xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กทรี” ฮีต-สเปอร์ส กุญแจไขแชมป์ NBA

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“เลียวนาร์ด” รุกก็ได้รับก็ดี
เอเยนซี - ศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) เดินทางมาถึงซีรีส์รอบชิงประจำฤดูกาล 2012/13 เป็นการดวลกันระหว่าง “แชมป์เก่า” ไมอามี ฮีต กับ ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส ในระบบทีมใดชนะ 4 จาก 7 เกมก่อนคว้าแชมป์ไปนอนกอด โดยประเด็นปีนี้เห็นทีหนีไม่พ้นการวัดพลังกันว่าที่สุดแล้ว “บิ๊กทรี” ของทีมใดจะเจ๋งกว่ากัน

สมาชิกใหม่ “บิ๊กทรี” สเปอร์ส

หลังจากหมดยุค “หอคอยคู่” เดวิด โรบินสัน ประสานงาน ทิม ดันแคน พาสเปอร์ส เบิกแชมป์สมัยแรกเมื่อปี 1999 ทีมดังแห่งเท็กซัสมีการดึงเอา โทนี พาร์เกอร์ กับ มานู จิโนบิลี มาผนึกกำลังเป็น “บิ๊กทรี” ร่วมกับ ดันแคน ก่อนที่สามทหารเสือร่วมกันโกยแชมป์อีก 3 สมัย ในปี 2003, 2005 และ 2007 ณ วันนี้ อาจเรียกได้ว่า สเปอร์ส เริ่มมีการถ่ายเลือด “บิ๊กทรี” เมื่อ มานู สภาพร่างกายโรยรา กอปรกับอยู่ในสัญญาปีสุดท้าย ซึ่งเลือดใหม่ที่เติมเข้ามา ส่งผลให้แฟรนไชส์กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันทีคือ คาไว เลียวนาร์ด ฟอร์เวิร์ดที่ถือเป็นการค้นพบครั้งสำคัญ

เมื่อ เลียวนาร์ด เสริมงานใต้แป้น ดันแคน ได้อย่างน่าดูชม ฟอร์มในเพลย์ออฟขยับดีกว่าฤดูกาลปกติ จากทำเฉลี่ย 11.9 แต้ม เป็น 13.7 แต้ม 6 รีบาวนด์ เพิ่มเป็น 8.4 รีบาวนด์ ที่สำคัญยังมี “เกมรับ” เป็นจุดขาย สามารถจำกัดขีดความสามารถของสตาร์คู่แข่งได้อย่างเห็นผล รอบสองประกบจน สตีเฟน เคอร์รี ทำแค่ 18.2 แต้ม 6 แอสซิสต์ (ซีรีส์อัด เดนเวอร์ นักเก็ตส์ เฉลี่ย 24 แต้ม 10 แอสซิสต์) มารอบชิงคอนเฟอเรนซ์ เล่นงาน แซ็ค แรนดอล์ฟ จากเคยประกาศศักดาข่ม โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ 18.4 แต้ม 10.8 รีบาวนด์ มาเหลือทำใส่สเปอร์สเพียง 11 แต้ม 12 รีบาวนด์ ซึ่งการได้รับมอบหมายให้ล็อกใส่ “คิงเจมส์” ที่ในโพสต์ซีซันระเบิดฟอร์มเฉลี่ย 26.2 แต้ม 7.3 รีบาวนด์ 6.4 แอสซิสต์ ชู้ตฟิลด์โกล 51 เปอร์เซ็นต์ ส่องสามแต้ม 39 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นงานท้าทายสำหรับผู้เล่นวัย 21 ปี ยิ่งนัก

ดังนั้นหาก เลียวนาร์ด รับผิดชอบงานได้ดีเหมือนที่ผ่านมา โอกาสพลิกล็อกใส่แชมป์เก่ายิ่งมากขึ้นเท่านั้น ในเมื่อ พาร์เกอร์ ขาขึ้นในแต่ละซีรีส์ เฉลี่ย 23 แต้ม 7.2 แอสซิสต์ ขณะที่ ดันแคน ยังหนังเหนียวเป็นเสาหลักของแฟรนไชส์ได้อยู่ที่ 17.8 แต้ม 9.9 รีบาวนด์ ที่สำคัญอย่าลืมว่า สเปอร์ส มีเกมรับดีสุดในโพสต์ซีซัน เสียเฉลี่ย 91.5 แต้ม โดนคู่แข่งส่องฟิลด์โกลลงเพียง 42 เปอร์เซ็นต์ งานนี้แฟนๆ ซานอันโตนิโอ ถือว่าได้ลุ้นแชมป์มากทีเดียว

ความสำเร็จสุดท้าย “บิ๊กทรี” ฮีต ?

