เจมส์ คอลลินส์ ปราการหลังของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด สกัดบอลเข้าประตูตัวเองช่วงท้ายเกม ทำให้ ลิเวอร์พูล พลิกแซงเข้าป้ายด้วยสกอร์ 3-2 ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ณ สนามอัพตั เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา
ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เวสต์แฮม 2-3 ลิเวอร์พูล
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ต้องเจอปัญหาใหญ่ เมื่อขาด หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงตัวความหวัง เนื่องจากติดโทษแบน จึงต้องดัน จอนโจ เชลวีย์ มิดฟิลด์ดาวรุ่ง รับบทศูนย์หน้าขัดตาทัพ พร้อมส่ง ลูคัส เลวา กองกลางบราซิลเลียน ที่เพิ่งหายเจ็บลงสนามเป็นตัวจริง ขณะที่ เวสต์แฮม ส่ง คาร์ลตัน โคล ลงล่าตาข่ายแทน แอนดี คาร์โรลล์ ที่ลงสนามไม่ได้
เสียงนกหวีดดังขึ้น ลิเวอร์พูล เปิดฉากลุยตั้งแต่นาทีแรก แต่หวิดตกเป็นรองหลังผ่าน 7 นาที เมื่อ โมฮาเหม็ด ดิยาเม สับไกบริเวณหัวกะโหลก บอลแฉลบ หลุดกรอบแบบมีเสียว เนื่องจาก โฆเซ เรนา หลงทางไปแล้ว ต่อมา 4 นาที สาวก "เดอะ ค็อป" ได้เฮ เมื่อ สตีเวน เจอร์ราร์ด จ่ายออกทางด้านขวาให้ เกล็น จอห์นสัน ลากตัดเข้าใน ก่อนตะบันบริเวณหัวกะโหลกด้านขวา เสียบสามเหลี่ยมเสาไกลอย่างสวยงาม
นาที 14 "หงส์แดง" หวิดทิ้งห่าง เมื่อ เกล็น จอห์นสัน ผ่านเรียดจากกรอบโทษด้านขวาให้ ราฮีม สเตอร์ลิง กดเต็มหลังเท้าจากระยะจุดโทษเฉี่ยวเสาแรก จากนั้น เวสต์แฮม เริ่มเป็นฝ่ายครองเกมบุก แต่ก็ยังหาจังหวะปิดสกอร์ไม่ได้ ขณะที่ ทีมเยือน รอสวนกลับ จนกระทั่งนาที 36 เจ้าถิ่น ได้จุดโทษ เมื่อ โมฮาเหม็ด ดิยาเม วอลเลย์เต็มเท้าติดแขน โจ อัลเลน ก่อน มาร์ค โนเบิล รับหน้าที่สังหารไม่พลาด
ต่อมาทั้งสองทีมพยายามเปิดหน้าแลก แต่ยังไม่มีจังหวะหวาดเสียวมากนักจนกระทั่งนาที 43 "ขุนค้อน" พลิกแซง 2-1 เมื่อ แม็ทธิว จาร์วิส เปิดโด่งจากกราบซ้าย สตีเวน เจอร์ราร์ด โขกสกัดผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเอง ช่วงเวลาที่เหลือ อาคันตุกะย่าน เมอร์ซีย์ไซด์ โหมบุกหนัก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว
ลุยต่อครึ่งหลัง เจ้าถิ่น ครองเกมเหนือกว่า และทำเกมรุกกดดันอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ ลูกทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ไม่มีตัวพักบอลในแดนหน้า จึงมักทำเสียเมื่อบุกมาถึงหน้ากรอบโทษคู่ต่อสู้ ทำให้ไม่มีจัหวะหวาดเสียวมากนัก จนกระทั่งนาที 67 ทีมอันดับ 11 ของตาราง ชวดโอกาสทอง เมื่อ สจวร์ต ดาวนิง เปิดเรียดจากกราบซ้าย โค โคล ปล่อยบอลลอดขามาถึง ราฮีม สเตอร์ลิง ทางหน้ากรอบโทษด้านขวา ก่อนซัดติดเซฟ จุสซี จัสเคไลเนน
