โรบิน ฟาน เพอร์ซี และ เนมันยา วิดิช สองผู้เล่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ช่วยกันทำคนละ 1 ประตู ช่วยทีมเปิดบ้านพิชิต ลิเวอร์พูล ซึ่งตีไข่แตกจาก แดนเนียล สเตอร์ริดจ์ ดาวยิงคนใหม่ แบบสุดมัน 2-1 ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา
ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 ลิเวอร์พูล
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือประสบการณ์สูงของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่มี เวย์น รูนีย์ กองหน้าตัวเก่งลงสนาม ทำให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ยืนเป็นหอกเดี่ยว ประสานงานกับ ชินจิ คากาวะ เพลย์เมกเกอร์ชาวญี่ปุ่น ขณะที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล นำทัพโดย สตีเวน เจอร์ราร์ด และ หลุยส์ ซัวเรซ พร้อมใส่ชื่อ ฟาบิโอ บอรินี กองหน้าที่เพิ่งหายเจ็บ บนม้านั่งสำรอง เช่นเดียวกับ แดเนียล สเตอร์ริดจ์
เสียงนกหวีดดังขึ้น ทั้งสองฝ่ายพยายามตั้งเกมบุก เมื่อผ่าน 5 นาทีแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มพาบอลมาป้วนเปี้ยนในพื้นที่อันตรายมากกว่า แต่ยังหาจังหวะจบไม่ได้ ขณะที่ ลิเวอร์พูล ยังไม่มีโอกาสเงื้อเท้ายิง
นาที 19 สาวก ยูไนเต็ด ได้เฮ เมื่อ แดนนี เวลเบ็ค จ่ายบอลสั้นๆ ให้ ทอม เคลเวอร์ลีย์ แทงต่อให้ ปาทริซ เอฟรา ทางกราบซ้าย แล้วเปิดเรียดมาถึงระยะจุดโทษให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ซัดตุงตาข่าย หลังขึ้นนำรูปเกม “ปิศาจแดง” เหนือกว่า และมีลุ้นประตูเพิ่มในนาที 26 เมื่อ แอชลีย์ ยัง ผ่านทะลุช่องให้ ฟาน เพอร์ซี แปเน้นๆ ข้ามคาน
นาที 32 แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบได้ลูก 2 เมื่อ โจ อัลเลน จ่ายบอลคืนหลังมาเข้าทาง แดนนี เวลเบ็ค แต่ แดเนียล แอ็กเกอร์ ยังตามมาบล็อกลูกยิงทันท่วงที จากนั้น 12 นาที จ่าฝูงพรีเมียร์ ลีกชวดโอกาสทอง เมื่อ ไมเคิล คาร์ริค วางยาวมาให้ ราฟาเอล ทางกราบขวา แต่กลับเสียหลัก ก่อนผ่านเรียดมาให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ไขว้ แต่ มาร์ติน สเคอร์เทล สกัดไว้ได้ ขณะที่ ชินจิ คากาวะ พยายามเข้าซ้ำ แต่ โฆเซ เรนา ช่วยเคลียร์พ้นปากประตู ช่วงเวลาที่เหลือ “หงส์แดง” พยายามตอบโต้ แต่รูปเกมไม่ปะติดปะต่อ ครบ 45 นาที เจ้าถิ่น นำ 1-0
ลุยต่อครึ่งหลัง ทั้งสองฝ่ายเปิดเกมบุกแลกกัน แต่เมื่อผ่าน 5 นาที รูปเกม ทีมของเบรนแดน ร็อดเจอร์ส เริ่มกระเตื้อง แต่กลับมาเสียลูก 2 ในนาที 54 เมื่อ โรบิน ฟาน เพอร์ซี เปิดฟรีคิกจากหน้ากรอบโทษด้านซ้ายมาทางเสาสองให้ ปาทริซ เอฟรา ทะยานขึ้นโขกกดลงพื้นแฉลบหัวไหล่ เนมันยา วิดิช ตุงตาข่าย
ต่อมา 3 นาที กองเชียร์ “เดอะ ค็อป” เริ่มมีความหวัง เมื่อ สตีเวน เจอร์ราร์ด สับไกจากหัวกะโหลกด้านขวา ดาบิด เด เคอา ล้มตัวปัดมาเข้าทาง แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ตามซ้ำไม่มีเหลือ จากนั้น ทีมอันดับ 8 ของตาราง ครองบอลบุกต่อเนื่อง แต่ยังขาดทีเด็ดในการเข้าทำ ขณะที่ แชมป์ลีกสูงสุด 19 สมัย รอสวนกลับ
