หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงตัวเก่งของ ลิเวอร์พูล ซัลโว 2 ประตู หลังจาก ราฮีม สเตอร์ลิง ซัดเบิกร่องช่วง 20 นาทีแรก พาทีมเปิดบ้านพิชิต ซันเดอร์แลนด์ 3-0 ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันพุธที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา
ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 3-0 ซันเดอร์แลนด์
ลิเวอร์พูล ซึ่งได้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมหายจากอาการป่วยกลับมาสั่งการข้างสนาม ส่ง อังเดร วิสดอม ปราการหลังดาวรุ่ง ลงประจำการแบ็กขวา พร้อมโยก เกล็น จอห์นสัน มายืนแบ็กซ้ายแทน โฆเซ เอ็นริเก ที่มีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อแฮมสตริง ขณะที่แนวรุกยังคงมี หลุยส์ ซัวเรซ ล่าตาข่าย และ สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีมบัญชาเกมแดนกลาง ขณะที่ ราฮีม สเตอร์ลิง กับ สจวร์ต ดาวนิง ลากเลื้อยริมเส้น ด้าน ซันเดอร์แลนด์ ขาด จอน โอเชีย กองหลังสารพัดประโยชน์ แต่ยังมี สตีเวน เฟลตเชอร์ ดาวยิงตัวเก่ง ยืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า
เสียงนกหวีดดังขึ้น ลิเวอร์พูล ครองบอลมากกว่า ขณะที่ ซันเดอร์แลนด์ รอจังหวะโต้กลับ และอาศัยการเล่นลูกเซตพีซ กดดันแนวรับเจ้าถิ่น แต่ก็ยังไม่มีโอกาสลุ้นประตูแบบจะแจ้งตลอด 5 นาทีแรก จากนั้นรูปเกม “หงส์แดง” เริ่มเหนือกว่าเล็กน้อย ทว่าการเข้าทำไม่เฉียบขาดพอ ขณะที่ทีมเยือน ยังทำเกมบุกไม่ขึ้น
การแข่งขันมาถึงนาที 19 สาวก “เดอะ ค็อป” ได้เฮ เมื่อ สตีเวน เจอร์ราร์ด โหม่งบอลให้ หลุยส์ ซัวเรซ พักอกหนึ่งจังหวะ ก่อนกระดกบอลจากกลางสนามให้ ราฮีม สเตอร์ลิง หลุดเดี่ยวมาทางกรอบโทษด้านขวา แล้วเดาะข้ามหัว ซิมง มิโยเลต์ ตุงตาข่าย ต่อมา 3 นาที “แมวดำ” หวิดตีเสมอ เมื่อ เจมส์ แม็คคลีน ได้จังหวะสับไกทางกรอบโทษด้านซ้าย แต่บอลหลุดเสาไกลอย่างน่าเสียดาย
ทีมของ มาร์ติน โอนีล ทำเกมรุกถึงพื้นที่อันตรายของทีมจากย่านเมอร์ซีย์ไซด์ มากขึ้น แต่กลับเสียลูกสองนาที 26 เมื่อ สตีเวน เจอร์ราร์ด จ่ายบอลจากกลางสนามให้ หลุยส์ ซัวเรซ แม้จะถูกกระแทกโดย คาร์ลอส คูเอลยาร์ แต่ ศูนย์หน้าชาวอุรุกวัย ไม่ยอมล้ม ทำให้หลุดเดี่ยวมาทางกรอบโทษด้านขวา ก่อนซัดมุมแคบผ่าน ซิมง มิโยเลต์ ไม่มีเหลือ
ต่อมา 9 นาที “แมวดำ” ชวดตีไข่แตก เมื่อ อดัม จอห์นสัน เก็บตกจังหวะยิงฟรีคิกติดกำแพงของ เซบาสเตียน ลาร์สสัน ก่อนจ่าย ให้ เจมส์ แม็คคลีน ยิงจากกรอบโทษด้านซ้ายติดเซฟ โฆเซ เรนา จากนั้น สตีเวน เฟลตเชอร์ ตามซ้ำ แต่นายทวารชาวสเปน ปัดออกหลัง
ช่วงเวลาที่เหลือ ทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กลับมาเป็นฝ่ายทำเกมรุกอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ อาคันตุกะจาก สเตเดียม ออฟ ไลท์ ออกอาการแผ่วลงไปเล็กน้อย แต่ก็ทำอะไรเพิ่มไม่ได้ ครบ 45 นาที ลิเวอร์พูล นำ 2-0
