นายมนตรี ไชยพันธ์ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา เผยว่า สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย กำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 15 มิถุนายนนั้น ไม่ได้ผิดแต่อย่างใด ส่วนการเพิ่มวาระการดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลฯ เป็น 4 ปีนั้นต้องพิจารณาว่าขัดต่อกฎหมายไทยหรือไม่
หลังจาก “บังยี” นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้กำหนดวันเลือกตั้งสภากรรมการชุดใหม่ เป็นวันที่ 15 มิถุนายน ปี พ.ศ.2556 ซึ่งมีข้อสงสัยตามมาว่า อาจจะผิดระเบียบข้อบังคับสมาคมเองที่กำหนดให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปีในเดือนมีนาคม รวมถึงกรณีที่นายวรวีร์เตรียมเสนอกับที่ประชุมใหญ่สามัญในวันที่ 31 มีนาคม เพื่อแก้วาระการดำรงตำแหน่งของนายกสมาคม และสภากรรมการ จากวาระการดำรงตำแหน่ง 2 ปี เป็นวาระละ 4 ปี เพื่อให้เป็นไปตามสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟานั้น
ล่าสุดวันนี้ (20 ก.พ.) นายมนตรี ไชยพันธ์ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา กล่าวว่า “กรณีที่สมาคมฟุตบอลฯ ได้กำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 15 มิถุนายน 2556 ไม่ถือว่าเป็นการขัดข้อบังคับใดๆ เนื่องจากก่อนจะกำหนดวันเลือกตั้งนั้น ได้มีการหารือร่วมกันกับ กรมการปกครอง, กกท.และสมาคมฟุตบอลฯแล้ว พบว่า ข้อบังคับได้ระบุว่า ต้องมีการประชุมใหญ่สามัญในเดือนมีนาคม ซึ่งสมาคมก็ปฏิบัติตาม”
ส่วนวาระการดำรงตำแหน่งของนายกสมาคมนั้น ตามข้อบังคับระบุว่ามีวาระ 2 ปี แต่เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งก่อน ไม่ได้เลือกตั้งในวันประชุมใหญ่ในเดือนมีนาคม ทำให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 17 มิถุนายน ปี 2554 ดังนั้นการกำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 15 มิถุนายนนั้น ก็ถือว่านับได้ 2 ปีพอดีตามวาระ และถือว่าทำได้ ซึ่งสมาคมฟุตบอลฯ ต้องเสนอในที่ประชุมใหญ่ต่อไป
สำหรับกรณีที่ นายวรวีร์ เตรียมจะแก้วาระการดำรงตำแหน่งของสภากรรมการจาก 2 ปี เป็น 4 ปีนั้น นายมนตรี กล่าวว่า “ต้องดูกฎหมายไทยก่อน เวลานี้ พ.ร.บ.กกท.ปี 2528 กำหนดให้แต่ละสมาคมกีฬามีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 2 ปี ดังนั้นการแก้วาระการดำรงตำแหน่งโดยระบุว่าเพื่อให้เป็นไปตามที่สหพันธ์กำหนดนั้นสามารถทำได้ แต่หากผิดกฎหมายประเทศ ก็ไม่สามารถนำมาใช้ได้ ยืนยันว่า พ.ร.บ.กกท.ปี 2528 ที่ใช้กำกับดูแลสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยในปัจจุบันนั้น กำหนดให้กรรมการบริหารสมาคมมีวาระการดำรงตำแหน่ง 2 ปีเท่านั้น”
อย่างไรก็ตาม พ.ร.บ.กกท. พ.ศ..... ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการปรับปรุงนั้น ตามแนวคิดอาจมีการระบุข้อความถึงวาระการดำรงตำแหน่งของผู้บริหารสมาคมไว้กว้างๆ ว่าให้เป็นไปตามข้อบังคับ ซึ่งอาจจะระบุต่อไปว่า ให้นับตามที่สหพันธ์กำหนด