นาที 63 สาวก “เรด เดวิลส์” เกือบหนีห่างอีกครั้ง เมื่อ แดนนี เวลเบ็ค พาบอลเข้ามาถึงหน้ากรอบ 18 หลา แต่จ่ายติด แดเนียล แอ็กเกอร์ บอลมาเข้าทาง ชินจิ คากาวะ แปไซด์โป้ง แต่ โฆเซ เรนา ปัดออกหลัง ต่อมาคู่อริร่วมเกาะอังกฤษเปิดหน้าแลก แต่ก็ยังไม่มีจังหวะปิดสกอร์แบบจะแจ้ง
เข้าสู่ 20 นาทีสุดท้าย “เครื่องจักรสีแดง” ทำงานเต็มสูบ ขณะที่ ทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ออกอาการป้อแป้เล็กน้อย แต่ก็ทำเกมรุกตอบโต้มาจนถึงบริเวณกรอบโทษ ทว่า ทั้งสองฝ่ายก็ยังไม่มีโอกาสลุ้นประตูเพิ่ม จนถึงนาที 85 อาคันตุกะจากแอนฟิลด์ ชวดตีเสมอ เมื่อ หลุยส์ ซัวเรซ ตะลุยเข้ามาถึงกรอบ 18 หลาแบบทุลักทุเล บอลมาเข้าทาง ฟาบิโอ บอรินี ไหลให้ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ แปเน้นๆ โด่งข้ามคาน
ช่วงเวลาที่เหลือ ทีมจากย่านเมอร์ซีย์ไซด์ กดดันหนัก แต่ก็ไม่มีจังหวะซัลโวแบบจะแจ้ง ขณะที่ หวิดฝังคู่ปรับตลอดกาล ในนาที 91 เมื่อ แดนนี เวลเบ็ค เปิดเรียดจากกราบขวามาทางเสาแรกให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ไขว้ด้วยเท้าขวา แต่ เรนา ยังล้มตัวรับอยู่หมัด ครบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะ 2-1
รายชื่อ 11 ตัวจริง
แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา , ราฟาเอล , ปาทริซ เอฟรา , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , เนมันยา วิดิช , ไมเคิล คาร์ริค , แอชลีย์ ยัง , แดนนี เวลเบ็ค , ทอม เคลเวอร์ลีย์ , โรบิน ฟาน เพอร์ซี , ชินจิ คากาวะ
ลิเวอร์พูล : โฆเซ เรนา , เกล็น จอห์นสัน , ดาเนียล แอ็กเกอร์ , มาร์ติน สเคอร์เทล , อังเดร วิสดอม , สจวร์ต ดาวนิง , ลูคัส เลวา , โจ อัลเลน , ราฮีม สเตอร์ลิง , หลุยส์ ซัวเรซ , สตีเวน เจอร์ราร์ด
ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 ลิเวอร์พูล
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือประสบการณ์สูงของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่มี เวย์น รูนีย์ กองหน้าตัวเก่งลงสนาม ทำให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ยืนเป็นหอกเดี่ยว ประสานงานกับ ชินจิ คากาวะ เพลย์เมกเกอร์ชาวญี่ปุ่น ขณะที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล นำทัพโดย สตีเวน เจอร์ราร์ด และ หลุยส์ ซัวเรซ พร้อมใส่ชื่อ ฟาบิโอ บอรินี กองหน้าที่เพิ่งหายเจ็บ บนม้านั่งสำรอง เช่นเดียวกับ แดเนียล สเตอร์ริดจ์
เสียงนกหวีดดังขึ้น ทั้งสองฝ่ายพยายามตั้งเกมบุก เมื่อผ่าน 5 นาทีแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มพาบอลมาป้วนเปี้ยนในพื้นที่อันตรายมากกว่า แต่ยังหาจังหวะจบไม่ได้ ขณะที่ ลิเวอร์พูล ยังไม่มีโอกาสเงื้อเท้ายิง
นาที 19 สาวก ยูไนเต็ด ได้เฮ เมื่อ แดนนี เวลเบ็ค จ่ายบอลสั้นๆ ให้ ทอม เคลเวอร์ลีย์ แทงต่อให้ ปาทริซ เอฟรา ทางกราบซ้าย แล้วเปิดเรียดมาถึงระยะจุดโทษให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ซัดตุงตาข่าย หลังขึ้นนำรูปเกม “ปิศาจแดง” เหนือกว่า และมีลุ้นประตูเพิ่มในนาที 26 เมื่อ แอชลีย์ ยัง ผ่านทะลุช่องให้ ฟาน เพอร์ซี แปเน้นๆ ข้ามคาน
