คอลัมน์ “Final Quarter” โดย “ลุงแซม”
“คับที่อยู่ง่าย คับใจอยู่ยาก” เป็นสำนวนที่บ่งบอกความรู้สึกของ ดไวท์ ฮาวเวิร์ด ได้ชัดเจน หลังจากเซ็นเตอร์เบอร์ 1 ของศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) เลือกใช้สิทธิ์เป็น “ฟรีเอเยนต์” ผละอกทีมใหญ่อย่าง แอลเอ เลเกอร์ส เพื่อซบต้นสังกัดที่ดูเล็กกว่าอย่าง ฮุสตัน ร็อคเกตส์
โดยเหตุผลที่ “ซูเปอร์แมน” ให้ไว้คือ ต้องการไปลุ้นแชมป์กับ ร็อคเกตส์ ซึ่งที่นั่นมี เจมส์ ฮาร์เดน ชู้ตติ้งการ์ดเคราเฟิ้ม และ แชนด์เลอร์ พาร์สันส์ ฟอร์เวิร์ดดาวรุ่งให้ความช่วยเหลือ แต่ในความเป็นจริงแล้วโอกาสสัมผัส “แลร์รี โอไบรอัน โทรฟี” ของ ฮาวเวิร์ด เพิ่มมากขึ้นหรือไม่ ร็อคเกตส์ กลายเป็นตัวเต็งลุ้นแชมป์อย่างนั้นเลยหรือ มันก็ไม่ใช่เสียทีเดียว
แน่นอนการมาของ ฮาวเวิร์ด จะช่วยให้วงใน ร็อคเกตส์ รีบาวนด์ไม่เป็นรองใคร (ฮาวเวิร์ด รีบาวนด์ ดีสุดของลีกเฉลี่ยเกมละ 12.4 ครั้ง) ขณะที่บอร์ดบริหาร “จรวด” ยังไม่ตัดสินใจเทรด โอเมอร์ อาซิค ตามคำเรียกร้องของเซ็นเตอร์เติร์ก ซึ่งรีบาวนด์อันดับ 3 ของลีก (เฉลี่ย 11.7 ครั้ง) ทว่า เควิน แม็คเฮล เฮดโค้ชร็อคเกตส์ อาจต้องปรับเปลี่ยนจังหวะของทีมที่เล่นฟาสต์เบรกได้ยอดเยี่ยม มาเป็นการเซตเพลย์มากขึ้น เพื่อให้ ฮาวเวิร์ด ยังคงผลงานเฉลี่ย 17.1 แต้ม 12.4 รีบาวนด์ และ 2.4 บล็อก หรือให้ดีกว่าครั้งอยู่กับ เลเกอร์ส และหากยังลุ้นแชมป์กันจริงๆ คงต้องมีการ์ดจ่ายที่มือแน่นอนกว่า เจเรมี หลิน
ส่วน เลเกอร์ส ในแง่ของความรู้สึกย่อมเสียดายที่มีโอกาสใช้งาน ฮาวเวิร์ด แค่ฤดูกาลเดียว (ลงสนาม 76 เกม) ทั้งที่ลงทุนเทรด 4 ทางกับ ออร์แลนโด แมจิก, ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส และ เดนเวอร์ นักเก็ตส์ เพื่อให้ได้มาซึ่งเสาหลักอีกต้นของแฟรนไชส์ อันที่จริง มิทช์ คัพแช็ค ผู้จัดการทั่วไปเล็งสร้างทีมขึ้นมารายล้อมเซ็นเตอร์วัย 27 ปี หลังจาก โคบี ไบรอันท์ รีไทร์แล้ว แต่ด้วยการที่ไม่เข้ากับแผนการเล่นของ ไมค์ ดิ แอนโทนี ที่ให้เน้น “พิก แอนด์ โรล” กับ สตีฟ แนช รวมถึงเจอ โคบี ซึ่งฉายบทแม่ทัพข่มใส่ตลอด งานนี้จึงทางใครทางมัน
ทั้งนี้ เลเกอร์ส มีข่าวว่าไปเซ็น คริส เคแมน มาใช้งาน 1 ปี ผลงานเฉลี่ยของเซ็นเตอร์ชาวเยอรมัน 11.8 แต้ม 8.0 รีบาวนด์ กับอีก 1.4 บล็อก ไม่ใช่ขี้เหร่ มาประคองเสริมงาน เพา กาซอล ไปก่อน แล้วซัมเมอร์หน้าค่อยว่ากัน เนื่องจาก เลเกอร์ส มีผู้เล่นอยู่ในสัญญาลงแข่งฤดูกาล 2014/15 แค่คนเดียวคือ แนช ต้องมาดูว่า โคบี ยังจะทำได้ตามที่พูดหรือไม่ นั่นก็คือเล่นในระดับสุดยอดได้อีกอย่างน้อย 3 ปี ส่วน กาซอลผู้พี่ ถึงเวลานั้นคงต้องจากกันด้วยดี