ลุยต่อครึ่งหลัง “เครื่องจักรสีแดง” ทำงานต่อเนื่อง แต่จังหวะสุดท้ายไม่เด็ดขาดพอ ขณะที่ “เดอะ แบล็ค แค็ทส์” ต่อเกมไม่ติด และมักเสียบอลบริเวณกลางสนาม จึงไม่มีลุ้นตีตื้น จนถึงนาที 52 หงส์โขยกหนี 3-0 เมื่อ สตีเวน เจอร์ราร์ด ทิ้งบอลยาวมาให้ หลุยส์ ซัวเรซ แต่งบอลลงพื้น ก่อนยิงผ่าน มิโยเลต์ อย่างง่ายดาย
จากนั้น “เรด แมชีน” ครองเกมเหนือกว่า และเกือบจะได้ประตูที่ 4 หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ทำไม่สำเร็จ ขณะที่เกมรุกของ ทีมอันดับ 14 ของตาราง ไม่ได้สร้างความหนักใจแก่แนวรับเจ้าบ้าน เท่าไรนัก จนถึงนาที 74 กองเชียร์ในถิ่นแอนฟิลด์ ต้องเฮเก้อ เมื่อ เกล็น จอห์นสัน ผ่านบอลให้ ซูโซ ส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่าย ทว่าผู้กำกับเส้นยกธง ชี้ว่า ฟูลแบ็กทีมชาติอังกฤษ ล้ำหน้า
ช่วงเวลาที่เหลือ อดีตแชมป์ลีกสูงสุด 18 สมัย สร้างโอกาสจบสกอร์ชัดเจนกว่า แต่ก็ยิงเพิ่มไม่ได้ ครบ 90 นาที ลิเวอร์พูล ชนะขาด 3-0
รายชื่อ 11 ตัวจริง
ลิเวอร์พูล : โฆเซ เรนา , เกล็น จอห์นสัน , แดเนียล แอ็กเกอร์ , มาร์ติน สเคอร์เทล , อังเดร วิสดอม , สตีเวน เจอร์ราร์ด , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , ลูคัส เลวา , หลุยส์ ซัวเรซ , สจวร์ต ดาวนิง , ราฮีม สเตอร์ลิง
ซันเดอร์แลนด์ : ซิมง มิโยเลต์ , แดนนี โรส , เคร็ก การ์ดเนอร์ , แม็ทธิว คิลกัลลอน , คาร์ลอส คูเอลยาร์ , เซบาสเตียน ลาร์สสัน , แจ็ค โคลแบ็ก , อดัม จอห์นสัน , เจมส์ แม็คคลีน , สตีเวน เฟลตเชอร์ , สเตฟาน แซสซิยอง
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ประจำวันพุธที่ 2 มกราคม
เชลซี 0-1 ควีนสปาร์กฯ
[0-1 ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ น.77]
นิวคาสเซิล 1-2 เอฟเวอร์ตัน
[1-0 ปาปิสส์ เดมบา ซิสเซ น.2 , 1-1 เลห์ตัน เบนส์ น.43 , 1-2 วิคเตอร์ อนิเชบี น.60]
ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 3-0 ซันเดอร์แลนด์
ลิเวอร์พูล ซึ่งได้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมหายจากอาการป่วยกลับมาสั่งการข้างสนาม ส่ง อังเดร วิสดอม ปราการหลังดาวรุ่ง ลงประจำการแบ็กขวา พร้อมโยก เกล็น จอห์นสัน มายืนแบ็กซ้ายแทน โฆเซ เอ็นริเก ที่มีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อแฮมสตริง ขณะที่แนวรุกยังคงมี หลุยส์ ซัวเรซ ล่าตาข่าย และ สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีมบัญชาเกมแดนกลาง ขณะที่ ราฮีม สเตอร์ลิง กับ สจวร์ต ดาวนิง ลากเลื้อยริมเส้น ด้าน ซันเดอร์แลนด์ ขาด จอน โอเชีย กองหลังสารพัดประโยชน์ แต่ยังมี สตีเวน เฟลตเชอร์ ดาวยิงตัวเก่ง ยืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า
เสียงนกหวีดดังขึ้น ลิเวอร์พูล ครองบอลมากกว่า ขณะที่ ซันเดอร์แลนด์ รอจังหวะโต้กลับ และอาศัยการเล่นลูกเซตพีซ กดดันแนวรับเจ้าถิ่น แต่ก็ยังไม่มีโอกาสลุ้นประตูแบบจะแจ้งตลอด 5 นาทีแรก จากนั้นรูปเกม “หงส์แดง” เริ่มเหนือกว่าเล็กน้อย ทว่าการเข้าทำไม่เฉียบขาดพอ ขณะที่ทีมเยือน ยังทำเกมบุกไม่ขึ้น
