เอเยนซี - โจ แฟล็กโก ประกาศศักดาความเป็นควอเตอร์แบ็กหัวแถวยุคปัจจุบันของลีกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) เมื่อนำทัพ "อีกาพญายม" บัลติมอร์ เรฟเวนส์ จิกแชมป์ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 47 มาครอง หลังพิชิตชัยเหนือ ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส 34-31 เมื่อวันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2556 พร้อมรับตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) เกมชิงแชมป์ประเทศอีกด้วย
ก่อนฤดูกาล 2012/13 เปิดฉาก โจ แฟล็กโก ลั่นวาจาตนคือ "จอมทัพ" ฝีมืออันดับต้นๆ ของลีกคนชนคน แต่ตลอด 4 ฤดูกาลที่ผ่านมา ควอเตอร์แบ็กดราฟท์รอบแรก อันดับ 18 ของปี 2008 ทำได้เพียงนำต้นสังกัด เรฟเวนส์ เข้าถึงรอบชิงแชมป์สายเอเอฟซี (AFC) 2 หน (ปี 2009 และ 2012) จอดป้ายแค่รอบดิวิชันนัล เพลย์ออฟ อีกสองครั้ง (ปี 2010-11) จนถูกสื่อแดนมะกันตั้งข้อสังเกตที่ยังไม่ได้สัญญาฉบับใหม่ เหตุจากบอร์ดบริหาร "อีกาพญายม" ไม่เชื่อมือว่าสามารถพาแฟรนไชส์สัมผัสแชมป์ได้
แต่ล่าสุด แฟล็กโก กลายเป็นควอเตอร์แบ็กเพียงคนที่ 6 ในประวัติศาสตร์ที่ขว้าง 3 ทัชดาวน์ในครึ่งเวลาแรก กระจายให้ อันควาน โบลดิน 13 หลา, เดนนิส พิตตา 1 หลา และจาโคบี โจนส์ 56 หลา ช่วยให้ทีมนำ 21-6 ขณะที่ทีมรับช่วยกันต้าน โคลิน เคเปอร์นิค กับพลพรรค "คนตื่นทอง" โฟร์ตีไนเนอร์ส ปล่อยให้ เดวิด เอเคอร์ส ลงมาส่อง 2 ฟิลด์โกล
แถมครึ่งหลัง โจนส์ มาปล่อยทีเด็ดวิ่งย้อนคิกออฟไกลเป็นประวัติศาสตร์เพลย์ออฟ 108 หลา เข้าเอ็นด์โซน เกมทำท่าจะเป็นของเรฟเวนส์ ทว่าไฟที่สนามเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซูเปอร์โดม ในนิวออร์ลีนส์ เกิดปัญหาขัดข้องดับไปนานถึง 34 นาที เคเปอร์นิค จึงได้จูนเครื่องเกมนี้บอมบ์ไป 302 หลา แก้ตัวจากที่เสียอินเทอร์เซปต์ครึ่งแรก ขว้างสกอร์ระยะ 31 หลาเข้ามือ ไมเคิล แคร็บทรี ปีกนอกคู่ใจ จากนั้น แฟรงค์ กอร์ ซึ่งมีเกมที่ดีเช่นกันวิ่งไป 110 หลา กระซวกอีกหนึ่งทัชดาวน์ โมเมนตัมเริ่มเทมาทางโฟร์ตีไนเนอร์ส เมื่อ เคเปอร์นิค มาวิ่งอีก 15 หลาเป็นสกอร์ แต่เปลี่ยนสองแต้มไม่สำเร็จ "คนตื่นทอง" ไล่มาจ่อคอหอย 29-31
