“เปแอสเช” ก๊อบเกรดเอ? เจอโจทย์หิน “บาร์ซา”

เอเยนซี - ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่หมายหมั้นปั้นมือจะขึ้นมาเป็นสุดยอดสโมสรแถวหน้าของโลกกับอภิมหาโปรเจกต์ภายใต้เม็ดเงินสนับสนุนจากกลุ่มทุนกาตาร์ เตรียมเผชิญกับด่านมหาหินที่เหมือนเป็นบททดสอบว่าจะสามารถก้าวไปถึงจุดนั้นได้หรือไม่ คือศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก ที่จะเปิด ปาร์ก เดอ แปรงซ์ รับมือ บาร์เซโลนา อาคันตุกะจากสเปน วันอังคารที่ 2 เมษายนนี้ วันเดียวกันยังมีการแข่งขันอีกหนึ่งคู่ บาเยิร์น มิวนิก ที่จะเฝ้าถ้ำพบ ยูเวนตุส

ถือว่าเส้นทางฤดูกาลนี้ก่อนเข้ามาถึงรอบ 8 อรหันต์ของ เปแอสเช ไม่หนักหนาสาหัสอะไรมาก เพราะอยู่กลุ่มเดียวกับทีมที่ไม่แข็งอย่าง ปอร์โต, ดินาโม เคียฟ และ ดินาโม ซาเกร็บ ก่อนที่จะมากำราบ บาเลนเซีย ด้วยสกอร์รวม 2 นัด 3-2 ดังนั้นจึงถือว่า บาร์เซโลนา คือของจริงที่จะพิสูจน์ได้ว่ายอดสโมสรจากฝรั่งเศสคือของจริงหรือว่าก๊อบเกรดเอ ไม่ว่าจะผ่านกระดูกชิ้นโตได้หรือไม่ก็เป็นประโยชน์ที่จะนำไปพัฒนาทีมเพื่อกลับสู้กันต่อปีหน้า

ก็ต้องยอมรับว่ามาตรฐานของ ลีก เอิง ยังเป็นรองอีก 4 ลีกชั้นนำของยุโรป ฤดูกาลนี้ เปแอสเช ก็กำลังจะคว้าแชมป์เป็นครั้งแรกรอบ 19 ปี และถือเป็นแชมป์ลีกสมัยที่ 3 เท่านั้น โดยทิ้งอันดับ 2 โอลิมปิก มาร์กเซย์ 7 แต้ม ขณะที่เหลืออีก 8 นัด โดยล่าสุด คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือชาวอิตาเลียน ไม่ประมาทส่งผู้เล่นเต็มอัตราศึกเปิดบ้านเอาฤกษ์เอาชัยเบียดชนะ มงต์เปลลิเยร์ 1-0 เมื่อวันศุกร์ที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมา

งานนี้ยังเป็นบทพิสูจน์กึ๋นของ อันเชล็อตติ ที่เคยพา เอซี มิลาน คว้าแชมป์ยุโรปมาแล้ว 2 สมัยคือ 2002–03 และ 2006–07 เพราะที่ผ่านมาก็มีข่าวลือมาโดยตลอดว่าเก้าอี้เริ่มสั่นคลอน เนื่องจากผู้บริหารต้องการกุนซืออย่าง โชเซ มูรินโญ หากพร้อมอำลา รีล มาดริด ช่วงซัมเมอร์นี้ แม้ เปแอสเช จะไม่มีเกียรติยศประวัติศาสตร์อะไรเลิศหรูให้พูดถึงมากนักในถ้วย แชมเปียนส์ ลีก แต่เมื่อ 18 ปีก่อนเคยล้ม บาร์เซโลนา มาแล้วด้วยประตูรวม 3-2 ก่อนเข้าไปจอดป้ายด้วยน้ำมือ “ปีศาจแดงดำ” รอบรองชนะเลิศ

บาร์เซโลนา จะประมาท เปแอสเช ไม่ได้อย่างเด็ดขาด เพราะนำทัพมาโดย ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าชาวสวีดิช ที่เคยเล่นในถิ่น คัมป์ นู ฤดูกาล 2009-10 ก่อนจะถูกเขี่ยทิ้งแม้ว่าจะยิงใน ลา ลีกา สเปน ไปถึง 16 ประตู โดยปีนี้ซัดในลีกน้ำหอมไปแล้ว 25 ประตู จาก 27 นัด นอกจากนี้ยังมีแบ็กซ้ายอย่าง แม็กซ์เวลล์ และกองหลังอย่าง ติอาโก ซิลวา ที่น่าเป็นห่วงคือกองกลางอย่าง แบลส มาตุยดี, มาร์โก เวอร์รัตติ และ ฮาเวียร์ ปาสตอเร ที่เป็นรองทีมเยือนทั้งชื่อชั้นและประสบการณ์ ด้าน เดวิด เบ็คแฮม ที่เคยเล่นในแดนกระทิงดุ อาจจะเป็นแค่ตัวสำรองเท่านั้น รวมถึงกองหน้าอาร์เจนไตน์อย่าง เอซกีเอล ลาเวซซี และยังจะได้ ลูคัส มูรา ปีกทีมชาติบราซิล หายเจ็บหลังกลับมากระชากลากเลื้อยด้วย

ด้าน บาร์เซโลนา รอบก่อนหน้านี้ทำเสียวไส้บุกไปพ่าย มิลาน 0-2 ก่อนจะเปิด คัมป์ นู ยำใหญ่ 4-0 โดยตอนนี้กำลังลุ้นคว้าแชมป์สมัยที่ 4 รอบ 8 ฤดูกาลหลังสุดถ้าทำได้สำเร็จก็จะเป็นแชมป์ยุโรปสมัยที่ 5 ในประวัติศาสตร์ด้วย โดยเวลานี้ ติโต บิโลาโนบา กุนซือตัวจริงเสียงจริงเดินทางกลับสู่มาตุภูมิแล้ว หลังไปผ่าตัดรักษามะเร็งต่อมน้ำลายที่ นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา

บาร์เซโลนา เพิ่งบุกไปเสมอ เซลตา บีโก 2-2 เมื่อวันเสาร์ที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้เสียหายอะไรมาก เพราะนำเป็นจ่าฝูงทิ้ง รีล มาดริด 13 แต้ม ขณะที่เหลืออีก 9 นัด โดย ลิโอเนล เมสซี แข้งอัจฉริยะแห่งยุคซัดได้อีก 1 ประตู ถือเป็นลูกที่ 43 ในลีกฤดูกาลนี้ และยิง 19 นัดติดต่อกัน นอกจากนี้ยังยิงประตูทุกทีมในลีกได้ภายในฤดูกาลเดียวด้วย

เกมนี้ ชาบี เอร์นานเดซ ห้องเครื่องคนสำคัญของ บาร์เซโลนา จะคืนทัพคุมจังหวะแดนกลางเช่นเดียวกับ ฆอร์ดี อัลบา แบ็กซ้าย หลังจากไม่ได้เล่นเมื่อสุดสัปดาห์ รวมถึง เปโดร โรดริเกซ แนวรุกที่ติดโทษแบนในเกมลีกจะมาประสานงานกับ ดาบิด บีญา และ เมสซี ทำให้ อเล็กซิส ซานเชซ ต้องหลุดไปเป็นตัวสำรอง