xs
xsm
sm
md
lg

“กุน” ซัดแบ่งแต้ม เรือใบไล่เจ๊าหงส์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แมนเชสเตอร์ ซิตี ชวดโอกาสรักษาระยะห่างจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังเปิดบ้านไล่ตีเสมอ ลิเวอร์พูล ทั้งที่เป็นฝ่ายขึ้นนำก่อน 2-2 ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา ทำให้ถูกคู่ปรับร่วมเมือง ทิ้งห่าง 9 แต้ม

ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
แมนฯ ซิตี 2-2 ลิเวอร์พูล

เสียงนกหวีดดังขึ้นเพียง 1 นาที แมนเชสเตอร์ ซิตี ทักทายก่อน เมื่อ ดาบิด ซิลบา สับไกบริเวณหัวกะโหลกด้านซ้าย บอลกำลังจะเสียบใต้คาน ทว่า โฆเซ เรนา ลอยตัวปัดข้ามคาน จากนั้นทั้งสองฝ่ายพยายามเปิดเกมรุกสู้กัน แต่ก็ยังหาจังหวะเข้าทำไม่ได้จนถึงนาทีที่ 8 แมนฯ ซิตี ได้ลุ้นอีกครั้ง เมื่อเจมส์ มิลเนอร์ เปิดโด่งจากกราบซ้ายมาให้ ฆาบี การ์เซีย โขกไม่ตรงกรอบ

รูปเกมยังคงเป็น ซิตี ที่ครองบอลมากกว่า ขณะที่ ลิเวอร์พูล พยายามตั้งเกมบุก แต่ก็ถูกคู่แข่งเพรสซิงสูงจนต่อบอลไม่คืบจนถึงนาที 13 “หงส์แดง” ได้เสียว เมื่อ เกล็น จอห์นสัน วางยาวมาทางกราบซ้ายให้ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ แตะหนี โจ ฮาร์ท ทว่า แนวรับ แชมป์เก่า ตามมาบล็อกได้ทัน

นาที 20 ทีมเยือน มีลุ้นอีกครั้ง เมื่อ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ สปีดหนีคู่แข่งมาทางกราบซ้าย ก่อยหักย้อนมาให้ หลุยส์ ซัวเรซ แปไม่เต็มเท้า ถัดมา 1 นาที ดาวยิงอุรุกวัย ลองปั่นจากกรอบโทษด้านขวา แต่บอลไม่โค้งจึงหลุดเสาไกลออกหลัง นาที 23 กองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮ เมื่อ ดาบิด ซิลบา จ่ายทะลุช่องให้ เจมส์ มิลเนอร์ เปิดเรียดมาให้ เอดิน เซโก เข้าฮอสจ่อๆ ที่เสาแรกไม่พลาด

ต่อมา นาที 29 สาวก “เดอะ ค็อป” ฉลองบ้าง เมื่อ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ส่องไกลบริเวณหัวกะโหลกผ่านมือ โจ ฮาร์ท ซุกก้นตาข่าย พร้อมเสียงโห่ลั่นสนามในจังหวะก่อนหน้า เมื่อ แดเนียล แอ็กเกอร์ เข้าสกัด เอดิน เซโก ทางด้านหลัง แต่กรรมการไม่เป่าฟาวล์ และ ลิเวอร์พูล ไม่ยอมเตะทิ้ง หลัง ดาวยิงบอสเนียน นอนเจ็บอยู่ ช่วงเวลาที่เหลือต่างฝ่ายต่างเปิดหน้าแลก แต่ก็ยังไม่มีช็อตหวาดเสียว จนถึงนาที 44 รองจ่าฝูงพรีเมียร์ชิป หวิดเสียท่า เมื่อ ปาโบล ซาบาเลตา คืนหลังสวนทางกับ ฮาร์ท ที่ออกมารับบอลจนเกือบเข้าประตูตัวเอง ครบ 45 นาที ทั้งคู่เสมอกัน 1-1