เกมมาถึงไคลน์แม็กซ์ช่วงท้าย จัสติน ทัคเกอร์ ซัดฟิลด์โกลที่สองของตัวเองให้ เรฟเวนส์ นำเป็น 34-29 แต่บอลมาอยู่ในมือ เคเปอร์นิค อย่างไรก็ดี ปาฏิหาริย์ไม่เกิดขึ้น เมื่อทีมรับ "อีกาพญายม" ซึ่งนำมาโดย เรย์ ลูอิส ตำนานไลน์แบ็กเกอร์สามารถยันได้ทั้ง 4 ดาวน์บริเวณเส้น 5 หลา ก่อนที่ จอห์น ฮาร์บอห์ หัวหน้าโค้ชผู้พี่โชว์กึ๋นให้ แซม โคช ถ่วงเวลาในเอ็นด์โซนยอมเสียเซฟตี้ เหลือเวลาให้ โฟร์ตีไนเนอร์ส รับลูกวิ่งย้อนฟรีคิกแค่ 4 วินาที ซึ่ง เท็ด จินน์ จูเนียร์ ก็โดนตะปบได้บริเวณกลางสนาม หมดเวลา บัลติมอร์ เรฟเวนส์ เฉือนชัย 34-31 คว้า "วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี" เป็นสมัยที่ 2 ต่อจากเมื่อปี 2001 ขณะที่ "คนตื่นทอง" เสียสถิติในซูเปอร์โบว์ล ปราชัยหนแรกสำหรับการเข้าชิง 6 ครั้ง
ภายหลัง แฟล็กโก ที่ทำผลงานขว้างเข้าเป้า 22 จาก 33 ครั้ง ได้ระยะ 287 หลา 3 ทัชดาวน์ ยอดรวมในเพลย์ออฟปีนี้เป็น 11 ทัชดาวน์ ไม่เสียแม้แต่อินเทอร์เซปต์เดียว (สถิติเทียบเท่า โจ มอนทานา ตำนานควอเตอร์แบ็กโฟร์ตีไนเนอร์ส) พร้อมรับตำแหน่ง MVP ซูเปอร์โบว์ลหนนี้ ออกมาเผยเชิงขอสัญญาใหม่เพื่ออยู่โยงที่บัลติมอร์ หลังได้แชมป์สมศักดิ์ศรี เมื่อเอาชนะควอเตอร์แบ็กอย่าง แอนดรูว์ ลัก "นัมเบอร์วัน ดราฟท์" ปี 2012 ของอินเดียนาโปลิส โคลต์ส, เพย์ตัน แมนนิง จอมเก๋า เดนเวอร์ บรองโกส์ และทอม เบรดี ซูเปอร์สตาร์ นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ "ผมขอเป็น เรฟเวนส์ ตลอดไป นั่นเป็นสิ่งที่ผมคงได้เห็นมัน"
ด้าน จอห์น ฮาร์บอห์ ที่เอาชนะ จิม (เฮดโค้ชไนเนอร์ส) น้องชายซึ่งอายุห่างกันเพียง 15 เดือน ไม่ลืมให้เครดิต ลูอิส ที่ประกาศรีไทร์ด้วยแชมป์สมัยที่ 2 ในวัย 37 ปี "ซีรีส์สุดท้ายในอาชีพการเล่นของ เรย์ ลูอิส คือการยืนหยัดป้องกันบนโกลไลน์สแตนด์"
สำหรับ NFL มีการประกาศรางวัลต่างๆ ตอนจบฤดูกาล ปรากฏว่า เอเดรียน พีเทอร์สัน รันนิงแบ็ก มินเนโซตา ไวกิงส์ ได้โหวตเป็นผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) พร้อมผู้เล่นเกมรุกยอดเยี่ยมแห่งปี ส่วน แมนนิงผู้พี่ ได้รางวัลปลอบใจเป็นคัมแบ็ก ออฟ เดอะ เยียร์ ด้าน โรเบิร์ต กริฟฟิน เดอะ เธิร์ด จอมทัพ วอชิงตัน เรดสกินส์ ได้รุคกี้เกมบุกตามคาด ลุค คูอีสลี ไลน์แบ็กเกอร์ แคโรไลนา แพนเธอร์ส ซิวรุคกี้เกมรับ ขณะที่ เจ.เจ.วัตต์ ยอดดีเฟนด์ซีฟ เอนด์ ฮุสตัน เท็กแซนส์ คว้าตำแหน่งผู้เล่นเกมรับยอดเยี่ยม ปิดท้ายด้วยโค้ชแห่งปีเป็นของ บรุซ เอเดรียนส์ ซึ่งคุมบังเหียนโคลต์ส ชนะ 9 แพ้ 3 ช่วงที่ ชัค ปากาโน หัวหน้าโค้ชต้องลาทีมไปรักษามะเร็ง