"เจ้าไอ" เป็นเอก การะเกตุ ทุ่มสุดชีวิตหวังคว้า "แชมป์โลก" คนที่ 3 ให้กับเทควันโดไทย ที่เม็กซิโก ล่าสุดได้ศึกษาข้อมูลคู่แข่งสำคัญเต็มที่ ยิ่งสหพันะเทควันโดโลกเปลี่ยนมาใช้เกราะไฟฟ้าแบบใหม่ทำให้ไม่เสียเปรียบเหมือนอดีตที่ผ่านมา
ความเคลื่อนไหวจอมเตะเทควันโดทีมชาติไทยชุดใหญ่ ภายใต้การนำของสองคนคู่ "บิ๊กเอ" ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย และ "บิ๊กชา" ปรีชา ต่อตระกูล อุปนายกสมาคม ที่มีโปรแกรมเดินทางไปแข่งขันศึกเทควันโดชิงแชมป์โลก 2013 ระหว่างวันที่ 15-21 กรกฏาคมนี้ ที่เมืองพูอีบรา ประเทศเม็กซิโก ขณะนี้ยังคงหลักฝึกซ้อมอย่างเข้มข้นที่ศูนย์ฝึกเทควันโดแห่งชาติ กกท.หัวหมาก โดยมี "โค้ชจอมเฮี้ยบ" เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวเกาหลีใต้ และ โค้ช คิม แจ วู สตาฟฟ์โค้ชทีมชาติคอยดูแลอยู่ใกล้ชิด ก่อนนักกีฬาทั้งหมดจะเดินทางไปประลองฝีเท้าในรายการ "ชุนชอน โคเรีย อินเตอร์เนชั่นแนล เทควันโด แชมเปี้ยนชิพ 2013" ช่วงวันที่ 4-9 กรกฏาคมนี้ ที่เมืองชุนชอน ประเทศเกาหลีใต้ จากนั้นจะเดินทางต่อไปยังประเทศเม็กซิโกทันทีเพื่อคว้า 1 เหรียญทองตามเป้าหมาย
ล่าสุดในส่วนของ "เจ้าไอ" เป็นเอก การะเกตุ อดีตเจ้าของแชมป์เอเชีย ในฐานะอันดับ 4 กีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2012 หนึ่งในนักกีฬาความหวังสำคัญ เปิดเผยว่า ขณะนี้สภาพร่ายกายฟิตซ้อมสมบูรณ์เต็มที่ ไม่มีปัญหาการบาดเจ็บอะไรมารบกวนใจ ส่วนสภาพจิตใจที่ก่อนหน้านี้มีความกังวลเรื่องคุณพ่อ กิตติ การะเกตุ วัย 60 ปี มีอาการป่วยเกี่ยวกับลำไส้ถ่ายเป็นเลือดและโรคหัวใจทุกอย่างก็เริ่มดีขึ้นแล้ว ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ในสมาคม รวมไปถึงพี่น้องๆในวงการเทควันโดที่เป็นห่วงมาโดยตลอด สำหรับการแข่งขันแมทช์ดังกล่าวนี้ ส่วนตัวมีความตั้งใจว่า จะพยายามคว้าแชมป์ หรือ เหรียญทองกลับมาให้ได้ เนื่้องจากเมื่อ 2 ปีที่แล้วในศึกชิงแชมป์โลก 2011 ที่เกาหลีใต้ พลาดท่าตกรอบสอง หลังจากมีปัญหาอาหารเป็นพิษจนต้องเข้าโรงพยาบาลก่อนเดินทางแค่ไม่กี่วัน จนทำให้ไม่มีแรงและแพ้ไปในที่สุด
อย่างไรก็ตามเวลานี้ได้พยายามควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด รวมไปถึงการศึกษาข้อมูลคู่แข่งชาติสำคัญในรุ่นของตัวเองเพิ่มเติมด้วยว่า แต่ละคนมีการพัฒนาอย่างไรบ้าง โดยทาง โค้ชเช ได้นำเทปคู่แข่งสำคัญที่มีโอกาสพบกันอาทิ เกาหลีใต้, อิหร่าน, สเปน และ ไต้หวัน มาศึกษาจุดดีจุดด้อยของแต่ละคนเป็นเช่นไร เพื่อจะได้เตรียมตัวทำการบ้านตั้งแต่เนิ่นๆ ยิ่งเวลานี้สหพันธ์เทควันโดโลก หรือ ดับเบิ้ลยูทีเอฟ ได้กำหนดให้ทุกชาติเปลี่ยนเกราะไฟฟ้าแบบเดิมที่ใช้ในโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งมีเซ็นเซอร์อยู่ที่ฝ่าเท้า มาเป็นเกราะไฟฟ้าตัวใหม่ที่มีเซ็นเซอร์อยู่หลังเท้า ทำให้ตัวเองคิดว่า เราจะไม่เสียเปรียบนักกีฬาที่มีรูปร่างสูงใหญ่กว่าเหมือนอดีตที่ผ่านมา เพราะทุกแต้มที่จะขึ้นมาต้องใช้หลังเท้าเตะตรงจุดพอดี ไม่ใช่แค่ถีบเหมือนแต่ก่อน ดังนั้นคิดว่า น่าจะสร้างผลงานที่ดีกลับมาได้ โดยเฉพาะการเป็นแชมป์โลกคนที่ 3 ต่อจาก "จูน" รังสิญา นิสัยสม และ "แม็ก" ชัชวาล ขาวละออ ที่เคยสัมผัสมาเมื่อครั้งที่แล้ว
