เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เชื่อมั่นว่าหากลูกทีมสามารถเอาชนะ บุนยอดกอร์ ผ่านเข้ารอบต่อไปศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ได้สำเร็จ จะแสดงให้เห็นว่าทีมสโมสรไทยก็ไม่ได้เป็นรองทีมไหนในเอเซีย
เมื่อวันที่ 19 พ.ค. เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ ทัดเทพ พิทักษ์พูลสิน ผจก.ทีม พร้อมด้วยเหล่าสตาฟฟ์ทีมงานของสโมสรเดินทางไปตรวจความพร้อมของสนามบุนยอดกอร์ สเตเดียม ซึ่งเป็นสนามแข่งขันระดับชาติ และที่ทำการสมาคมฟุตบอลฯ ที่จะใช้แข่งขันเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก 2013 รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 พบกับเจ้าถิ่น บุนยอดกอร์ ในวันอังคารที่ 21 พ.ค. นี้ เวลา 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
หลังเข้าตรวจสนาม ทัดเทพ กล่าวว่า "ต้องยอมรับเลยว่าสนามที่จะใช้แข่งขันมีระบบการจัดการที่ดีมาก เหมือนน้องๆของสนามในพรีเมียร์ลีกของอังกฤษเลย ซึ่งผมมองว่าน่าจะดีกว่าสนามในประเทศญี่ปุ่นระดับเจลีก และไม่คิดว่าสนามบุนยอดกอร์ สเตเดียม จะเป็นมาตรฐานเดียวกับยุโรป และมาอยู่ในประเทศอุซเบกิสถานแบบนี้ โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกพอใจกับสนามแข่งขันเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีสนามฝึกซ้อมอีก 6 สนามรอบๆบริเวณสเตเดียม และยังเป็นสนามของทีมชาติอุซเบฯชุดใหญ่ไว้ใช้ลงแข่งขันอีก"
"ผมไม่แปลกใจเลยว่า ทีมบุนยอดกอร์ทำไม่ถึงมีความแข็งแกร่งเช่นนี้ และมีการพัฒนาทีมที่ดีขึ้นเร็วมาก ทั้งๆที่เป็นทีมเกิดใหม่มาไม่กี่ปี โดยเฉพาะรังเหย้าของเขาที่มีความทันสมัยและเป็นระบบที่ชัดเจน ถือว่าเป็นสนามสโมสรที่ดีที่สุดในระดับเอเชียเลยก็ว่าได้ ถือว่าทีมเรามีโอกาสที่ดี ที่กุมความได้เปรียบในเรื่องขอสกอร์มาก่อน รวมถึงสภาพอากาศก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เราคิด และตัวนักเตะเองก็มีความเข้าใจในเรื่องของแท็กติกเป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีแรงจูงใจภายในทีมเป็นอย่างดีอีกด้วย ลึกๆแล้วผมเชื่อว่าทีมบุรีรัมย์ฯ น่าจะผ่านเข้ารอบได้แน่ และต้องยกความดีความชอบให้กับทีมงานสตาฟฟ์ของทีม ที่ได้หาข้อมูลศึกษาคู่แข่งมาเป็นอย่างดีในการทำการบ้านของทีมเรา" ทัดเทพกล่าว
ขณะที่ เนวิน ชิดชอบ นายใหญ่เซราะกราว กล่าวถึงก่อนเกมแข่งขันกับทีมบุนยอดกอร์ว่า "คู่ต่อสู้ของเราตอนนี้ถ้ามองแล้วเหนือกว่าเราในฐานะเป็นเจ้าบ้าน และตัวผู้เล่นเองก็มีความสามารถเฉพาะตัวที่ดี สิ่งเดียวที่เรามีเหนือกว่าเขา คือความมุ่งมั่นในตัวนักเตะของเรา เพราะทุกคนตั้งใจที่อยากจะผ่านเข้าไปเล่นรอบ 8 ทีมให้ได้ สำหรับทีมบุรีรัมย์ฯถือว่ามีค่าและมีความหมายมาก แต่สำหรับบุนยอดกอร์เอง เขาถือเป็นเรื่องปกติในทัวร์นาเมนต์นี้ และเราก็ยังมีโอกาสมากกว่าเขา เพราะนัดแรกในบ้านของเรา เราก็เก็บชัยชนะไว้ได้ก่อนแล้ว ที่สำคัญเราจะต้องเล่นไม่ประมาทกับเขา"
ทั้งนี้ เนวิน กลับมองด้วยว่า การเล่นกับสโมสรบุนยอดกอร์ก็ไม่ต่างจากเล่นทีมชาติของอุซเบกิสถาน และในระดับทีมชาติเขากำลังมีโอกาสผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกครั้งต่อไปได้โดยได้สิทธิ์เป็นทีมโควต้าเอเชียเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ยิ่งเห็นสนามแข่งขันแล้วก็ยิ่งอยากเล่นยิ่งอยากชนะ อย่างน้อยถ้าเราเอาชนะได้ ทีมสโมสรไทยก็ไม่ได้เป็นรองทีมไหนในเอเซีย