได้คำตอบในไม่ช้า”
