นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมมวยเสื้อกล้ามไทย เปิดตัวคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ของสมาคม พร้อมเดินหน้าสายสัมพันธ์กับสหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นนานาชาติ (ไอบา) ส่งเทียบเชิญ ชิง โกะ วู นั่งประธานจัดมวยชิงแชมป์ประเทศไทย พร้อมตั้ง โอมาร์ มาลากอน โค้ชชาวคิวบา เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทัพกำปั้นไทย
เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2556 ณ โรงแรมรามาการ์เดนส์ นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมมวยสากลแห่งประเทศไทย แถลงเปิดตัวคณะกรรมการบริหารสมาคมชุดใหม่ พร้อมแถลงนโยบาย ภายใต้ชื่องาน “มุ่งมั่น พัฒนา สู่ความเป็นเลิศ” นำโดย พล.อ.อ.ไพบูลย์ สิงหามาตย์ เป็นประธานฝ่ายเทคนิค และ นายวินัย รอดจ่าย นั่งตำแหน่งเลขาธิการสมาคมฯ ส่วนตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนมอบหมายให้ โอมาร์ มาลากอน โค้ชชาวคิวบารับหน้าที่ ส่วนผู้ช่วยผู้ฝึกสอนเป็นของ “ตลาดแขก” น.ท.ทวีวัฒน์ อิสลาม อดีตโค้ชทีมชาติ ขณะที่ ยังมี แก้ว พงษ์ประยูร เจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ที่กรุงลอนดอนร่วมทีมสตาฟฟ์โค้ชด้วย
โดยนายพิชัย ได้กล่าวถึงนโยบายภายใต้การนำของตนว่าจะเป็นไปในแนวทางที่สอดคล้องกับ ไอบา “วันนี้เราทำการเปิดตัวคณะบริหารชุดใหม่ที่มีองค์ประกอบครบถ้วนทั้ง พลเรือน ทหาร และ ตำรวจ ซึ่งทุกคนล้วนมีความรู้ความสามารถในเรื่องมวยเป็นอย่างดี และเราได้แจ้งไปที่ ไอบา แล้ว ซึ่งทางนั้นได้ตอบรับเราเข้าเป็นสมาชิกเรียบร้อย ส่วนในด้านนโยบายทางสมาคมมีแนวทางให้สอดคล้องกับ ไอบา เป็นหลัก โดยจะมีการฝึกอบรมพัฒนาด้าน ผู้ฝึกสอน สตาฟฟ์โค้ช และนักมวย ให้เข้าใจในกติกามากขึ้น รวมถึงผลักดันให้ผู้ตัดสินไทย เข้าไปมีส่วนร่วมกับทาง ไอบา ขณะเดียวกันก็เตรียมเข้าหารือกับสโมสรสมาชิกทั้ง 78 แห่ง ถึงสิ่งที่ขาดตกบกพร่อง และเฟ้นหานักมวยเยาวชนหน้าใหม่ขึ้นทดแทน”
พร้อมกันนี้ “บิ๊กบางจาก” ยังเปิดเผยถึงแผนกระชับความสัมพันธ์กับ ชิง โกะ วู ประธานเสื้อกล้ามชาวใต้หวัน ด้วยว่า “การแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์ประเทศไทย ที่ อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก ระหว่างวันที่ 22-26 เมษายนนี้ เราได้ส่งหนังสือเชิญ ชิง โกะ วู มาเป็นประธานจัดการแข่งขันในประเทศไทย รวมถึงตัวผมเองที่เตรียมเดินทางไปพูดคุยถึงประเทศใต้หวันด้วยเช่นกัน ทำให้เชื่อว่าหลังจากนี้ปัญหาระหว่างทั้งสองฝ่ายจะหมดไปแน่นอน”
ขณะที่กติกาใหม่ของ “ไอบา” ที่มีการยกเลิกการสวมเฮดการ์ด หรือ ปรับเปลี่ยนระบบการให้คะแนนใหม่ เป็นยกละ 10 แต้มแบบมวยสากลอาชีพ โดยจะนำมาใช้ในโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่ประเทศบราซิล นายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นไทย ยืนยันว่าเห็นด้วยทุกประการ “เมื่อมีการปรับเปลี่ยนกติกาใหม่ เราต้องให้ความรู้ความเข้าใจกับ นักกีฬา สตาฟฟ์โค้ช และผู้ตัดสินของเรา ถือว่าเป็นสิ่งที่ช่วยให้นักกีฬารุ่นใหม่มีแรงบันดาลใจที่จะพัฒนาตัวเองสู่การแข่งขันมวยสากลอาชีพในอนาคตด้วย”
ขณะเดียวกันประมุขสมาคมกำปั้นไทย กล่าวต่อไปด้วยว่า “เป้าหมายระยะสั้นตอนนี้มองที่การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ปลายปีนี้ที่เมียนมาร์ โดยเชื่อว่าอย่างต่ำ เราน่าจะได้เกิน 4 เหรียญทอง ซึ่งจากนี้จะมีทัวร์นาเมนต์ต่างๆ อาทิ แข่งขันรายการไตหวัน อินเตอร์เนชันแนล เดือนสิงหาคม จากนั้นจะลงแข่งขันปรีซีเกมส์ ที่ย่างกุ้ง เดือนพฤษภาคม ต่อด้วยเดือนตุลาคมแข่งขันเวิลด์แชมป์เปียนที่คาซัคสถานต่อไป”
สำหรับรายชื่อคณะกรรมการชุดใหม่ มีดังนี้ นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคม ส่วนอุปนายกสมาคม 8 คน ได้แก่ พลอากาศเอกระพีพัฒน์ หลาบเลิศบุญ, พลเอกจิระเดช โมกขะสมิด, พลอากาศเอกไพบูลย์ สิงหามาตย์, พลตำรวจโทชัยวัฒน์ โชติมา, สมชาย พูลสวัสดิ์, สมหมาย โค้วคชาภรณ์, ชัยอนันต์ ศิระวณิชการ และ สุชัย พรชัยศักดิ์อุดม ที่เป็นทั้งอุปนายกและเหรัญญิก ส่วนที่เหลือเป็นกรรมการ ได้แก่ พลตรี สุรไกร จัตุมาศ, พลเรือตรีสุทธิชัย ชีพชล, กฤษฎา จุลขาด, ภิญโญ นิโรจน์, ณรงศักดิ์ คุรุพันธ์, ลือชา สุบรรณพงษ์, ปรภฏ ศศิประภา, พันเอกวริทธ์ ปานสุวรรณ กรรมการและนายทะเบียน, วินัย รอดจ่าย กรรมการและเลขาธิการ