เอกชัย สำเร กับ ธีราทร บุญมาทัน ช่วยกันยิงให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไล่ตีเสมอ เอฟซี โซล ไปอย่างตื่นเต้น 2-2 ในศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย พร้อมกับลิ่วเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้เป็นครั้งแรก
เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มรอบแรก
เอฟซี โซล 2-2 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
“ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตัวแทนจากประเทศไทย ลงทำศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2013 รอบแบ่งกลุ่ม สาย อี นัดสุดท้าย ปัจจุบันรั้งอันดับ 3 แข่ง 5 นัดมี 6 คะแนนเท่ากับ เวลกัลตะ เซนได (ญี่ปุ่น) บุกเยือนสนามโซล เวิลด์คัพ สเตเดียม ของ เอฟซี โซล ยอดทีมจาก เค-ลีก ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งนำเป็นจ่าฝูงมี 10 คะแนน ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมเป็นที่เรียบร้อย เวลา 17.30 น.ตามเวลาประเทศไทยในวันที่ 1 พ.ค. หลังจากนัดแรกบุรีรัมย์ ยันเสมอ เอฟซี โซล ที่สนามไอโมบาย สเตเดียม 0-0
โดยฝั่งเจ้าบ้าน เอฟซี โซล ที่ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายค่อนข้างแน่นอนแล้ว พักตัวหลักหลายราย โดยเฉพาะ เดยาน ดัมจาโนวิช ดาวซัลโวเค-ลีก 2 สมัยซ้อน และ เซอร์จิโอ เอสคูเดโร ลงล่าตาข่าย รวมทั้งไม่มีชื่อแม้กระทั่งตัวสำรอง ฟากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผู้มาเยือน ยังคงใช้แนวรับตัวหลักอย่างศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เฝ้าเสา พร้อมด้วย ประทุม ชูทอง, ธนะศักดิ์ ศรีใส, ธีราทร บุญมาทัน และสุรัตน์ สุขะ ยืนแดนหลัง ส่วนแผงมิดฟิลด์ ส่งตัวสำรองหลายรายอย่างเอกชัย สำเร, อดิศักดิ์ ไกรษร โดยมีคาร์เมโล กอนซาเลซ ขับเคลื่อนในแนวรุก พร้อมด้วยสุเชาว์ นุชนุ่ม ส่วนแดนหน้าวาง ไค ฮิราโนะ ลงล่าตาข่าย
เริ่มการแข่งขันครึ่งแรก เอฟซี โซล โหมเกมรุกใส่บุรีรัมย์ ผู้มาเยือนแบบไม่ทันตั้งตัวเพียง น.9 โค ควาง มิน ได้โอกาสส่องระยะไกล บริเวณหน้ากริบเขตโทษทางขวา แต่บอลหลุดเสาแรกไปไกลอย่างน่าเสียดาย ต่อเนื่อง น.10 แฟนบอลโสมได้ลุ้นประตูก่อนจากลูกเตะมุม โยนมาให้ ฮัน แต โย ขึ้นโหม่ง แต่ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน กระโดดรับบอลติดมือพอดี ถัดมา น.19 แฟนบอลเจ้าถิ่นเกือบได้ลุ้นอีกครั้ง เมื่อ ควาง มิน รับบอลมาทางกราบขวาก่อนไหลบอลย้อนเข้ากลางให้ คิม ฮุน ซุง ล้มตัวยิง บอลพุ่งเฉียดเสาชนิดหายใจไม่ทั่วท้อง