ตอนนี้สิ่งที่ คัพแช็ค ทำได้คงเป็นการหาผู้เล่นประสบการณ์ ฝีมือใช้ได้มาเสริมงาน โคบี น่าเสียดายที่ทีมเลือกใช้กฎ “นิรโทษกรรม” กับ เมตตา เวิลด์ พีช สมอล ฟอร์เวิร์ด จอมขยัน เพื่อเซฟภาระภาษีฟุ่มเฟือย โดย นิวยอร์ก นิกส์ พร้อมกระโดดตะปบผู้เล่นวัย 33 ปี เข้าทีมทันที ยอมจ่ายค่าจ้าง 7.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แทนเลเกอร์ส ผลงานเฉลี่ย 12.4 แต้ม 5.0 รีบาวนด์ น่าจะทำให้ นิกส์ เป็นทีมที่น่ากลัวขึ้นเป็นลำดับทางฝั่งตะวันออก
อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า ลามาร์ โอดอม พร้อมกลับมาสวมยูนิฟอร์ม “ม่วง-ทอง” แต่คงต้องแปลงสภาพกันยกใหญ่ให้ดูดีกว่าสมัยเล่นให้ ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ และคลิปเปอร์ส ซึ่งทั้งนี้ฤดูกาลหน้าคงพอเห็นภาพ เลเกอร์ส อยู่ในสภาพตะเกียกตะกายเพื่อคว้าตั๋วเพลย์ออฟ ดั่งเช่นซีซัน 2012/13 ที่ผ่านมา ทว่าด้วยองค์ประกอบที่ด้อยลง การรวมใจให้เป็นหนึ่งอาจเกิดขึ้นกับทีมซึ่งขึ้นชื่อเรื่อง “อีโก้” สูงก็เป็นได้
“คับที่อยู่ง่าย คับใจอยู่ยาก” เป็นสำนวนที่บ่งบอกความรู้สึกของ ดไวท์ ฮาวเวิร์ด ได้ชัดเจน หลังจากเซ็นเตอร์เบอร์ 1 ของศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) เลือกใช้สิทธิ์เป็น “ฟรีเอเยนต์” ผละอกทีมใหญ่อย่าง แอลเอ เลเกอร์ส เพื่อซบต้นสังกัดที่ดูเล็กกว่าอย่าง ฮุสตัน ร็อคเกตส์
โดยเหตุผลที่ “ซูเปอร์แมน” ให้ไว้คือ ต้องการไปลุ้นแชมป์กับ ร็อคเกตส์ ซึ่งที่นั่นมี เจมส์ ฮาร์เดน ชู้ตติ้งการ์ดเคราเฟิ้ม และ แชนด์เลอร์ พาร์สันส์ ฟอร์เวิร์ดดาวรุ่งให้ความช่วยเหลือ แต่ในความเป็นจริงแล้วโอกาสสัมผัส “แลร์รี โอไบรอัน โทรฟี” ของ ฮาวเวิร์ด เพิ่มมากขึ้นหรือไม่ ร็อคเกตส์ กลายเป็นตัวเต็งลุ้นแชมป์อย่างนั้นเลยหรือ มันก็ไม่ใช่เสียทีเดียว
แน่นอนการมาของ ฮาวเวิร์ด จะช่วยให้วงใน ร็อคเกตส์ รีบาวนด์ไม่เป็นรองใคร (ฮาวเวิร์ด รีบาวนด์ ดีสุดของลีกเฉลี่ยเกมละ 12.4 ครั้ง) ขณะที่บอร์ดบริหาร “จรวด” ยังไม่ตัดสินใจเทรด โอเมอร์ อาซิค ตามคำเรียกร้องของเซ็นเตอร์เติร์ก ซึ่งรีบาวนด์อันดับ 3 ของลีก (เฉลี่ย 11.7 ครั้ง) ทว่า เควิน แม็คเฮล เฮดโค้ชร็อคเกตส์ อาจต้องปรับเปลี่ยนจังหวะของทีมที่เล่นฟาสต์เบรกได้ยอดเยี่ยม มาเป็นการเซตเพลย์มากขึ้น เพื่อให้ ฮาวเวิร์ด ยังคงผลงานเฉลี่ย 17.1 แต้ม 12.4 รีบาวนด์ และ 2.4 บล็อก หรือให้ดีกว่าครั้งอยู่กับ เลเกอร์ส และหากยังลุ้นแชมป์กันจริงๆ คงต้องมีการ์ดจ่ายที่มือแน่นอนกว่า เจเรมี หลิน
