xs
xsm
sm
md
lg

“เน็ตส์” สานฝันแชมป์ “เซลติกส์” ล้างไพ่ใหม่ / ลุงแซม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ “Final Quarter” โดย “ลุงแซม”

ย้อนไปปี 2010 ครั้ง มิคาอิล โพรโกรอฟ มหาเศรษฐีชาวรัสเซียเข้ามาเทคโอเวอร์ นิวเจอร์ซีย์ เน็ตส์ (ปัจจุบันคือ บรูกลิน เน็ตส์) “เสี่ยหมี 2” ประกาศก้องต้องการนำทีมเป็นแชมป์บาสเกตบอล เอ็นบีเอ ให้ได้ภายในปี 2015 โดยการปรับกระบวนทั้งในส่วนบริหาร หัวหน้าโค้ช และผู้เล่น ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งฤดูกาล 2012/13 ที่ผ่านมา ทีมคืนสู่เพลย์ออฟครั้งแรกในรอบ 6 ปี แม้จบลงด้วยการตกรอบแรกพ่าย ชิคาโก บูลส์ ในเกมฎีกา ทว่าความตั้งใจของ มร.โพรโกรอฟ ยังดำเนินการไปตามเป้าหมายและอาจเป็นจริงได้ในเงื่อนเวลาที่กำหนด

แม้เคยผิดหวังในตลาดฟรีเอเยนต์ชวดตัว ดไวท์ ฮาวเวิร์ด มาผนึกกำลัง เดรอน วิลเลียมส์ แต่เมื่อตลาดปี 2013 เปิดฉาก บิลลี คิง ผู้จัดการทั่วไป เดินหน้าเจรจา แดนนี เอนจ์ GM บอสตัน เซลติกส์ ถึงการเทรดครั้งสำคัญ โดย เน็ตส์ กำลังจะได้ เควิน การ์เน็ตต์ กับ พอล เพียร์ซ สองคีย์แมนที่พาเซลติกส์ แชมป์ NBA เมื่อปี 2008 มาผนึกกำลัง “ดี-วิลล์” รวมไปถึง บรูก โลเปซ และ โจ จอห์นสัน

โดยภารกิจที่ให้ได้มาซึ่ง “บิ๊กไฟว์” เน็ตส์ ต้องพ่วงเอา เจสัน เทอร์รี มาด้วย แต่นี่คือ การ์ดประสบการณ์แชมป์กับ ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ เมื่อปี 2011 ดังนั้นการเสีย คริส โจเซปห์, คริส ฮัมฟรีส์, เจรัลด์ วอลเลซ, มาร์ชอน บรูกส์ กับ คีธ โบแกนส์ ไปเทรดแลกไม่ใช่เรื่องน่าเสียดายอะไร ขณะที่สิทธิ์ดราฟท์รอบแรกในปี 2014, 2016 และ 2018 เหมือนเป็นการเอาเงินอนาคตมาใช้ ซึ่งก็ชัดเจนว่า เน็ตส์ อยากกระชาก “แลร์รี โอไบรอัน โทรฟี” มาประดับตู้โชว์ให้ได้ จึงต้องพึ่งพาสองตัวเก๋าอย่าง “เค.จี.” และ เพียร์ซ ที่ก็มองหาความสำเร็จสุดท้ายก่อนรีไทร์เช่นกัน

แต่ ดีล ข้างต้นจะเสร็จสมบูรณ์ต้องรอถึงวันที่ 13 กรกฎาคม เพื่อให้ลีกประกาศ “ซาลารีแคป” ในปีนี้ออกมาเสียก่อน งานนี้ “เสี่ยหมี 2” ต้องยอมควักกระเป๋าจ่าย “ภาษีฟุ่มเฟือย” กันไปจะมากจะน้อยต้องรอดูแคปที่ NBA ตั้งไว้ อย่างไรก็ตาม หากมองถึงขุมพลัง เน็ตส์ หาใช่เพียงพร้อมกระชาก นิวยอร์ก นิกส์ คู่ปรับร่วมเมืองลงจากบัลลังก์กลุ่มแอตแลนติก ดิวิชัน ทั้งนี้พวกเขายังกล้าๆ ท้าทาย “แชมป์เก่า” ฮีต รวมทั้งรอถอนแค้น ชิคาโก บูลส์ ที่กำลังจะได้ เดอร์ริค โรส กลับมาฟิตสมบูรณ์เต็มร้อย หรือว่าสยบ อินเดียนา เพเซอร์ส ทีมที่กำลังพุ่งขึ้นมา

เมื่อขุนพลจัดว่าลงตัว ก็ต้องมาดูที่ผู้คุมบังเหียนกันบ้าง ซึ่งน่าสนใจทีเดียวเมื่อ เจสัน คิดด์ รีไทร์กับนิกส์ปุ๊บได้งานใหญ่เป็น “หัวหน้าโค้ช” ให้แก่ต้นสังกัดเก่า นี่ถือเป็นงานท้าทายสำหรับโค้ชหนุ่มวัย 40 ปี ทั้งนี้ เน็ตส์ ก็ไปจ้าง ลอว์เรนซ์ แฟรงค์ อดีตเฮดโค้ชกลับสู่บาร์เคลย์ เซ็นเตอร์ เพื่อเป็นมือขวาให้ คิดด์ ซึ่งถ้าสามารถนำประสบการณ์ในสนาม และงัดกึ๋นมาแก้เกมปรับสอนรุ่นน้องได้ลงตัว คงน่าผิดหวังยิ่งหาก เน็ตส์ ไปไม่ถึงรอบชิงแชมป์สายตะวันออก

ส่วน เซลติกส์ นี่ถือเป็นการล้างไพ่กันใหม่หมด หลังจากเสีย เรย์ อัลเลน ตอนนี้ “บิ๊กทรี” แตกสลาย การ์เน็ตต์ กับ เพียร์ซ จูงมือกันไปบรูกลิน เท่ากับว่า เอนจ์ ได้สร้างทีมขึ้นมารายล้อม ราจอน รอนโด สมใจ แต่ต้องใช้เวลาเขย่าส่วนผสมกันพอสมควร โดยมีเงื่อนไขว่า รอนโด ก็เหลือสัญญาแค่ 2 ปี ซีซันหน้าต้องรอให้ ฮัมฟรีส์ หมดสัญญาไป ลุ้นให้ เจฟฟ์ กรีน เติบใหญ่สมกับความไว้วางใจของแฟรนไชส์ ขณะที่ เจรัลด์ วอลเลซ เป็นภาระหนักอึ้งที่ เซลติกส์ จะเขี่ยทิ้งคงไม่ง่าย เมื่อค่าจ้างสามปีเฉลี่ยปีละ 10 ล้านเหรียญฯ ในโลกของวงการยัดห่วงลูกกลมๆ สถานการณ์ย่อมพลิกผันได้ตลอด อย่างไรก็ดี กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว เฉกเช่นความสำเร็จไม่ได้มาในชั่วค่ำคืนเหมือนกัน การตัดสินใจครั้งใหญ่ของ เอนจ์ ย่อมต้องมองเห็นทางหนีทีไล่ไว้บ้างแล้ว ขอให้แฟนๆ เซลติกส์ อดทนกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เพราะมันต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น