ร่วมหลักปักฐานกันมา 3 ปี เลอบรอน เจมส์ ควงแขน ดีเวย์น เหว็ด และ คริส บอช พาฮีตเข้าชิงเป็นปีที่สามติดต่อกัน และนี่เป็นซีซันที่ “บิ๊กทรี” มีโอกาสกอบโกยเกียรติสูงสุดเป็นปีที่สองติด ด้วยความช่วยเหลือจากปัจจัยเสริมอย่าง เรย์ อัลเลน การ์ดมือปืนที่เข้ามาเสริมวงนอกได้อย่างเห็นผล ส่องสามแต้มระดับ 36.5 เปอร์เซ็นต์ มาริโอ ชาลเมอร์ส เกมรับยังเชื่อมือได้น่าจะงัดกับ แดนนี กรีน ได้สนุก ส่วนวงใน “เบิร์ดแมน” คริส แอนเดอร์เซน สยายปีกจิกรีบาวนด์ได้อย่างดุดัน เช่นเดียวกับ อูโดนิส ฮาสเลม ซึ่งเป็นพวกปิดทองอยู่ใต้แป้น

แต่ขณะที่ “คิงเจมส์” ดีกรี “ผู้เล่นทรงคุณค่า” (MVP) 2 สมัย ยังรักษาฟอร์มไว้ได้ ในทางตรงข้าม “ดี-เหว็ด” ซึ่งเจอปัญหาบาดเจ็บรุมเร้า ฟอร์มดร็อปลงอย่างน่าใจหายจากช่วงเรคกูลา ซีซัน ที่ทำเฉลี่ย 21.2 แต้ม 5 รีบาวนด์ 5.1 แอสซิสต์ ฟิลด์โกลระดับ 52 เปอร์เซ็นต์ เรียกได้ว่าชู้ตแต่ละครั้งหวังผลได้เลย ทว่าเข้าสู่เพลย์ออฟ การ์ดวัย 31 ปี เพิ่งสกอร์สองหลักเกมฎีกาผ่าน อินเดียนา เพเซอร์ส เข้ามา โพสต์ซีซันตกเหลือ 15.4 แต้ม ฟิลด์โกลโอกาสลงเพียง 44.1 เปอร์เซ็นต์ ยังดีที่ระยะสามแต้ม 33.3 เปอร์เซ็นต์

ด้าน บอช ฤดูกาลปกติยังเอาอยู่เฉลี่ย 16.6 แต้ม 6.8 รีบาวนด์ 1.7 แอสซิสต์ กับอีก 1.4 บล็อก ฟิลด์โกลก็หรู 53.5 เปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อต้องเจอกับ รอย ฮิบเบิร์ต เซ็นเตอร์ยักษ์ปักหลั่นในซีรีส์ที่ผ่านมา “อวตาร” สถิติตกลงทุกอย่างเหลือแค่ 11 แต้ม 4.3 รีบาวนด์ 0.7 แอสซิสต์ บล็อกเฉลี่ยเกมละหนเท่านั้น ซึ่งการมาเผชิญหน้า ดันแคน ผู้เล่นประสบการณ์ 16 ปีในลีก แม้สภาพร่างกาย บอช สดกว่า แต่ลูกเก๋ายังเป็นรอง พาวเวอร์ ฟอร์เวิร์ด สเปอร์ส อยู่พอสมควร หากสมาชิก “บิ๊กทรี” อย่าง เหว็ด กับ บอช ไม่สามารถเสริมงาน เลอบรอน ได้ดีกว่าที่ผ่านมา ตัวช่วยอย่าง อัลเลน, ชาลเมอร์ส, นอร์ริส โคล, ฮาสเลม, แอนเดอร์สัน หรือว่า ไมค์ มิลเลอร์ ก็ต้องลุกขึ้นมาช่วยในการฝ่าด่านกระดูกขัดมันจากเทกซัส ซึ่งว่ากันว่ามีระบบดีที่สุดของลีกด้วย เพื่อแชมป์สมัยที่ 3 ในประวัติศาสตร์แฟรนไชส์
“พาร์เกอร์-ดันแคน” คู่หูรู้ใจ
“เลอบรอน” ความหวังฮีต
“บอช-เหว็ด” ฟอร์มดร็อป
กำลังโหลดความคิดเห็น