เอเยนซี - ศึกฟอร์มูลา วัน สนามสี่ของปี “บาห์เรน กรังด์ปรีซ์” มีคิวลงแข่งขันกันระหว่างวันที่ 19-21 เมษายนนี้ ณ บาห์เรน อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต ประเทศบาห์เรน ซึ่งถือได้ว่าเป็นสนามเจ้าปัญหา หลังมีกลุ่มผู้ประท้วงออกมาต่อต้านทำเอา เบอร์นี เอ็คเคิลสโตน ต้องปวดหัวอยู่ทุกปี ไม่เว้นแม้แต่ปีนี้ซึ่งดูเหมือนบิ๊กบอส “เอฟวัน” ต้องเผชิญศึกรอบด้านทั้งในและนอกสนาม จนอาจต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้มากกว่าเดิม จากเหตุสะเทือนขวัญที่ “บอสตัน มาราธอน” สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 เมษายน ที่ผ่านมา
โดยสถานการณ์ปัจจุบันในบาห์เรน มีกลุ่มผู้ประท้วงซึ่งไม่พอใจรัฐบาลที่ปกครองประเทศภายใต้ระบอบเผด็จการ จึงรวมตัวกันออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลคืนสิทธิเสรีภาพให้ประชาชนและเปลี่ยนระบอบการปกครองมาเป็นประชาธิปไตย ซึ่งปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน เรื่องนี้ เบอร์นี เอ็คเคิลสโตน ผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ของศึกฟอร์มูลา วัน (F1) ย่อมรู้ดีแก่ใจ แต่ยังผลักดันให้ “บาห์เรน จีพี” อยู่ในปฏิทินการซิ่งต่อไป
ย้อนกลับไปปี 2011 เอ็คเคิลสโตน และรัฐบาลบาห์เรน ตัดสินใจยกเลิกการศึกเอฟวัน หลังเหตุความไม่สงบในประเทศทวีความรุนแรงจนมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก งานนี้ F1 สูญเสียรายได้มหาศาล ก่อนดึงดันให้กลับมาซิ่งกันตามโปรแกรมเดิมในปี 2012 ทว่าคราวนั้นเริ่มมีเสียงเรียกร้องจาก เซบาสเตียน เวทเทล นักขับซูเปอร์สตาร์ของเรดบูลล์ ถึงความรู้สึกกังวลใจจากสถานการณ์รอบสนามที่ไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน
เข้าสู่ปี 2013 ปัญหาระหว่างประชาชนและรัฐบาลบาห์เรน ไม่มีทีท่าว่าจะยุติง่ายๆ บรรดาผู้ประท้วงทั้งชายและหญิงต่างออกมาเดินขบวนต่อต้านการแข่งรถสูตรหนึ่งในเมืองมานามา รวมถึงพ่นสีข้างกำแพงเพื่อแสดงจุดยืนอย่างชัดเจน ล่าสุดเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ยังมีพวกหัวรุนแรงที่อ้างชื่อว่าเป็นกลุ่ม “14 กุมภาพันธ์” ออกมายกระดับการประท้วงให้เข้มข้นยิ่งขึ้นด้วยการระเบิดรถยนต์เป็นสัญญาณเตือนครั้งสุดท้ายไปยังรัฐบาลบาห์เรนและฝ่ายจัดการแข่งขัน
แม้ยังไม่มีผู้คนล้มตายใน “บาห์เรน จีพี” แต่จากเหตุการณ์วางระเบิดใน “บอสตัน มาราธอน” ทำให้มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 170 คน ดังนั้นการซิ่งที่ดินแดนทะเลทรายปี 2013 มาตรฐานความปลอดภัยให้แก่ทีมงาน นักขับ และผู้ชม สามารถเป็นตัวชี้วัดที่ เอ็คเคิลสโตน ต้องประเมินให้ถี่ถ้วนอีกครั้งถึงคุณค่าชีวิตคนกับผลประโยชน์
ล่าสุด แม้กลุ่มสมาชิกรัฐสภาของอังกฤษได้รวมตัวกันร่างหนังสือส่งไปให้ เอ็คเคิลสโตน เพื่อวิงวอนให้ยกเลิกการแข่งขันในปีนี้ แต่ดูเหมือนเจ้าพ่อเอฟวัน วัย 80 ปี ที่ไม่อยากตกอยู่ในสภาวะขาดทุนย่อยยับเหมือนปี 2011 ยังยืนยันเสียงแข็งมั่นใจว่ารัฐบาลบาห์เรนจะรับมือกับสถานการณ์ความรุนแรงได้เป็นอย่างดีเช่นเดียวกับปีที่แล้ว “ผมไม่เห็นเหตุผลว่าทำไมการแข่งขัน บาห์เรน ปีนี้จะไม่ประสบความสำเร็จ ไม่มีอะไรที่น่ากังวล ถือเป็นเรื่องการเมืองภายในประเทศและผมก็เชื่อมั่นว่าทุกฝ่ายกำลังพยายามจัดการเรื่องนี้”
อย่างไรก็ดี เรื่องราวข้างต้นกลบกระแสข่าวการซิ่งในสนามอย่างสิ้นเชิง ประเด็นความขัดแย้งภายในทีมเรดบูลล์ระหว่าง “เซ็บ” กับ มาร์ค เว็บเบอร์ ที่ถูกพูดถึงมาตลอดตั้งแต่จบการแข่งขันเซปัง กรังด์ปรีซ์ เริ่มเลือนหาย หรือการวิเคราะห์มองหาคู่แข่งมาโค่นบัลลังก์ เวทเทล ที่บาห์เรน แทบไม่มีใครนำมาชู เมื่อสื่อทุกสำนักต่างเทความสนใจไปที่ความปลอดภัยทั้งในและนอกแทร็ก ซึ่งหากปล่อยให้ความกดดันรุมเร้า ที่สุดแล้ว เอ็คเคิลสโตน อาจจำยอมต้องถอด “บาห์เรน จีพี” จากปฏิทินซิ่ง เพราะถ้ามีความรุนแรงเกิดขึ้นจนเกิดการสูญเสีย มันคงกลายเป็นอีกหนึ่งประวัติศาสตร์ของวงการความเร็วที่ไม่มีใครอยากจดจำก็เป็นได้