การแข่งขันมาถึงนาที 19 สาวก “เดอะ ค็อป” ได้เฮ เมื่อ สตีเวน เจอร์ราร์ด โหม่งบอลให้ หลุยส์ ซัวเรซ พักอกหนึ่งจังหวะ ก่อนกระดกบอลจากกลางสนามให้ ราฮีม สเตอร์ลิง หลุดเดี่ยวมาทางกรอบโทษด้านขวา แล้วเดาะข้ามหัว ซิมง มิโยเลต์ ตุงตาข่าย ต่อมา 3 นาที “แมวดำ” หวิดตีเสมอ เมื่อ เจมส์ แม็คคลีน ได้จังหวะสับไกทางกรอบโทษด้านซ้าย แต่บอลหลุดเสาไกลอย่างน่าเสียดาย
ทีมของ มาร์ติน โอนีล ทำเกมรุกถึงพื้นที่อันตรายของทีมจากย่านเมอร์ซีย์ไซด์ มากขึ้น แต่กลับเสียลูกสองนาที 26 เมื่อ สตีเวน เจอร์ราร์ด จ่ายบอลจากกลางสนามให้ หลุยส์ ซัวเรซ แม้จะถูกกระแทกโดย คาร์ลอส คูเอลยาร์ แต่ ศูนย์หน้าชาวอุรุกวัย ไม่ยอมล้ม ทำให้หลุดเดี่ยวมาทางกรอบโทษด้านขวา ก่อนซัดมุมแคบผ่าน ซิมง มิโยเลต์ ไม่มีเหลือ
ต่อมา 9 นาที “แมวดำ” ชวดตีไข่แตก เมื่อ อดัม จอห์นสัน เก็บตกจังหวะยิงฟรีคิกติดกำแพงของ เซบาสเตียน ลาร์สสัน ก่อนจ่าย ให้ เจมส์ แม็คคลีน ยิงจากกรอบโทษด้านซ้ายติดเซฟ โฆเซ เรนา จากนั้น สตีเวน เฟลตเชอร์ ตามซ้ำ แต่นายทวารชาวสเปน ปัดออกหลัง
ช่วงเวลาที่เหลือ ทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กลับมาเป็นฝ่ายทำเกมรุกอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ อาคันตุกะจาก สเตเดียม ออฟ ไลท์ ออกอาการแผ่วลงไปเล็กน้อย แต่ก็ทำอะไรเพิ่มไม่ได้ ครบ 45 นาที ลิเวอร์พูล นำ 2-0
ลุยต่อครึ่งหลัง “เครื่องจักรสีแดง” ทำงานต่อเนื่อง แต่จังหวะสุดท้ายไม่เด็ดขาดพอ ขณะที่ “เดอะ แบล็ค แค็ทส์” ต่อเกมไม่ติด และมักเสียบอลบริเวณกลางสนาม จึงไม่มีลุ้นตีตื้น จนถึงนาที 52 หงส์โขยกหนี 3-0 เมื่อ สตีเวน เจอร์ราร์ด ทิ้งบอลยาวมาให้ หลุยส์ ซัวเรซ แต่งบอลลงพื้น ก่อนยิงผ่าน มิโยเลต์ อย่างง่ายดาย
จากนั้น “เรด แมชีน” ครองเกมเหนือกว่า และเกือบจะได้ประตูที่ 4 หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ทำไม่สำเร็จ ขณะที่เกมรุกของ ทีมอันดับ 14 ของตาราง ไม่ได้สร้างความหนักใจแก่แนวรับเจ้าบ้าน เท่าไรนัก จนถึงนาที 74 กองเชียร์ในถิ่นแอนฟิลด์ ต้องเฮเก้อ เมื่อ เกล็น จอห์นสัน ผ่านบอลให้ ซูโซ ส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่าย ทว่าผู้กำกับเส้นยกธง ชี้ว่า ฟูลแบ็กทีมชาติอังกฤษ ล้ำหน้า
ช่วงเวลาที่เหลือ อดีตแชมป์ลีกสูงสุด 18 สมัย สร้างโอกาสจบสกอร์ชัดเจนกว่า แต่ก็ยิงเพิ่มไม่ได้ ครบ 90 นาที ลิเวอร์พูล ชนะขาด 3-0
รายชื่อ 11 ตัวจริง
ลิเวอร์พูล : โฆเซ เรนา , เกล็น จอห์นสัน , แดเนียล แอ็กเกอร์ , มาร์ติน สเคอร์เทล , อังเดร วิสดอม , สตีเวน เจอร์ราร์ด , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , ลูคัส เลวา , หลุยส์ ซัวเรซ , สจวร์ต ดาวนิง , ราฮีม สเตอร์ลิง
ซันเดอร์แลนด์ : ซิมง มิโยเลต์ , แดนนี โรส , เคร็ก การ์ดเนอร์ , แม็ทธิว คิลกัลลอน , คาร์ลอส คูเอลยาร์ , เซบาสเตียน ลาร์สสัน , แจ็ค โคลแบ็ก , อดัม จอห์นสัน , เจมส์ แม็คคลีน , สตีเวน เฟลตเชอร์ , สเตฟาน แซสซิยอง
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ประจำวันพุธที่ 2 มกราคม
เชลซี 0-1 ควีนสปาร์กฯ
[0-1 ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ น.77]
นิวคาสเซิล 1-2 เอฟเวอร์ตัน
[1-0 ปาปิสส์ เดมบา ซิสเซ น.2 , 1-1 เลห์ตัน เบนส์ น.43 , 1-2 วิคเตอร์ อนิเชบี น.60]
