“ปืนใหญ่” อาร์เซนอล เร่งเครื่องในช่วงครึ่งหลังพลิกสถานการณ์จากตามหลัง 2 ประตู ไล่ตามตีเสมอ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล 2-2 จบเกมลงเอยด้วยการแบ่งแต้ม ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดกลางสัปดาห์เมื่อคืนวันพุธที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แซงเอาชนะ เซาแธมป์ตัน 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 59 คะแนน
ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
อาร์เซนอล 2-2 ลิเวอร์พูล
เกมพรีเมียร์ลีก นัดกลางสัปดาห์คู่บิ๊กแมตช์ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล เปิดรังเอมิเรตส์ สเตเดียม เกมนี้ อาร์แซน เวนเกอร์ ขนผู้เล่นลงสนามเต็มสูบนำโดย ธีโอ วัลคอตต์ และ ลูคัส โพดอลสกี ในแดนหน้า และใช้ แจ็ค วิลเชียร์ ทำเกมตรงกลาง รับการมาเยือนของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่เพิ่งอกหักตกรอบเอฟเอ คัพ เมื่อสุดสัปดาห์ จัดทัพใหญ่ไม่แพ้กันมี หลุยส์ ซัวเรซ และแดเนียล สเตอร์ริดจ์ เป็นตัวความหวังในการทำประตู
เริ่มต้นมาเพียงแค่ 5 นาที ทีมเยือนได้ฉลองกันก่อน เกล็น จอห์นสัน หลุดขึ้นมาทางซ้าย ก่อนเปิดยัดเข้ากลาง โธมัส แฟร์มาเลน สกัดไปขาดเข้าทาง สเตอร์ริดจ์ ยิงติดบล็อก บอลกระกอนเข้าทาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จิ้มต่อถึง ซัวเรซ ซัดแฉลบ บาการี ซานญา เปลี่ยนทางเข้าซุกก้นตาข่ายให้ “หงส์แดง” นำ 1-0
จากนั้นนาที 17 เจ้าบ้านเริ่มตั้งเกมได้บ้าง ชิรูด์ ได้บอลโล่งๆ ที่กรอบ 18 หลา พยายามยิงเร็วยังดีที่ เจมี คาร์ราเกอร์ พุ่งเข้ามาบล็อกได้ทัน บอลไปเข้าทางปืน วัลคอตต์ ยิงซ้ำ เรนา โชว์ซูเปอร์เซฟ ปัดทิ้งได้ที่เสาสอง ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ยังไม่เสียประตูตีเสมอ ดำเนินถึงนาที 26 “หงส์แดง” น่าจะนำห่าง 2 ลูก จากลูกโขกเตะมุม แดเนียล แอกเกอร์ โขกเต็มๆ แต่ ลูคัส โพดอลสกี ที่ยืนคุมเส้นสกัดทิ้งได้หวุดหวิด
นาที 39 อาร์เซนอล สร้างเกมรุกขึ้นมาต่อเนื่อง วัลคอตต์ ได้บอลฝั่งขวาก่อนเปิดกลับมากลางประตูให้ ชิรูด์ ได้โขกแต่บอลไม่มีน้ำหนักและเข้ากลางประตู เรนา ขยับมารับไว้ได้สบาย ช่วงทดเจ็บลูกทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ลงมาตั้งรับ และรอสวนกลับ แต่ไม่มีประตูเพิ่มจบครึ่งแรก “หงส์แดง” บุกมานำอยู่ 1-0
กลับมาเล่นต่อช่วงครึ่งเวลาหลัง ลูกทีมของ เวนเกอร์ ลุยใส่อย่างหนักหวังพังประตูตีเสมอ โพดอลสกี ลุยเข้าเขตโทษก่อนถูก อังเดร วิสดอม ขวางในกรอบโทษพร้อมเรียกร้องจะเอาจุดโทษแต่ผู้ตัดสินโบกมือให้เล่นต่อ แต่แล้วนาที 60 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 จนได้ เฮนเดอร์สัน ลากบอลลุยหนี อังเดร ซานโตส ตัวสำรองที่ลงมาแทน คีแรน กิบบ์ เข้ายิงติดบล็อกบอลเป็นใจมาเข้าทางแปซ้ำเข้าไปง่ายๆ