ถัดมา 3 นาที "เครื่องจักรสีแดง" ทำงานต่อเนื่อง เมื่อ สจวร์ต ดาวนิง เปิดบอลจากกราบซ้ายมาให้ จอนโจ เชลวีย์ โหม่งหลุดกรอบ อย่างไรก็ตามความพยายามของ ทีมจากถิ่นแอนฟิลด์ ก็มาสัมฤทธิ์ผลในนาที 75 เมื่อ ราฮีม สเตอร์ลิง จ่ายทะลุช่องให้ โจ โคล หลุดมาทางกรอบโทษด้านซ้าย ก่อนยิงเสียบโคนเสาสอง จากนั้น 4 นาที หงส์ พลิกนำ 3-2 เมื่อ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เปิดบอลจากกราบขวามาให้ จอนโจ เชลวีย์ สะกิดบอลด้วยปลายเท้า แฉลบ เจมส์ คอลลินส์ ลอยข้ามศีรษะ จุสซี จัสเคไลเนน เข้าเสาไกล
ช่วง 5 นาทีสุดท้าย อดีตแชมป์ลีกสูงสุด 18 สมัย เน้นตั้งรับเพื่อปิดเกม ขณะที่ "เดอะ แฮมเมอร์ส" อาศัยการบอมบ์ยาวเข้ามาในกรอบโทษ คอยป่วนแนวรับคู่แข่ง แต่หวิดจะถูกทิ้งห่าง ในนาทีสุดท้ายเมื่อ จอนโจ เชลวีย์ พาบอลลุยเข้าไปในกรอบโทษ ก่อนถูกสกัดล้มลง แต่ผู้ตัดสินไม่ให้จุดโทษ ครบ 90 นาที ลิเวอร์พูล ชนะหวิว 3-2
รายชื่อ 11 ตัวจริง
เวสต์แฮมฯ : จุสซี จัสเคไลเนน , วินสตัน รีด , โจอี โอไบรอัน , เจมส์ คอลลินส์ , กีย์ เดเมล , แม็ทธิว จาร์วิส , แม็ทธิว เทย์เลอร์ , มาร์ค โนเบิล , โมฮาเหม็ด ดิยาเม , เควิน โนแลน , คาร์ลตัน โคล
ลิเวอร์พูล : โฆเซ เรนา , เกล็น จอห์นสัน , มาร์ติน สเคอร์เทล , แดเนียล แอ็กเกอร์ , โฆเซ เอ็นริเก , ลูคัส เลวา , โจ อัลเลน , สตีเวน เจอร์ราร์ด , สจวร์ต ดาวนิง , ราฮีม สเตอร์ลิง , จอนโจ เชลวีย์
ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เวสต์แฮม 2-3 ลิเวอร์พูล
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ต้องเจอปัญหาใหญ่ เมื่อขาด หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงตัวความหวัง เนื่องจากติดโทษแบน จึงต้องดัน จอนโจ เชลวีย์ มิดฟิลด์ดาวรุ่ง รับบทศูนย์หน้าขัดตาทัพ พร้อมส่ง ลูคัส เลวา กองกลางบราซิลเลียน ที่เพิ่งหายเจ็บลงสนามเป็นตัวจริง ขณะที่ เวสต์แฮม ส่ง คาร์ลตัน โคล ลงล่าตาข่ายแทน แอนดี คาร์โรลล์ ที่ลงสนามไม่ได้
เสียงนกหวีดดังขึ้น ลิเวอร์พูล เปิดฉากลุยตั้งแต่นาทีแรก แต่หวิดตกเป็นรองหลังผ่าน 7 นาที เมื่อ โมฮาเหม็ด ดิยาเม สับไกบริเวณหัวกะโหลก บอลแฉลบ หลุดกรอบแบบมีเสียว เนื่องจาก โฆเซ เรนา หลงทางไปแล้ว ต่อมา 4 นาที สาวก "เดอะ ค็อป" ได้เฮ เมื่อ สตีเวน เจอร์ราร์ด จ่ายออกทางด้านขวาให้ เกล็น จอห์นสัน ลากตัดเข้าใน ก่อนตะบันบริเวณหัวกะโหลกด้านขวา เสียบสามเหลี่ยมเสาไกลอย่างสวยงาม
