ปัญหาการเลือกตั้งนายใหญ่บอลไทยคนใหม่ ยังคงยืดเยื้อ แม้ นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เตรียมเรียกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เข้าชี้แจง และกำหนดวันแจ้งผลการสั่งการในวันที่ 30 กรกฎาคม นี้ แต่หากยังหาข้อสรุปไม่ได้ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย คือให้บอร์ด กกท.พิจารณาในวันที่ 30 สิงหาคม
เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 17 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการ กกท.ตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงขั้นตอนดำเนินการของทางหน่วยงานที่เตรียมเข้าไปยุติปัญหาการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่ยังยืดเยื้อ หลังทาง นายวรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมฯ 3 สมัย ต้องการที่จะแก้ไขข้อบังคับให้เป็นฉบับใหม่ โดยมี 72 เสียงในการโหวตเลือกตั้ง ก่อนที่จะจัดการเลือกตั้งในวันที่ 23 กันยายน โดยอ้างว่าเป็นไปตามกรอบเวลาที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟา) กำหนด แต่ฝ่ายค้านจำนวน 108 สโมสร ได้ยื่นหนังสือจี้ให้เร่งจัดการเลือกตั้งตามข้อบังคับเดิม คือภายในวันที่ 23 กรกฎาคม นี้
โดย นายกนกพันธุ์ ชี้แจงว่า วันนี้ทาง กกท.ได้ลงนามส่งหนังสือเชิญสมาคมฟุตบอลฯ (นายกสมาคมฯ, เลขาธิการ, นายทะเบียน, ฝ่ายกฎหมาย) เข้ามาชี้แจงในวันที่ 24 ก.ค.หลังจากนั้นจะเชิญผู้แทนสมาชิกและกรมการปกครองเข้าหารือในวันที่ 25-29 ก.ค.ก่อนที่จะแจ้งผลและมีคำสั่งถึงสมาคมฟุตบอลฯในวันที่ 30 ก.ค.
ซึ่งถ้าสมาคมฟุตบอลฯชี้แจงแล้วไม่มีเหตุผลพอ ทาง กกท.จะสั่งให้สมาคมฯจัดการเลือกตั้งในวันที่ 9 ส.ค.และหากยังไม่ดำเนินการก็จะนำเรื่องเข้าคณะกรรมการ กกท.ในวันที่ 30 ส.ค.และนำไปพิจารณาตามข้อบังคับ กกท.ฉบับที่ 6 ข้อ 15
แต่หากสมาคมฟุตบอลฯชี้แจงแล้วรับฟังได้ จะให้สมาคมฟุตบอลฯแก้ไขข้อบังคับในวันที่ 9 ส.ค.ซึ่งถ้าผ่านจะนำไปจดทะเบียนแล้วเลือกตั้งตามข้อบังคับใหม่ในวันที่ 23 ก.ย.แต่หากไม่ผ่าน ทาง กกท.จะออกคำสั่งให้ทางสมาคมฯประชุมเลือกตั้งภายใน 15 วัน (วันที่ 24 ส.ค.) สุดท้ายหากสมาคมฯไม่ดำเนินการก็จะนำไปพิจารณาตามข้อบังคับ กกท.ฉบับที่ 6 ข้อ 15 เช่นเดียวกัน
สำหรับข้อบังคับ กกท.ฉบับที่ 6 ข้อ 15 ระบุดังนี้ “ในกรณีที่สมาคมใดดำเนินการอันเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับของสมาคมหรือข้อบังคับฉบับนี้ให้ กกท.มีอำนาจสั่งการให้สมาคมแก้ไขหรือระงับการดำเนินการฝ่าฝืนดังกล่าวภายในระยะเวลาอันสมควรได้ และในกรณีเดียวกันนี้สมาชิกของสมาคมจำนวนไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๕ หรือกรรมการสมาคมจำนวนไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๓ ร้องขอให้สมาคมดำเนินการแก้ไขก็ได้
หากสมาคมมิได้ดำเนินการตามความในวรรคหนึ่ง และ กกท.เห็นว่าถ้าปล่อยให้เนิ่นช้าออกไปอีกจะเป็นผลเสียหายต่อสมาคม ให้ กกท.หรือคณะบุคคลหนึ่งบุคคลใดที่ กกท.แต่งตั้งขึ้นโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย เข้าดำเนินการหรือบริหารงานของสมาคมได้ในระหว่างเวลาหนึ่งเวลาใดตามที่คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทยกำหนด และให้คณะกรรมการบริการของสมาคมมอบหมายการบริหารของสมาคมให้คณะบุคคลดังกล่าวดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนด และสมาคมจะต้องให้ความสะดวกและช่วยเหลือในการดำเนินการดังกล่าว”