"บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ประกาศฟุตซอลขอจอง 2 เหรียญทอง ส่วนสุรัตน์ เสียงหล่อ มั่นใจมวยไทยได้ครบ 5 เหรียญทองในศึกเอเชียน อินดอร์ และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 4 ที่อินชอน ประเทศเกาหลีใต้ได้อย่างแน่นอน
เมื่อเวลา 11.00น.งานแถลงข่าว มีทเดอะเพลส เอเชียน อินดอร์ และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ในวันที่ 7 มิถุนายน 2556 ที่ห้องประชุมรอดโพธิ์ทอง สนามกีฬาแห่งชาติ โดยมีนายมนตรี ไชยพันธุ์ รองผู้ว่าฯ ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา เป็นประธานจัดแถลงข่าว พร้อมด้วยผู้แทนจาก 5 สมาคมกีฬาที่เข้าร่วมศึกเอเชียน อินดอร์ฯ ประกอบด้วย สมาคมกีฬาหมากล้อทแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬาลีลาศแห่งประเทศไทย, สมาคมมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย, สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และสมาคมคูราชแห่งประเทศไทย ร่วมแถลงข่าว
โดย มร.วิคเตอร์ เฮอร์มันส์ เฮดโค้ชฟุตซอลชาย กล่าวถึงความพร้อมของทีมก่อนลุยศึกที่อินชอนว่า "ตนได้เตรียมทีม และเก็บตัว พร้อมกับอุ่นเครื่องกับทีมชาติโรมาเนียถึง 3 เกมด้วยกันซึ่งเราสามารถชนะถึงสองครั้งด้วยกัน ทำให้ตนเห็นจุดอ่อนเพื่อนำมาปรับปรุงแล้ว ทั้งนี้ยังเหลืออุ่นเครื่องกับเมียนมาร์ ในสัปดาห์หน้า และยูเออี โดยครั้งนี้เราดึง นักเตะหน้าใหม่มา 5 รายรวมกับผู้เล่นชุดฟุตซอลโลกรวมทั้งสิ้น 14 คนซึ่งเราคาดหวังว่าจะต้องมีเหรียญน่ โดยในรอบตัดเชือกมีสิทธิ์ชนศึกหนักกับอิหร่านเช่นกัน"
ส่วนความเคลื่อนไหวทีมโต๊ะเล็กหญิง ทาง "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยกล่าวว่า "ตอนนี้ทีมฟุตซอลหญิงภายใต้การคุมทัพของ “แม่เลี้ยงติ๊ก” ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ไปอุ่นเครื่องที่ออสเตรเลียถึง 3 นัดด้วยกันและสามารถเอาชนะได้ทั้งหมด โดยคู่แข่งที่น่าจับตามอง ประกอบด้วย อิหร่าน และอุซเบกิสถาน ซึ่งทางสมาคมฯคาดหวังไว้ที่ 2 เหรียญทอง"
ด้าน อ.สุรัตน์ เสียงหล่อ ผู้ตัดสินกีฬามวยไทยสมัครเล่น เผยถึงความพร้อมของทีมมวยไทย ชุดลุยศึกเอเชียน อินดอร์ฯว่าคราวนี้ได้ 5 เหรียญทองแน่ "ตอนนี้มีความพร้อมเต็มที่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา โดยฝึกซ้อมอยู่ที่วิทยาลัยพลศึกษา วิทยาเขตกรุงเทพ แต่จะมีปัญหาเรื่องระเบียบวินัยของนักกีฬา ซึ่งครั้งนี้เราส่งนักกีฬา 5 คนประกอบด้วย ผู้ชาย 3 รายคือ ศุภชัย พันธุ์สุวรรณ รุ่น 67 กก.ชาย , อามีน หมัดหลี รุ่น 71 กก.ชาย , ปิยะพันธ์ ชินานัด รุ่น 75 กก.ชาย ส่วนผู้หญิงมีอีก 2 คนคือรุจิรา วงษ์ศรีวอ รุ่น 51 กก.หญิง และรัชฎาพร วิหารธรรม รุ่น 54 กก.หญิง"
"สาเหตุที่เราส่งนักมวยไทยฝั่งชายแข่งขันรุ่นใหญ่ เนื่องจากต้องการควอลิฟายไปแข่งขันกีฬาต่อสู้ชิงแชมป์โลก เมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย ระหว่างวันที่ 18-26 ตุลาคม โดยก่อนหน้านี้ได้มวยไทยรุ่นเล็กไปก่อนหน้านี้เรียบร้อยแล้ว" นายสุรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย
มาที่นายสิทธิชัย ปรียาดารา อุปนายกและเลขาธิการสมาคมกีฬาลีลาศแห่งประเทศไทย เผยถึงความพร้อม และการเตรียมทีมว่า "ในการแข่งขันครั้งนี้เราได้ส่งนักกีฬาเก็บตัว เข้าค่ายและประลองฝีมือที่ประเทสฮังการี ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นประเทศมีวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ก้าวหน้ามาก โดยส่วนตัวเชื่อว่าจะได้ 2 เหรียญเงินและ 2 เหรียญทองแดง โดยส่งไป 4 คู่ จาก 2 ประเภทคือ 1.ประเภทลาติน อเมริกัน ได้แก่ นายชินวัตร เลอร์สัน-น.ส.กฤตกรมะนะสุทธิ์ กับ นายพุฒิสิทธิ์ พรมนา-น.ส.ณัฏณิชา อิทธิโสภณพิศาล และ 2.ประเภทสแตนดาร์ด ได้แก่ นายอภิชัย พรหมบุญ-น.ส.ภคอร คุ่ยด่วน กับนายอธิศ ห่อทอง-น.ส.ชนิกานต์ กัลยวณิชย์"
ต่อที่ "น้องจูน" จุฑาเมตต์ จารุรัชตพันธ์ นักกีฬาหมากล้อมระดับ 1 ดั้ง ซึ่งแข่งขันในประเภททีมหญิงได้กล่าวถึงความพร้อมของสมาคมฯว่า "ในการแข่งขันครั้งนี้ได้มีการเตรียมความพร้อมที่สมาคมฯ ซึ่งอยู่ที่สีลม โดยการแข่งขันครั้งนี้ไม่ได้ตามความหวัง เพราะต้องการเก็บเกี่ยวประสบการณ์มากกว่า โดยชาติที่เก่งที่สุดคือจีน, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้"
สุดท้าย นายพูลศักดิ์ สัจจธรรมนุกูล ผู้ฝึกสอนกีฬาคูราช เผยถึงความพร้อมว่า "กีฬาคูราชคือกีฬามวยปล้ำของอุซเบกิสถาน ซึ่งครั้งนี้ทางสหพันธ์คูราชนานาชาติได้ส่ง มร.โอลิม จัน ประธานผู้ตัดสินของอุซเบกิสถานมาดูแลนักกีฬาไทย และฝึกสอนท่วงท่าให้ถูกต้องตามกติกา โดยครั้งนี้เราส่งนักกีฬาแข่งขัน 5 คน ประกอบด้วยชาย 3 คนและหญิงอีก 2 คนโดยครั้งนี้เราหวังไว้ที่ 1 เหรียญทองเท่านั้น"
