แอนดี เมอร์เรย์ นักเทนนิสชาวสกอตต์ ปราบเอาชนะ ดาบิด เฟร์เรร์ จากสเปน 2-1 เซต ในรอบชิงชนะเลิศ ศึกเทนนิส "โซนี โอเพน" คว้าแชมป์มาครองเป็นสมัยที่ 2 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมแซง โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ขึ้นสู่มือ 2 ของโลกตามการจัดอันดับโลกครั้งใหม่วันจันทร์นี้
การแข่งขันเทนนิส เอทีพี และ ดับเบิลยูทีเอ ทัวร์ รายการ "โซนี โอเพน" ชิงเงินรางวัลรวม 4.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 129 ล้านบาท) ณ เมืองไมอามี มลรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 31 มี.ค. ที่ผ่านมา เป็นการแข่งในรอบชิงชนะเลิศ ของประเภทชายเดี่ยว โดย แอนดี เมอร์เรย์ หวดมือ 3 ของโลก พบกับ ดาบิด เฟร์เรร์
โดยเกมในช่วงเซตแรก หวดมือ 5 ของโลกจากสเปนออกสตาร์ทได้ดีกว่า และสามารถเบรกเกมเสิร์ฟ เมอร์เรย์ ที่เครื่องยังไม่ร้อนเอาชนะไปก่อน 6-2 เข้าสู่เซตที่ 2 หวดชาวสกอตต์เริ่มเรียกจังหวะของตัวเองและคุมสถานการณ์ได้ดีขึ้นต้องสู้กันอย่างสนุกกว่าจะแก้มือกลับมาชนะได้ 6-4 ทำให้สถานการณ์มาเท่ากันที่ 1-1 เซต
จากนั้นในเซตตัดสินทั้งคู่สู้กันได้แบบไม่มีใครเป็นรองสมศักดิ์ศรีคู่ชิงชนะเลิศ ผลัดกันทำแต้มในเกมเสิร์ฟของตัวเองเสมอกันที่ 6-6 ต้องมาตัดสินหาแชมป์ในช่วงไทร์เบรกและเป็น เมอร์เรย์ ที่แรงยังดีกว่า ปิดแมตช์ เอาชนะไปได้ 2-1 เซต 2-6, 6-4 และ 7-6(7/1) คว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 2 ต่อจากปี 2009 พร้อมทั้งแซง โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ หวดชาวสวิสขึ้นเป็นมือ 1 ของโลกตามการประกาศวันจันทร์นี้
หลังจบแมตช์ที่สู้กันยาวนานถึง 2 ชั่วโมง 45 นาที เมอร์เรย์ กล่าวชมคู่แข่งว่า "เราทั้งคู่สู้กันอย่างหนักและใช้ร่างกายมหาศาลจนกว่าจะจบ และผมโชคดีที่เป็นผู้ชนะ มันเป็นการแข่งที่สวยงามมาก เฟร์เรร์ คือนักเทนนิสที่ดีที่สุดคนหนึ่งคนโลก ทุกครั้งที่ผมเจอกับเขาผู้คนมักคิดว่าผมจะต้องชนะแต่เขาก็สู้ได้เยี่ยมทุกครั้ง"
ส่วน เฟร์เรร์ ที่ต้องผิดหวังในรายการนี้ แต่จะขยับอันดับแซง ราฟาเอล นาดาล ที่ไม่มีโปรแกรมแข่งขึ้นสู่มือ 4 ของโลกตามการประกาศวันจันทร์นี้ กล่าวว่า "ผมรู้สึกเหนื่อยมากกับการแข่งในแมตช์ที่ยาวนาน แอนดี ทำได้ดีกว่าจนจบ ผมต้องยินดีกับเขาด้วย"