นาที 32 แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบได้ลูก 2 เมื่อ โจ อัลเลน จ่ายบอลคืนหลังมาเข้าทาง แดนนี เวลเบ็ค แต่ แดเนียล แอ็กเกอร์ ยังตามมาบล็อกลูกยิงทันท่วงที จากนั้น 12 นาที จ่าฝูงพรีเมียร์ ลีกชวดโอกาสทอง เมื่อ ไมเคิล คาร์ริค วางยาวมาให้ ราฟาเอล ทางกราบขวา แต่กลับเสียหลัก ก่อนผ่านเรียดมาให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ไขว้ แต่ มาร์ติน สเคอร์เทล สกัดไว้ได้ ขณะที่ ชินจิ คากาวะ พยายามเข้าซ้ำ แต่ โฆเซ เรนา ช่วยเคลียร์พ้นปากประตู ช่วงเวลาที่เหลือ “หงส์แดง” พยายามตอบโต้ แต่รูปเกมไม่ปะติดปะต่อ ครบ 45 นาที เจ้าถิ่น นำ 1-0
ลุยต่อครึ่งหลัง ทั้งสองฝ่ายเปิดเกมบุกแลกกัน แต่เมื่อผ่าน 5 นาที รูปเกม ทีมของเบรนแดน ร็อดเจอร์ส เริ่มกระเตื้อง แต่กลับมาเสียลูก 2 ในนาที 54 เมื่อ โรบิน ฟาน เพอร์ซี เปิดฟรีคิกจากหน้ากรอบโทษด้านซ้ายมาทางเสาสองให้ ปาทริซ เอฟรา ทะยานขึ้นโขกกดลงพื้นแฉลบหัวไหล่ เนมันยา วิดิช ตุงตาข่าย
ต่อมา 3 นาที กองเชียร์ “เดอะ ค็อป” เริ่มมีความหวัง เมื่อ สตีเวน เจอร์ราร์ด สับไกจากหัวกะโหลกด้านขวา ดาบิด เด เคอา ล้มตัวปัดมาเข้าทาง แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ตามซ้ำไม่มีเหลือ จากนั้น ทีมอันดับ 8 ของตาราง ครองบอลบุกต่อเนื่อง แต่ยังขาดทีเด็ดในการเข้าทำ ขณะที่ แชมป์ลีกสูงสุด 19 สมัย รอสวนกลับ
นาที 63 สาวก “เรด เดวิลส์” เกือบหนีห่างอีกครั้ง เมื่อ แดนนี เวลเบ็ค พาบอลเข้ามาถึงหน้ากรอบ 18 หลา แต่จ่ายติด แดเนียล แอ็กเกอร์ บอลมาเข้าทาง ชินจิ คากาวะ แปไซด์โป้ง แต่ โฆเซ เรนา ปัดออกหลัง ต่อมาคู่อริร่วมเกาะอังกฤษเปิดหน้าแลก แต่ก็ยังไม่มีจังหวะปิดสกอร์แบบจะแจ้ง
เข้าสู่ 20 นาทีสุดท้าย “เครื่องจักรสีแดง” ทำงานเต็มสูบ ขณะที่ ทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ออกอาการป้อแป้เล็กน้อย แต่ก็ทำเกมรุกตอบโต้มาจนถึงบริเวณกรอบโทษ ทว่า ทั้งสองฝ่ายก็ยังไม่มีโอกาสลุ้นประตูเพิ่ม จนถึงนาที 85 อาคันตุกะจากแอนฟิลด์ ชวดตีเสมอ เมื่อ หลุยส์ ซัวเรซ ตะลุยเข้ามาถึงกรอบ 18 หลาแบบทุลักทุเล บอลมาเข้าทาง ฟาบิโอ บอรินี ไหลให้ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ แปเน้นๆ โด่งข้ามคาน
ช่วงเวลาที่เหลือ ทีมจากย่านเมอร์ซีย์ไซด์ กดดันหนัก แต่ก็ไม่มีจังหวะซัลโวแบบจะแจ้ง ขณะที่ หวิดฝังคู่ปรับตลอดกาล ในนาที 91 เมื่อ แดนนี เวลเบ็ค เปิดเรียดจากกราบขวามาทางเสาแรกให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ไขว้ด้วยเท้าขวา แต่ เรนา ยังล้มตัวรับอยู่หมัด ครบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะ 2-1
รายชื่อ 11 ตัวจริง
แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา , ราฟาเอล , ปาทริซ เอฟรา , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , เนมันยา วิดิช , ไมเคิล คาร์ริค , แอชลีย์ ยัง , แดนนี เวลเบ็ค , ทอม เคลเวอร์ลีย์ , โรบิน ฟาน เพอร์ซี , ชินจิ คากาวะ
ลิเวอร์พูล : โฆเซ เรนา , เกล็น จอห์นสัน , ดาเนียล แอ็กเกอร์ , มาร์ติน สเคอร์เทล , อังเดร วิสดอม , สจวร์ต ดาวนิง , ลูคัส เลวา , โจ อัลเลน , ราฮีม สเตอร์ลิง , หลุยส์ ซัวเรซ , สตีเวน เจอร์ราร์ด