ลุยต่อครึ่งหลัง “เดอะ ซิตีเซ็นส์” เดินเครื่องบุกช่วง 2 นาทีแรก แต่เมื่อ ทีมจากย่านเมอร์ซีย์ไซด์ ตั้งตัวได้รูปเกมก็กลับมาเหนือกว่า และเป็นฝ่ายกดดันอย่างต่อเนื่อง ทว่าการจบสกอร์ยังไม่เฉียบขาดพอ เข้าสู่นาที 57 ต่างฝ่ายต่างแลกหมัดกันอย่างสนุกขาดแต่เพียงโอกาสลุ้นประตูเท่านั้น จนถึงนาที 62 “เดอะ เรดส์” ได้เสียว เมื่อ สจวร์ต ดาวนิง เปิดไซด์ก้อยไปทางกรอบโทษด้านซ้ายให้ หลุยส์ ซัวเรซ ปั่นไซด์โป้งด้วยเท้าขวาหลุดเสาไกล

รูปเกมยังคงเปิดหน้าแลกกันเช่นเคย แต่ก็ยังไม่มีช็อตหวาดเสียวมากนัก เมื่อเข้าสู่นาที 67 กลับเป็น ทีมของ โรแบร์โต มันชินี ที่ครองเกมบุกกดดันคู่ต่อสู้มากกว่า แต่การผ่านบอลสุดท้ายยังไม่ถึงตัวจบสกอร์ ขณะที่ อาคันตุกะจากถิ่นแอนฟิลด์ ก็มีลุ้นจากเกมโต้กลับเร็ว แต่ก็ยังขาดความแม่นยำจนกระทั่งนาที 73 หงส์กระพือปีก เมื่อ กาแอล กลิชี สกัดลูกเปิดจากกราบซ้ายของ โฆเซ เอ็นริเก มาเข้าทาง สตีเวน เจอร์ราร์ด พักอกแล้ววอลเลย์สวนเสียบมุมอย่างสวยงาม

ต่อมา 5 นาที แฟนบอลในถิ่น เอติฮัด สเตเดียม ได้เฮ เมื่อ โฆเซ เรนา ตัดสินใจออกมาเล่นบอล แต่เข้าถึงช้ากว่า เซร์คิโอ อเกวโร ก่อน “เอล กุน” ตวัดยิงมุมแคบจากกราบขวาเสียบเสาไกลแบบหมดจด

รูปเกมยังคงเปิดแลกกันเช่นเคย โดยเป็นมหาเศรษฐีเมืองแมนเชสเตอร์ ที่ทำเกมได้น้ำได้เนื้อกว่า แต่เกือบเสียประตูนาที 89 เมื่อ สจวร์ต ดาวนิง พาบอลเข้ามาทางกรอบโทษด้านขวา แล้วจ่ายย้อนมาให้ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ยิงแบบฉีดยาบริเวณหัวกะโหลก โจ ฮาร์ท พุ่งปัดออกหลัง ช่วงเวลาที่เหลือ ทั้งสองฝ่ายยังคงผลัดกันรุกและรับ แต่ก็ไม่มีฝ่ายใดบวกสกอร์เพิ่มได้ ครบ 90 นาที ทั้งคู่เสมอกัน 2-2

รายชื่อ 11 ตัวจริง
แมนฯ ซิตี : โจ ฮาร์ท , ปาโบล ซาบาเลตา , โจลีออน เลสคอตต์ , ฆาบี การ์เซีย , กาแอล กลิชี , เจมส์ มิลเนอร์ , เอดิน เซโก , แกเร็ธ แบร์รี , มาติยา นาสตาซิช , เซร์คิโอ อเกวโร , ดาบิด ซิลบา
ลิเวอร์พูล : โฆเซ เรนา , เกล็น จอห์นสัน , โฆเซ เอ็นริเก , ลูคัส เลวา , เจมี คาร์ราเกอร์ , แดเนียล แอ็กเกอร์ , สตีเวน เจอร์ราร์ด , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , หลุยส์ ซัวเรซ , แดเรียล สเตอร์ริดจ์ , สจวร์ต ดาวนิง
เซโก ยิงเบิกร่อง
สเตอร์ริดจ์ ยิงทีมเก่า
ช็อตปัญหาก่อนตีเสมอ
สตีวีจี กางปีกฉลองประตู
กำลังโหลดความคิดเห็น