"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ผ่านเข้าสู่รอบ 32 ทีมสุดท้ายของศึกยูโรปา ลีก ได้สำเร็จ หลังบุกเฉือน อูดิเนเซ 1-0 ในรอบแบ่งกลุ่ม เมื่อคืนวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แพ้ บอร์กโดซ์ 0-2 แต่ไม่มีผลเพราะเข้ารอบไปก่อนหน้าแล้ว
ยูโรปา ลีก กลุ่มเอ
อูดิเนเซ 0-1 ลิเวอร์พูล
เกมสุดท้ายของกลุ่มเอ อูดิเนเซ อันดับ 4 มี 4 แต้ม ที่ตกรอบไปแล้วล่วงหน้า เปิดบ้านเจอกับ ลิเวอร์พูล อันดับ 2 มี 7 แต้ม เกมนี้หากฝั่ง หงส์แดง เก็บชัยได้ก็จะเข้ารอบ 32 ทีมสุดท้ายตาม อันซี โดยเกมนี้ทีมเยือนส่ง หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงตัวเก่งลงเป็นตัวจริง ส่วน สตีเวน เจอร์ราร์ด ไม่มีชื่อเพราะสภาพร่างกายไม่ฟิต
เริ่มเกมมา 11 นาที ลิเวอร์พูล เปลี่ยนตัวอย่างรวดเร็ว ส่ง จอนโจ เชลวีย์ แทน นูริ ซาฮิน ที่บาดเจ็บเลือดกำเดาไหลออกจมูก ขณะปะทะแข้งเจ้าถิ่น นาที 14 เจ้าถิ่นได้ลุ้นก่อน พาโบล อาเมโร เปิดบอลโด่งมาให้ แม็ธ เรนากี ขึ้นโขกเหน่งๆ แต่บอลออกข้าง ต่อมานาที 19 มักซิมิเลียโน เปเรย์รา ลากบอลมาหน้าประตู ก่อนซัดโด่งแต่ เปเป เรนา ยังปัดได้
หงส์แดง ได้ลุ้นบ้างจากลูกฟรีคิกของ หลุยส์ ซัวเรซ นาที 22 แต่ซัดติดกำแพง แต่แล้วนาที 22 "หงส์แดง" ได้ประตูขึ้นนำจนได้ ซัวเรซ โขกบอลจากลูกเตะมุมให้ ซูโซ ก่อนไหลคืนให้ เฮนเดอร์สัน ซัดโล่งๆหน้าประตูเข้าไปเป็น 1-0 นาที 26 ทีมเยือนเกือบบวกเพิ่มเป็น 2-0 จากลูกชาร์จของ กเล็น จอห์นสัน แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นล้ำหน้าก่อน
หลังได้ประตู ทีมเยือนบุกต่อเนื่องเพื่อเอาลูกที่สอง นาที 38 โชเซ เอ็นริเก กระชากบอลทางซ้ายมาสุดเส้นหลัง ก่อนเปิดหักเข้ามาให้ ซัวเรซ เข้าชาร์จแต่ ดานิเอเล พาเดลลี นายด่านของอูดิเนเซ พุ่งคว้าได้ทัน สุดท้ายนาที 43 ซูโซ แทงต่อให้ ซัวเรซ ควบบอลขึ้นไปยิงทางเสาแรก แต่บอลข้ามคาน จบครึ่งแรก ทีมเยือนนำ 1-0
ครึ่งหลังเปิดฉากมา 2 นาที ซูโซ เกือบซัดให้ทีมเยือนนำจากจังหวะหลุดเดี่ยวทางเสาสอง แต่บอลปลิ้นออกหลังไปแบบเหลือเชื่อ ต่อมานาที 49 ซัวเรซ วิ่งมายิงจากแถวสองแบบเต็มข้อ แต่บอลพุ่งข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย ส่วน อูดิเนเซ ลงมาเล่นรับเป็นส่วนใหญ่ ไม่มีจังหวะบุกไปเข้าทำมากนัก
นาที 59 เจ้าถิ่นที่นิ่งเงียบอยู่นานก็เกือบทำประตูตีไข่แตกได้จากลูกโหม่งของ เรนากี แต่บอลเหินข้านคานไปนิดเดียว ต่อมานาที 67 เป็นทีของลิเวอร์พูลอีกรอบ ซัวเรซ เลื้อยหลบแนวรับเจ้าบ้านสองคนในเขตโทษ ก่อนดีดด้วยขวาแต่ไม่ผ่านมือ พาเดลลี
