คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
วงการมวยโลกในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา แฟนมวยน่าจะคุ้นเคยกับชื่อของ เบอร์นาร์ด ฮอปกินส์ ยอดนักชกผู้ผ่านศึกใหญ่น้อยมาอย่างโชกโชนเป็นอย่างดี และเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (ตรงกับบ้านเราสายๆ วันอาทิตย์) ก็สร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นแชมป์โลกอายุมากที่สุดในโลก เมื่อเอาชนะคะแนนนักชกรุ่นน้อง ทาโวริส คลาวด์ ไปอย่างสบายๆ คว้าเข็มขัดโลกรุ่นไลท์ เฮฟวีเวท ของสหพันธ์มวยนานาชาติ หรือไอบีเอฟ มาคาดเอวในวัย 48 ปีอย่างสมภาคภูมิ
ไฟต์นี้ ฮอปกินส์ อาศัยประสบการณ์อันโชกโชน วนอยู่วงนอกให้นักชกรุ่นน้องเดินเข้าหา แล้วดักต่อยเก็บคะแนนเอาชนะไปแบบไม่เหนื่อยมากนะครับ ถือเป็นการวางกลยุทธ์การชกที่ถูกต้องสำหรับนักชกวัยขนาดนี้ และทำให้เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ได้สำเร็จ โดยที่เจ้าของฉายา “จอมบั่นหัว” รายนี้ก็เป็นเจ้าของตำแหน่งแชมป์โลกที่มีอายุมากที่สุดเดิมอยู่แล้ว เมื่อคว้าแชมป์โลกรุ่นเดียวกันนี้มาได้เมื่อปี 2011 ในขณะที่พี่แกมีอายุ 46 ปี แต่จากนั้นก็ไปพ่าย แชด ดอว์สัน ในการเจอกันภาค 2 เสียเข็มขัดไป และทำเอากูรูหลายๆ ท่านเชื่อว่าน่าจะหมดเวลาของฮอปกินส์แล้ว แต่แกก็ยังกลับมาได้อีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่
แวดวงกีฬาศิลปะการต่อสู้ในตอนนี้ถือเป็นยุคทองของจอมเก๋าจริงๆ จากที่เคยมองกันว่ากีฬาประเภทนี้ต้องใช้พลังกายมากมาย ต้องอาศัยสภาพร่างกายที่สดจริงๆ แต่ปรากฏว่าตอนนี้วงการมวยโลกก็มีนักมวยวัยเก๋าที่ยังครองความยิ่งใหญ่อยู่มากมาย อย่าง ฮวน มานูเอล มาเกซ ที่ต่อยปาเกียวหลับไปในไฟต์ล่าสุด ก็อายุ 40 ปีเข้าไปแล้ว ปาเกียวเองก็ 34 กะรัต ฟลอยด์ เมย์เวเธอร์ จูเนียร์ นักมวยที่ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดปอนด์ต่อปอนด์ในขณะนี้ ก็อายุ 36 ปี คลิทช์โกคนพี่ ก็ปาเข้าไป 41 ปี หรือถ้ามาดูวงการศิลปะการต่อสู้แบบผสม Mixed Martial Arts หรือ MMA นักสู้ที่ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดในขณะนี้ของสถาบัน UFC ก็คือ แอนเดอร์สัน ซิลวา ก็ 37 ปีแล้วตอนนี้ แชล ซอนเน่น ที่กำลังจะขึ้นชิงแชมป์รุ่นไลท์ เฮฟวีเวทจาก จอน โจนส์ ก็ 35 ปี
ดูอย่างนี้แล้วก็เลยกลับมานึกถึง “เจ้าบาส” สมรักษ์ คำสิงห์ (ส.เทพสุทิน) ที่กำลังสร้างความฮือฮาให้วงการมวยไทยตอนนี้ เพราะอายุอานาม “โม้อมตะ” รายนี้ก็ว่าไปที่ 40 ปีแล้วเหมือนกัน แถมตอนนี้ยังมีการดึง “เจ้าเป็ด” เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง มาขึ้นเวทีมวยรอบอีกครั้ง แถมมีโอกาสจะมาเจอกับเจ้าบาสซะด้วย “เจ้าเป็ด” เองก็ 44 ปีจะ 45 อยู่รอมร่อ เรียกว่าอยู่ในช่วงอายุเดียวกับบรรดายอดนักสู้ที่เราคุยถึงมาในช่วงต้นคอลัมน์เลยทีเดียว ถือเป็นระดับอมตะนิรันดร์กาลเหมือนกัน
ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องดีที่ยอดนักสู้เหล่านี้รักษาสภาพร่างกายไว้ให้ยอดเยี่ยมได้จนวัยขนาดนี้ และสามารถทำให้แฟนมวยรุ่นก่อนกับแฟนมวยรุ่นใหม่ได้ชื่นชมฝีไม้ลายมือของพวกเขาไปด้วยกันได้ แต่ถ้ามองในแง่อนาคตแล้ว ก็น่าคิดนะครับว่าถ้าไม่สามารถสร้างฮีโร่รุ่นใหม่ขึ้นมาแทนรุ่นเดิมได้ ยังคงอาศัยแต่ชื่อเสียงของยอดมวยรุ่นเดอะ แล้วต่อๆ ไปจะมีใครที่จะมาสร้างกระแสความนิยมให้กับกีฬาเหล่านี้ได้ วงการระดับโลกก็คงมีนักสู้รุ่นใหม่ๆ อยู่ แต่วงการมวยไทยของเรา ถ้านักมวยไทยรุ่นใหม่ไม่สามารถสร้างบารมีให้แฟนมวยรุ่นใหม่ติดใจชื่นชมได้ ความนิยมก็คงถดถอยไปเรื่อยๆ นะครับ
วงการมวยโลกในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา แฟนมวยน่าจะคุ้นเคยกับชื่อของ เบอร์นาร์ด ฮอปกินส์ ยอดนักชกผู้ผ่านศึกใหญ่น้อยมาอย่างโชกโชนเป็นอย่างดี และเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (ตรงกับบ้านเราสายๆ วันอาทิตย์) ก็สร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นแชมป์โลกอายุมากที่สุดในโลก เมื่อเอาชนะคะแนนนักชกรุ่นน้อง ทาโวริส คลาวด์ ไปอย่างสบายๆ คว้าเข็มขัดโลกรุ่นไลท์ เฮฟวีเวท ของสหพันธ์มวยนานาชาติ หรือไอบีเอฟ มาคาดเอวในวัย 48 ปีอย่างสมภาคภูมิ
ไฟต์นี้ ฮอปกินส์ อาศัยประสบการณ์อันโชกโชน วนอยู่วงนอกให้นักชกรุ่นน้องเดินเข้าหา แล้วดักต่อยเก็บคะแนนเอาชนะไปแบบไม่เหนื่อยมากนะครับ ถือเป็นการวางกลยุทธ์การชกที่ถูกต้องสำหรับนักชกวัยขนาดนี้ และทำให้เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ได้สำเร็จ โดยที่เจ้าของฉายา “จอมบั่นหัว” รายนี้ก็เป็นเจ้าของตำแหน่งแชมป์โลกที่มีอายุมากที่สุดเดิมอยู่แล้ว เมื่อคว้าแชมป์โลกรุ่นเดียวกันนี้มาได้เมื่อปี 2011 ในขณะที่พี่แกมีอายุ 46 ปี แต่จากนั้นก็ไปพ่าย แชด ดอว์สัน ในการเจอกันภาค 2 เสียเข็มขัดไป และทำเอากูรูหลายๆ ท่านเชื่อว่าน่าจะหมดเวลาของฮอปกินส์แล้ว แต่แกก็ยังกลับมาได้อีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่
แวดวงกีฬาศิลปะการต่อสู้ในตอนนี้ถือเป็นยุคทองของจอมเก๋าจริงๆ จากที่เคยมองกันว่ากีฬาประเภทนี้ต้องใช้พลังกายมากมาย ต้องอาศัยสภาพร่างกายที่สดจริงๆ แต่ปรากฏว่าตอนนี้วงการมวยโลกก็มีนักมวยวัยเก๋าที่ยังครองความยิ่งใหญ่อยู่มากมาย อย่าง ฮวน มานูเอล มาเกซ ที่ต่อยปาเกียวหลับไปในไฟต์ล่าสุด ก็อายุ 40 ปีเข้าไปแล้ว ปาเกียวเองก็ 34 กะรัต ฟลอยด์ เมย์เวเธอร์ จูเนียร์ นักมวยที่ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดปอนด์ต่อปอนด์ในขณะนี้ ก็อายุ 36 ปี คลิทช์โกคนพี่ ก็ปาเข้าไป 41 ปี หรือถ้ามาดูวงการศิลปะการต่อสู้แบบผสม Mixed Martial Arts หรือ MMA นักสู้ที่ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดในขณะนี้ของสถาบัน UFC ก็คือ แอนเดอร์สัน ซิลวา ก็ 37 ปีแล้วตอนนี้ แชล ซอนเน่น ที่กำลังจะขึ้นชิงแชมป์รุ่นไลท์ เฮฟวีเวทจาก จอน โจนส์ ก็ 35 ปี
ดูอย่างนี้แล้วก็เลยกลับมานึกถึง “เจ้าบาส” สมรักษ์ คำสิงห์ (ส.เทพสุทิน) ที่กำลังสร้างความฮือฮาให้วงการมวยไทยตอนนี้ เพราะอายุอานาม “โม้อมตะ” รายนี้ก็ว่าไปที่ 40 ปีแล้วเหมือนกัน แถมตอนนี้ยังมีการดึง “เจ้าเป็ด” เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง มาขึ้นเวทีมวยรอบอีกครั้ง แถมมีโอกาสจะมาเจอกับเจ้าบาสซะด้วย “เจ้าเป็ด” เองก็ 44 ปีจะ 45 อยู่รอมร่อ เรียกว่าอยู่ในช่วงอายุเดียวกับบรรดายอดนักสู้ที่เราคุยถึงมาในช่วงต้นคอลัมน์เลยทีเดียว ถือเป็นระดับอมตะนิรันดร์กาลเหมือนกัน
ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องดีที่ยอดนักสู้เหล่านี้รักษาสภาพร่างกายไว้ให้ยอดเยี่ยมได้จนวัยขนาดนี้ และสามารถทำให้แฟนมวยรุ่นก่อนกับแฟนมวยรุ่นใหม่ได้ชื่นชมฝีไม้ลายมือของพวกเขาไปด้วยกันได้ แต่ถ้ามองในแง่อนาคตแล้ว ก็น่าคิดนะครับว่าถ้าไม่สามารถสร้างฮีโร่รุ่นใหม่ขึ้นมาแทนรุ่นเดิมได้ ยังคงอาศัยแต่ชื่อเสียงของยอดมวยรุ่นเดอะ แล้วต่อๆ ไปจะมีใครที่จะมาสร้างกระแสความนิยมให้กับกีฬาเหล่านี้ได้ วงการระดับโลกก็คงมีนักสู้รุ่นใหม่ๆ อยู่ แต่วงการมวยไทยของเรา ถ้านักมวยไทยรุ่นใหม่ไม่สามารถสร้างบารมีให้แฟนมวยรุ่นใหม่ติดใจชื่นชมได้ ความนิยมก็คงถดถอยไปเรื่อยๆ นะครับ
