“ลักษิกา คำขำ” ความหวังใหม่หวดไทย

ASTVผู้จัดการรายวัน – สำหรับวงการเทนนิสไทย ทั้งฝ่ายชายและหญิงระยะหลังเป็นเรื่องที่ต้องบอกว่า “ยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร” ในการหาตัวแทนรุ่นพี่ที่ไปสร้างชื่อระดับโลก แต่กำลังอยู่ในช่วงบั้นปลายอาชีพ โดยเฉพาะ “แทมมี” แทมมารีน ธนสุกาญจน์ ที่อายุอานามแตะหลัก 35 ปี จนกระทั่งล่าสุดปรากฏชื่อความหวังใหม่อย่าง ลักษิกา คำขำ ดาวรุ่งสาวจากจังหวัดจันทบุรี สร้างผลงานยอดเยี่ยมทะลุเข้าถึงรอบ 2 แกรนด์ สแลม แรกของปี 2013 “ออสเตรเลียน โอเพน” ที่ เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย

ลักษิกา เข้าถึงประเภทหญิงเดี่ยว รอบ 2 ก่อนจะแพ้ เจมี แฮมป์ตัน จากสหรัฐฯ 0-2 เซต 1-6, 2-6 คว้าเงินรางวัลปลอบใจ 45,500 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.4 ล้านบาท) จึงอดเจอกับ วิคตอเรีย อซาเรนกา แชมป์เก่า และมือ 1 ของโลกจากเบลารุส ที่รออยู่ในด่านต่อไป ซึ่งบั้นปลายสามารถก้าวไปป้องกันแชมป์เอาไว้ได้สำเร็จ

หวดสาววัย 19 ปีย้อนถึงวันที่จับแร็กเกตครั้งแรกตอนอายุ 4 ขวบ ว่า “ตอนเด็กๆ เห็นคุณพ่อคอยสอนเทนนิสให้กับน้องๆ แถวบ้าน ก็เลยรู้สึกอยากลองเล่นบ้าง จึงเอ่ยปากขอให้ช่วยสอนบ้าง จำได้ดีว่าตอนถือไม้ครั้งแรกทำอะไรไม่ถูกเลย คู่ต่อสู้ตีมาก็โต้กลับไม่ได้ จากนั้นทุกอย่างก็ค่อยๆ ดีขึ้นและซ้อมด้วยกันมาตลอด”

จากนั้นเมื่อหลงเสน่ห์และถอนตัวจากการหวดลูกสักหลาดไม่ขึ้น ลักษิกา จึงเริ่มจริงจังและตระเวนแข่งทัวร์นาเมนต์ทั้งในและต่างประเทศจนคว้าแชมป์ระดับเยาวชนของ สหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ไอทีเอฟ)

ลักษิกา กล่าวว่า “พอได้มีโอกาสประลองฝีมือกับผู้เล่นจากชาติอื่น ทำให้รู้เลยว่ายังมีจุดอ่อนที่ต้องแก้ไขอีกมาก ซึ่งทุกครั้งที่กลับถึงเมืองไทย ตนก็จะนำเรื่องปัญหาการเล่นต่างๆที่ได้พบเจอมา ไปปรึกษากับคุณพ่อและโค้ช เพื่อเอามาปรับปรุงแก้ไขก่อนลงแข่งรายการอื่น ดังนั้น หากมีรายการใดที่สามารถลงเล่นได้แบบอัตโนมัติ ตนก็จะพร้อมที่จะลงแข่งขันและไม่ปล่อยให้โอกาสพัฒนาฝีมือหลุดลอยไปอย่างแน่นอน”

เมื่อถามถึงทัวร์นาเมนต์แห่งความทรงจำหวดหญิงมือ 201 ของโลกก่อนแข่ง แกรนด์ สแลม แรกของปี 2013 ยกให้ ออสเตรเลียน โอเพน ที่ผ่านมา คือ สุดยอดความทรงจำที่ไม่มีวันลืม “เคยลงแข่ง แกรนด์ สแลม ระดับเยาวชนมาเยอะ แต่ไม่เคยมีครั้งใดที่น่าจดจำเท่าครั้งนี้ จำได้ว่าตอนลงแข่งรอบควอลิฟายตื่นเต้นมาก แถมต้องดวลกับคู่ต่อสู้ที่ไม่เคยเจอมาก่อน แต่พอผ่านเข้ารอบต่อไปได้ก็ความกดดันและอาการตื่นสนามก็หายไป จึงเริ่มหันมุ่งมั่นทำผลงานเข้ารอบมาเรื่อยๆ แม้เสียดายที่ไม่ได้เจอกับมือท็อป 10 ของโลกตามตั้งใจ แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดี และหวังว่าจะได้กลับมาลงแข่งอีกครั้ง หากแรงกิงไม่ตกลงไปก่อน”