อาร์เซนอล มาได้ประตูตีไข่แตกเป็น 1-2 ในนาที 65 โพดอลสกี เปิดฟรีคิกเข้ามากลางประตู คาร์ราเกอร์ ประกบตัวพลาด ชิรูด์ เทกตัวขึ้นโขกโล่งๆ บอลตุงตาข่ายชนิดที่ เรนา ไม่ต้องเซฟ เกมของทีมเยือนช็อตไปดื้อๆ จากนั้น 2 นาที บอลชิ่งตามช่อง ชิรูด์ ชิ่งให้ วัลคอตต์ วิ่งเข้าซัดเต็มข้อบอลหายไปในประตูให้ทีม “ปืนใหญ่” ไล่มาเป็น 2-2
เกมผ่าน 75 นาที เป็นเจ้าถิ่นครองบอลบุกได้เป็นส่วนใหญ่ และหาโอกาสเข้าทำได้อย่างต่อเนื่องแต่จังหวะสุดท้ายไม่คมกันเอง กระทั่งนาที 83 เกมสวนกลับของ “ปืนใหญ่” วัลคอตต์ ไหลให้ ชิรูด์ ซัดด้วยซ้ายบอลจะเสียบเสาสอง แต่ เรนา พุ่งปัดทิ้งได้แบบสุดเอื้อม ช่วงท้ายเกมทั้งสองทีมเปิดเกมบุกหนักแต่ไม่มีประตูเพิ่มจบ 90 นาที เสมอกัน 2-2 ต้องแบ่งกันไปทีมละแต้ม อาร์เซนอล เก็บเพิ่มเป็น 38 แต้ม ส่วน “หงส์แดง” มี 35 คะแนน
ขณะที่ผลการแข่งที่น่าสนใจอีกคู่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูงเปิดรังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด พลิกกลับมาชนะ เซาแธมป์ตัน 2-1 โดยได้ เวย์น รูนีย์ คืนฟอร์มเก่งทำคนเดียว 2 ประตู ในนาทีที่ 8 และ 27 ทิ้งห่าง เมนเชสเตอร์ ซิตี รองจ่าฝูงออกไปเป็น 7 แต้ม เท่าเดิม
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อาร์เซนอล : วอยเซียจ เชสนีย์, แพร์ เมอร์เตซัคเกอร์, บาการี ซานญา, โธมัส แฟร์มาเลน, คีแรน กิบบ์, ซานติ การ์ซอลา, แจ็ค วิลเชียร์, อาร์รอน แรมซีย์, ธีโอ วัลคอตต์, ลูคัส โพดอลสกี, โอลิวิเยร์ ชิรูด์
ลิเวอร์พูล : เปเป เรนา, เจมี คาร์ราเกอร์, เกล็น จอห์นสัน, แดเนียล แอกเกอร์, อังเดร วิสดอม, สจ๊วร์ต ดาวนิง, สตีเวน เจอร์ราร์ด, ลูคัส เลวา, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, หลุยส์ ซัวเรซ, แดเนียล สเตอร์ริดจ์
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันพุธที่ 30 ม.ค.2556
อาร์เซนอล 2-2 ลิเวอร์พูล
[0-1 หลุยส์ ซัวเรซ น.5, 0-2 จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.60, 1-2 โอลิวิเยร์ ชิรูด์ น.65, 2-2 ธีโอ วัลคอตต์ น.67]
เอฟเวอร์ตัน 2-1 เวสต์บรอมวิช
[1-0 เลห์ตัน เบนส์ น.29, 2-0 เลห์ตัน เบนส์ น.45 (จุดโทษ), 2-1 เชน ลอง น.65]
นอริช ซิตี 1-1 สเปอร์ส
[1-0 เวสลีย์ ฮูลาแฮร์ น.32, 1-1 แกเร็ธ เบล น.80]
ฟูแลม 3-1 เวสต์แฮม
[1-0 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น.10, 1-1 เควิน โนแลนด์ น.48, 2-1 ฮูโก โรดาเยลกา น. 49, 3-1 มลาเดน เปติช น.90]
แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 เซาแธมป์ตัน
[0-1 เจย์ โรดริเกวซ น.3, 1-1 เวย์น รูนีย์ น.8, 2-1 เวย์น รูนีย์ น.27]
เรดดิง 2-2 เชลซี
[0-1 ฆวน มาตา น.45, 0-2 แฟรงค์ แลมพาร์ด น.66, 1-2 อดัม เลอ ฟองเดร น.87, 2-2 อดัม เลอ ฟองเดร น.90]