รูปเกมโดยรวมเป็นฝั่งเอฟซี โซล ที่ได้บุกอยู่ฝั่งเดียวแต่ยังจบสกอร์ไม่คมเอง ทว่าฟากขุนพล “เซราะกราว” มาได้ลุ้นในช่วงท้ายครึ่งแรกเมื่อ ไค ฮิราโนะ โดนฮัน แต โย วิ่งไล่เบียดล้มบริเวณเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้ให้เป็นจุดโทษทันที ก่อนที่ คาร์เมโล จะขออาสายิงจุดโทษ แต่โดนยู ซาง ฮูน ล้มตัวทางขวาปัดบอลออกหลังได้ทัน ชวดโอกาสทำประตูสำคัญอย่างน่าเสียดาย ช่วงท้ายเกมไม่มีฝั่งใดสามารถเปิดสกอร์แรกได้จบครึ่งแรกยังเสมอ 0-0
ช่วงการแข่งขันครึ่งหลังทีมตัวแทนโสมขาว ส่ง เอดิลสัน นักเตะแซมบาแทน ชอย โฮ จิน และได้ผลทันทีเมื่อ น.54 เมื่อ โค ควางมิน ได้บอลทะลุมาทางด้านขวา ก่อนตวัดบอลให้จุง ซุง ยอง ที่ยืนคนเดียวซัดบอลโล่งๆ เป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ได้สำเร็จ แต่แฟนบอลเจ้าถิ่นดีใจได้ครู่เดียว น.56 จากจังหวะที่คาร์เมโล จ่ายบอลทะลุแนวรับแดนโสม ให้ไค ฮิราโนะ ก่อนไหลบอลให้ เอกชัย สำเร จิ้มบอลลอดตัว ยู ซาง ฮูน ให้บุรีรัมย์ตีเสมอสำเร็จ 1-1
ฝั่งเจ้าบ้านไม่รอช้าส่ง มารูซิโอ โมลินา มิดฟิลด์ชาวโคลอมเบียลงมาสัมผัสเกมแทนจุง ซุง ยอง ใน น.64 แต่แล้ว น.73 โซล ได้จังหวะฟรีคิกโยนบอลมาให้ คิม ฮุน ซุง หนีตัวประกบขึ้นโขกขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 ทว่าอีก 2 นาทีถัดมา ตัวแทนจากประเทศไทยได้เฮอีกครั้ง เมื่อ ธีราทร บุญมาทัน จัดการซัดฟรีคิกระยะ 25 หลา บอลไม่โดนใครเลยก่อนที่เด้งเข้าประตูตีเสมอทันควัน 2-2 ต่อมาช่วง น.80 “โค้ชแต๊ก” อรรถพล ปุษปาคม ส่ง สุริยา ดอมไธสง แทน เอกชัย สำเร เกมดำเนินสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บอีก 3 นาที ยังไม่มีฝั่งไหนทำประตูเพิ่มได้ จบการแข่งขัน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกมายันเสมอ เอฟซี โซล ไปอย่างตื่นเต้น 2-2 พร้อมกับคว้าตั๋วเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก เป็นครั้งแรกได้สำเร็จโดยเข้าไปพบกับบุนยอดกอร์ จากอุซเบกิสถาน โดยเล่นในรังไอ-โมบาย สเตเดียมก่อนในวันที่ 14 พฤษภาคม ต่อด้วยไปเยือนในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้
ขณะที่ผลการแข่งขัน เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มรอบแรก สายอี อีกคู่ เวลกัลตะ เซนได (ญี่ปุ่น) แพ้ เจียงซู เซนตี (จีน) 1-2
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เอฟซี โซล :ยู ซาง ฮูน(ผู้รักษาประตู), ชอย โฮ จิน, คิม นาม ชูน, คิม ชี วู, ฮัน แต โย, ชอย ฮุน แต, ลี ซาง ฮุป, ชอย แต อุค, คิม ฮุน ซุง, จุง ซุง ยอง, โค ควาง มิน
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน(ผู้รักษาประตู), ธีราทร บุญมาทัน, ประทุม ชูทอง, ธนะศักดิ์ ศรีใส, คาร์เมโล กอนซาเลซ, สุรัตน์ สุขะ, สุเชาว์ นุชนุ่ม, จิรวัฒน์ มัครมย์, เอกชัย สำเร, อดิศักดิ์ ไกรษร, ไค ฮิราโนะ