เกิดเหตุวุ่นวายหน้าสนาม บาห์เรน อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต ในการแข่งขันฟอร์มูลา วัน “บาห์เรน กรังด์ ปรีซ์” เมื่อมีกลุ่มผู้ประท้วงในประเทศที่ต่อต้านรัฐบาล ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยรักษาความปลอดภัย เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ที่ผ่านมา
แม้ศึกเอฟวัน บาห์เรน จีพี รอบชิงชนะเลิศจะจบลงอย่างราบรื่น พร้อมกับชัยชนะของ เซบาสเตียน เวทเทล ของ เรด บูลล์ เมื่อคืนวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา ทว่านอกสนามไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อมีเหตุผู้ประท้วงทั้งผู้ใหญ่และเยาวชนกลุ่มใหญ่ ปะทะกับเจ้าหน้าที่ที่มาดูแลความปลอดภัยใน มานามา เมืองหลวงของประเทศ
รายงานระบุว่า กลุ่มผู้ประท้วงซึ่งล้วนแต่ยังเป็นวัยรุ่นบุกมาที่ มานามา ที่ตั้งของสนาม บาห์เรน อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต ที่ใช้แข่งเอฟวันในเวลานั้น ก่อนจุดไฟเผายางเพื่อปิดถนน และเรียกร้องสิทธิเสรีภาพจากรัฐบาลเผด็จการ เหตุการณ์เริ่มตึงเครียดจนในที่สุดทั้งสองฝ่ายปะทะกัน โดยเจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตาเพื่อระงับเหตุ ขณะทีอีกฝ่ายตอบโต้ด้วยการปาหินและระเบิดขวดใส่
โดยหลังเผชิญหน้ากันหลายนาที ในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็สามารถควบคุมสถานการณ์พร้อมจับกุมผู้ก่อความไม่สงบได้ถึง 13 ราย ก่อนนำตัวไปสอบสวนต่อไป ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บและโดนลูกหลงจากเหตุรุนแรงครั้งนี้ได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในละแวกใกล้เคียง ซึ่งยังไม่มีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เหตุวุ่นวายครั้งนี้ยังไม่รุนแรงเท่าปี 2011 ซึ่งครั้งนั้นเจ้าหน้าที่และผู้ประท้วงต่อสู้กันจนมีผู้บาดเจ็บเสียชีวิตจำนวนมาก ก่อนที่ฝั่งรัฐบาลจะสั่งยกเลิกการแข่งขันเอฟวันในปีนั้นไป ส่วนฝ่ายจัดการแข่งขันเอฟวัน รวมถึง เบอร์นี เอ็คเคิลสโตน ผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ศึกรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก ยังไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ ต่อเรื่องนี้