สำหรับนักเทนนิสอาชีพการมีชื่อติดท็อป 10 ของแรงกิงถือเป็นความใฝ่ฝันอันสูงสุดของทุกคน ซึ่ง “น้องลัก” ก็เป็นอีกคนที่ใฝ่ฝันจะก้าวขึ้นไปสู่จุดนั้น อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวก็เผยเวลานี้ขอมุ่งสมาธิไปที่การแข่งขันแบบค่อยเป็นค่อยไป “เป้าหมายปีนี้ก็อยากจะขยับอันดับขึ้นสู่ท็อป 150 ให้ได้ก่อน พร้อมกับพัฒนาฝีมือไปด้วย จากนั้นค่อยมาดูกันว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต”

ด้าน แทมมารีน ธนสุกาญจน์ หวดหญิงมือ 1 ของไทย ออกมาแสดงทัศนะถึงหวดสาวรุ่นน้องที่ชั่วโมงนี้ฟอร์มกำลังแรง ว่า “จากที่ได้ติดตามดูน้องเล่นมาตลอด เห็นได้ว่า ลัก มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก และมีความโดดเด่นไม่แพ้เพื่อนร่วมรุ่นคนอื่นๆ ถือเป็นนักเทนนิสที่มีเกมบุกที่ดี แต่หากปรับปรุงเรื่องเกมเสิร์ฟอีกนิดเชื่อว่า ลัก จะต้องเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติไทยได้แน่ สำหรับการแข่งขันเทนนิส เฟด คัพ ในโอกาสต่อๆ ไป”

สำหรับ ลักษิกา จากนี้ไปจะมีคิวลงแข่งขันรายการ พีทีที พัทยา โอเพน ระหว่างวันที่ 28 มกราคม ถึง 3 กุมภาพันธุ์นี้ ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ก่อนผนึกกำลังร่วมกับคนอื่นๆ อย่าง นพวรรณ เลิศชีวกานต์, วรัชญา วงศ์เทียนชัย และ ณัฐนิดา หลวงแนม ลงแข่ง เฟด คัพ กลุ่ม 1 โซนเอเชีย / โอเชียเนีย กับคู่แข่งร่วมสาย เอ อย่าง อินเดีย และ คาซัคสถาน วันที่ 6-9 กุมภาพันธ์นี้

ส่วนผลประกบคู่ “พีทีที พัทยา โอเพน” รอบแรกคลอดออกมาแล้ว ปรากฏว่า ลักษิกา ที่ได้สิทธิ์ไวลด์การ์ดพบ เคซีย์ เดลลัคกัว มือ 101 ของโลกจากออสเตรเลีย, วรัชญา วงศ์เทียนชัย มือ 317 ของโลกชาวไทย พบ แอนนิกา เบ็ค มือ 78 ของโลก จากเยอรมนี, อนา อิวาโนวิช มือ 13 ของโลกและมือวางอันดับ 1 ของรายการจากเซอร์เบีย พบ อายูมิ โมริตะ มือ 72 ของโลกจากญี่ปุ่น, มาเรีย คิริเลนโก มือ 2 ของรายการรองแชมป์ปีที่แล้วจากรัสเซีย รอพบหวดจากรอบควอลิฟาย, ซู เหว่ย เซียะ มือ 3 ของรายการจากไต้หวัน พบ มารินา เอราโควิช มือ 66 ของโลกจากนิวซีแลนด์ และ โซรานา เคิร์สเตีย มือ 4 ของรายการจากโรมาเนีย รอพบหวดจากรอบควอลิฟาย

ซึ่ง “น้องลัก” เผยทิ้งท้ายว่า จะพยายามทำให้ดีที่สุด “ถือเป็นครั้งแรกเลยที่ได้เล่นรายการ พัทยา โอเพน แถมลงแข่งในบ้าน ก็ตั้งใจว่า จะทำผลงานเข้ารอบให้ลึกที่สุด ส่วน เฟด คัพ ตื่นเต้นพอสมควร เพราะเป็นการติดทีมชาติครั้งแรก แต่ก็หวังว่า เมื่อถึงเวลาลงแข่งจริงจะทำผลงานได้ดีโดยไม่ให้แฟนๆชาวไทยที่เชียร์ต้องผิดหวัง”