นาที 14 "หงส์แดง" หวิดทิ้งห่าง เมื่อ เกล็น จอห์นสัน ผ่านเรียดจากกรอบโทษด้านขวาให้ ราฮีม สเตอร์ลิง กดเต็มหลังเท้าจากระยะจุดโทษเฉี่ยวเสาแรก จากนั้น เวสต์แฮม เริ่มเป็นฝ่ายครองเกมบุก แต่ก็ยังหาจังหวะปิดสกอร์ไม่ได้ ขณะที่ ทีมเยือน รอสวนกลับ จนกระทั่งนาที 36 เจ้าถิ่น ได้จุดโทษ เมื่อ โมฮาเหม็ด ดิยาเม วอลเลย์เต็มเท้าติดแขน โจ อัลเลน ก่อน มาร์ค โนเบิล รับหน้าที่สังหารไม่พลาด
ต่อมาทั้งสองทีมพยายามเปิดหน้าแลก แต่ยังไม่มีจังหวะหวาดเสียวมากนักจนกระทั่งนาที 43 "ขุนค้อน" พลิกแซง 2-1 เมื่อ แม็ทธิว จาร์วิส เปิดโด่งจากกราบซ้าย สตีเวน เจอร์ราร์ด โขกสกัดผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเอง ช่วงเวลาที่เหลือ อาคันตุกะย่าน เมอร์ซีย์ไซด์ โหมบุกหนัก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว
ลุยต่อครึ่งหลัง เจ้าถิ่น ครองเกมเหนือกว่า และทำเกมรุกกดดันอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ ลูกทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ไม่มีตัวพักบอลในแดนหน้า จึงมักทำเสียเมื่อบุกมาถึงหน้ากรอบโทษคู่ต่อสู้ ทำให้ไม่มีจัหวะหวาดเสียวมากนัก จนกระทั่งนาที 67 ทีมอันดับ 11 ของตาราง ชวดโอกาสทอง เมื่อ สจวร์ต ดาวนิง เปิดเรียดจากกราบซ้าย โค โคล ปล่อยบอลลอดขามาถึง ราฮีม สเตอร์ลิง ทางหน้ากรอบโทษด้านขวา ก่อนซัดติดเซฟ จุสซี จัสเคไลเนน
ถัดมา 3 นาที "เครื่องจักรสีแดง" ทำงานต่อเนื่อง เมื่อ สจวร์ต ดาวนิง เปิดบอลจากกราบซ้ายมาให้ จอนโจ เชลวีย์ โหม่งหลุดกรอบ อย่างไรก็ตามความพยายามของ ทีมจากถิ่นแอนฟิลด์ ก็มาสัมฤทธิ์ผลในนาที 75 เมื่อ ราฮีม สเตอร์ลิง จ่ายทะลุช่องให้ โจ โคล หลุดมาทางกรอบโทษด้านซ้าย ก่อนยิงเสียบโคนเสาสอง จากนั้น 4 นาที หงส์ พลิกนำ 3-2 เมื่อ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เปิดบอลจากกราบขวามาให้ จอนโจ เชลวีย์ สะกิดบอลด้วยปลายเท้า แฉลบ เจมส์ คอลลินส์ ลอยข้ามศีรษะ จุสซี จัสเคไลเนน เข้าเสาไกล
ช่วง 5 นาทีสุดท้าย อดีตแชมป์ลีกสูงสุด 18 สมัย เน้นตั้งรับเพื่อปิดเกม ขณะที่ "เดอะ แฮมเมอร์ส" อาศัยการบอมบ์ยาวเข้ามาในกรอบโทษ คอยป่วนแนวรับคู่แข่ง แต่หวิดจะถูกทิ้งห่าง ในนาทีสุดท้ายเมื่อ จอนโจ เชลวีย์ พาบอลลุยเข้าไปในกรอบโทษ ก่อนถูกสกัดล้มลง แต่ผู้ตัดสินไม่ให้จุดโทษ ครบ 90 นาที ลิเวอร์พูล ชนะหวิว 3-2
รายชื่อ 11 ตัวจริง
เวสต์แฮมฯ : จุสซี จัสเคไลเนน , วินสตัน รีด , โจอี โอไบรอัน , เจมส์ คอลลินส์ , กีย์ เดเมล , แม็ทธิว จาร์วิส , แม็ทธิว เทย์เลอร์ , มาร์ค โนเบิล , โมฮาเหม็ด ดิยาเม , เควิน โนแลน , คาร์ลตัน โคล
ลิเวอร์พูล : โฆเซ เรนา , เกล็น จอห์นสัน , มาร์ติน สเคอร์เทล , แดเนียล แอ็กเกอร์ , โฆเซ เอ็นริเก , ลูคัส เลวา , โจ อัลเลน , สตีเวน เจอร์ราร์ด , สจวร์ต ดาวนิง , ราฮีม สเตอร์ลิง , จอนโจ เชลวีย์
