อรรณพ สิงห์โตทอง รองประธานสโมสรชลบุรี เอฟซี เตรียมรวบรวมเสียงสโมสรสมาชิก 1 ใน 3 จากทั้งหมด เพื่อยื่นเรื่องต่อการกีฬาแห่งประเทศไทย ให้เข้าจัดการประชุมเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ภายใน 30 วัน ตามอำนาจของพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ.2528
หลังจากเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ที่ผ่านมา สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้เลื่อนการประชุมใหญ่พิเศษสามัญประจำปี เพื่อขอเสียงโหวตรับรองธรรมนูญข้อบังคับฉบับใหม่ออกไป เพื่อให้ไม่ขัดต่อคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ของศาลจังหวัดมีนบุรี ตามที่สโมสร พัทยา เอฟซี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง แม้ทาง วีระ คำมี ฝ่ายกฎหมายของสมาคมฟุตบอลฯ จะออกมาดักคอก่อนหน้าว่าหากมีการจัดการเลือกตั้งโดยใช้ธรรมนูญฉบับเก่า อาจจะไม่ได้รับการรับรองจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟา)
ด้าน "เดอะ เซนต์" อรรณพ สิงห์โตทอง รองประธานฉลามชล ออกมาเปิดเผยว่าเตรียมรวบรวมเสียงจากสโมสรสมาชิกเพื่อขอให้กกท.เข้าไปทำการจัดการเลือกตั้งประมุขบอลไทย "ส่วนตัวผมคิดว่าทางสมาคมฟุตบอลฯควรจะจัดการเลือกตั้งนายกสมาคมฯให้เร็วที่สุดเนื่องจากวาระของ วรวีร์ มะกูดี จะหมดลงหลังจากวันที่ 16 มิ.ย. นี้แล้ว โดยหลังจากนี้ทางสโมสรสมาชิกจะรวบรวมเสียงให้ได้ 1 ใน 3 (ประมาณ 61 จากทั้งหมด 183 เสียง) เพื่อขอให้สมาคมฟุตบอลฯจัดการเลือกตั้งภายใน 30 วัน หากไม่ปฏิบัติตามก็จะยื่นไปที่ทางกกท.ให้เข้ามาจัดการเลือกตั้งตาม พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย"
พร้อมกันนี้ "บิ๊กณพ" ยังกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงธรรมนูญข้อบังคับให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลอีกว่า "ทางสโมสรสมาชิกยินดีที่จะปฏิบัติตามฟีฟา และเราก็เห็นด้วยกับธรรมนูญใหม่ เพียงแต่อยากตั้งข้อสังเกตว่าเพราะเหตุใดถึงจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในวันสุดท้ายของวาระการดำรงตำแหน่งนายกคนปัจจุบัน เพราะเรื่องการเปลี่ยนแปลงธรรมนูญฟีฟา นายกฯคนใหม่ก็สามารถดำเนินการได้ และเราไม่คิดว่าฟีฟ่าจะแบนประเทศไทย ทันทีทันใด"
ขณะที่ "บิ๊กก๊อง" วิรัช ชาญพานิชย์ 1 ในผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งเก้าอี้นายกสมาคมฟุตบอลฯ กล่าวในทำนองเดียวกันว่า "ตอนนี้คงต้องรอดูท่าทีว่าทางสมาคมฯจะทำอย่างไรต่อไป แต่ผมเห็นสมควรว่าจะจค้องมีการจัดการเลือกตั้งขึ้นก่อน หลังจากที่ วรวีร์ ครบวาระ แต่จะอย่างไรก็ตามก็ต้องว่ากันไปตามระเบียบทีเขียนเอาไว้ จากนี้ก็จะขอดูท่าทีของ กกท.ด้วยว่าจะมีคำสั่งออกมาเป็นอย่างไร"