อูดิเนเซ เหลือผู้เล่น 10 คนในนาที 79 หลัง ปาสกาเล ที่โดนใบเหลือไปก่อนหน้า ไปเข้าหนักใส่ ราฮีม สเตอร์ลิง ผู้ตัดสินไม่รอช้าควักเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป อย่างไรก็ตาม ทีมเยือนยิงประตูเพิ่มไม่ได้ จบเกม ลิเวอร์พูล บุกเฉือน อูดิเนเซ 1-0 ผ่านเข้ารอบ 32 ทีมสุดท้ายไปในฐานะแชมป์กลุ่มพร้อมกับ อันซี มาคัชคาลา ส่วน ยัง บอยส์ กับ อูดิเนเซ ตกรอบ
ส่วนผลอีกคู่ในกลุ่มดี นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด อีกหนึ่งตัวแทนจากเกาะอังกฤษ บุกไปแพ้ บอร์กโดซ์ 0-2 แต่ไม่เป็นผล กอดคอกับบอร์กโดซ์ เข้ารอบไปเป็นทีมอันดับ 2 ของกลุ่ม ส่วนมาริติโม กับ คลับ บรูจ ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน จอดป้ายตกรอบตามกันไป
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อูดิเนเซ : ดานิเอเล พาเดลลี, ดานิโล, ดาวิเด ฟาราโอนี, โจวานนี ปาสเกล, พาโบล อาเมโร, โธมัส โอซ์โตซ์, เอมานูเอล อักเยแม็ง, จามปิเอโร ปินซี, แม็ธ เรนากี, ดิเอโก แฟ็บบรินี, มักซิมิเลียโน เปเรย์รา
ลิเวอร์พูล : เปเป เรนา, กเล็น จอห์นสัน, โชเซ เอ็นริเก, เจมี คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, นูริ ซาฮิน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สจวร์ต ดาวนิง, โจ อัลเลน, ซูโซ, หลุยส์ ซัวเรซ
ผลฟุตบอลยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้าย
อูดิเนเซ 0-1 ลิเวอร์พูล
ยัง บอยส์ 3-1 อันซี มาคัชคาลา
ฮาโปเอล เทล อาวีฟ 2-0 อคาเดเมียกา
วิคตอเรีย เพลเซน 1-0 แอตเลติโก มาดริด
ลิมัสซอล 3-0 โอลิมปิก มาร์กเซย
เฟเนบาเช 0-3 โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค
บอร์กโดซ์ 2-0 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
มาริติโม 2-1 คลับ บรูจ
เอฟซี โคเปนเฮเกน 1-1 สเตอัว บูคาเรสต์
สตุ๊ตการ์ต 0-1 โมลด์
ดนิโปร 4-0 เอไอเค สตอล์คโฮล์ม
นาโปลี 1-3 พีเอสวี ไอด์โฮเฟน
ราซิง เกงค์ 0-0 บาเซิล
อินเตอร์ มิลาน 2-2 เนฟชี
พาร์ติซาน เบลเกรด 1-1 รูบิน คาซาน
แอธเลติก บิลเบา 0-0 สปาร์ตา ปราก
โอลิมปิก ลียง 2-0 ไอโรนี เคอร์ยาท
เอ็นเค มาริบอร์ 1-4 ลาซิโอ
ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ 3-1 พานาธิไนกอส
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน 1-0 โรเซนบอร์ก
ราปิด เวียนนา 1-0 เมทัลลิสต์ คาร์เคียฟ
เอฟซี ทเวนเต 1-3 เฮลซิงบอร์ก
เลบานเต 2-2 ฮันโนเวอร์