ส่วน เลเกอร์ส ในแง่ของความรู้สึกย่อมเสียดายที่มีโอกาสใช้งาน ฮาวเวิร์ด แค่ฤดูกาลเดียว (ลงสนาม 76 เกม) ทั้งที่ลงทุนเทรด 4 ทางกับ ออร์แลนโด แมจิก, ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส และ เดนเวอร์ นักเก็ตส์ เพื่อให้ได้มาซึ่งเสาหลักอีกต้นของแฟรนไชส์ อันที่จริง มิทช์ คัพแช็ค ผู้จัดการทั่วไปเล็งสร้างทีมขึ้นมารายล้อมเซ็นเตอร์วัย 27 ปี หลังจาก โคบี ไบรอันท์ รีไทร์แล้ว แต่ด้วยการที่ไม่เข้ากับแผนการเล่นของ ไมค์ ดิ แอนโทนี ที่ให้เน้น “พิก แอนด์ โรล” กับ สตีฟ แนช รวมถึงเจอ โคบี ซึ่งฉายบทแม่ทัพข่มใส่ตลอด งานนี้จึงทางใครทางมัน
ทั้งนี้ เลเกอร์ส มีข่าวว่าไปเซ็น คริส เคแมน มาใช้งาน 1 ปี ผลงานเฉลี่ยของเซ็นเตอร์ชาวเยอรมัน 11.8 แต้ม 8.0 รีบาวนด์ กับอีก 1.4 บล็อก ไม่ใช่ขี้เหร่ มาประคองเสริมงาน เพา กาซอล ไปก่อน แล้วซัมเมอร์หน้าค่อยว่ากัน เนื่องจาก เลเกอร์ส มีผู้เล่นอยู่ในสัญญาลงแข่งฤดูกาล 2014/15 แค่คนเดียวคือ แนช ต้องมาดูว่า โคบี ยังจะทำได้ตามที่พูดหรือไม่ นั่นก็คือเล่นในระดับสุดยอดได้อีกอย่างน้อย 3 ปี ส่วน กาซอลผู้พี่ ถึงเวลานั้นคงต้องจากกันด้วยดี
ตอนนี้สิ่งที่ คัพแช็ค ทำได้คงเป็นการหาผู้เล่นประสบการณ์ ฝีมือใช้ได้มาเสริมงาน โคบี น่าเสียดายที่ทีมเลือกใช้กฎ “นิรโทษกรรม” กับ เมตตา เวิลด์ พีช สมอล ฟอร์เวิร์ด จอมขยัน เพื่อเซฟภาระภาษีฟุ่มเฟือย โดย นิวยอร์ก นิกส์ พร้อมกระโดดตะปบผู้เล่นวัย 33 ปี เข้าทีมทันที ยอมจ่ายค่าจ้าง 7.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แทนเลเกอร์ส ผลงานเฉลี่ย 12.4 แต้ม 5.0 รีบาวนด์ น่าจะทำให้ นิกส์ เป็นทีมที่น่ากลัวขึ้นเป็นลำดับทางฝั่งตะวันออก
อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า ลามาร์ โอดอม พร้อมกลับมาสวมยูนิฟอร์ม “ม่วง-ทอง” แต่คงต้องแปลงสภาพกันยกใหญ่ให้ดูดีกว่าสมัยเล่นให้ ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ และคลิปเปอร์ส ซึ่งทั้งนี้ฤดูกาลหน้าคงพอเห็นภาพ เลเกอร์ส อยู่ในสภาพตะเกียกตะกายเพื่อคว้าตั๋วเพลย์ออฟ ดั่งเช่นซีซัน 2012/13 ที่ผ่านมา ทว่าด้วยองค์ประกอบที่ด้อยลง การรวมใจให้เป็นหนึ่งอาจเกิดขึ้นกับทีมซึ่งขึ้นชื่อเรื่อง “อีโก้” สูงก็เป็นได้