ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - อีกหนึ่งสีสันที่สร้างความน่าสนใจให้วงการคงหนีไม่พ้นวาทะเด็ดๆ หรือคำให้สัมภาษณ์โอกาสต่างๆ ของบรรดานักกีฬา ซึ่งส่งผลให้สื่อหยิบยกไปกระพือและพาดหัวใหญ่โต สำหรับแวดวงกอล์ฟตลอดปี 2012 ที่ผ่านมาก็มีหลากหลายอารมณ์ อาทิ ความเผ็ดร้อนระหว่าง ไทเกอร์ วูดส์ และ แฮงค์ ฮานีย์ อดีตอดีตโค้ชสวิง หรือ เจิง หยานี โปรสาวมือ 1 ของโลกกับฟอร์มที่หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ความไม่ลงรอยกันระหว่าง แฮงค์ ฮานีย์ และ ไทเกอร์ ทำเอาอดีตโค้ชวงสวิงที่เคยร่วมงานกันมานานกว่า 6 ปี สวมบทเจ้าของรายการ “แฉแต่เช้า” ออกมาเขียนหนังสือเปิดโปงความลับของ วูดส์ แบบหมดเปลือกโดยเกริ่นได้อย่างน่าสนใจเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาหลังจากอดีตโปรมือ 1 โลกเพิ่งผ่านพ้นมรสุมร้ายเรื่องครอบครัวตั้งแต่ปี 2009 และเริ่มกลับมาสู่ฟอร์มเก่ง
“เมื่อคุณได้ทำงานร่วมกับคนที่ยิ่งใหญ่อย่าง วูดส์ แบบใกล้ชิด คุณคงต้องอยากออกมาพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้แน่นอน ทุกคนเห็น พญาเสือ แต่ภาพภายนอก แต่ไม่มีใครรู้และเคยพูดคุยกันแบบจริงจัง ความคิดของคนอื่นๆ เป็นเพียงการคาดเดา ส่วนผมไม่ใช่เลยเพราะผมอยู่กับเขาตลอดเวลา” ฮานีย์ แฉแบบไม่ไว้หน้า
ฝั่งซูเปอร์สตาร์ของวงการสวิงเจอแบบนี้ถึงกับทนไม่ไหว ออกมาจวกพฤติกรรมของอดีตเพื่อนร่วมงานที่ออกมาขายเพื่อนกินด้วยการแถลงในพ็อคเก็ตบุ๊คทั้งที่ไม่เคยขออนุญาตคนเองมาก่อน “ผมคิดว่ามันไม่มีความเป็นมืออาชีพเลย โดยเฉพาะคนที่ทำงานกันมานานและเชื่อใจในฐานะเพื่อน”
เห็นรุ่นน้องเถียงกันควันออกหูแบบนี้ร้อนถึง แจ็ค นิคลอส ตำนานโปรวัยดึกเจ้าของแชมป์เมเจอร์ 18 สมัย ต้องออกมาปรามๆ และเรียกสติ ไทเกอร์ ให้กลับมามุ่งมั่นกับการแข่งต่อไป โดยชี้ว่า "ผมไม่รู้หรอกเขาจะเอาชนะกันทำไม ทั้งที่เรื่องมั้นผ่านไป 2 ปีกว่าแล้ว ตอนนี้เขาควรจะเรียนรู้สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ว่าไม่มีใครเกรงกลัว พญาเสือ อีกต่อไป"
ขณะที่ พีจีเอ ทัวร์ เถียงกันอย่างเมามันตัดข้ามทวีปมาที่แดนกระทิงดุ เซร์คิโอ การ์เซีย โปรชื่อดังของฝั่งยูโรเปียน ทัวร์ ที่มองหาเมเจอร์แรกในชีวิตมานาน และต้องอกหักอีกครั้งในศึก “เดอะมาสเตอร์ส” ตัดพ้อว่า “มันเป็นเรื่องจริงเลยที่เขาว่ากันว่าผมคงยังไม่ดีพอ และตอนนี้ผมรู้ได้เลยจากการเหน็ดเหนื่อยมา 13 ปี ผมคิดว่าจะชนะได้แต่ไม่รู้เมื่อไหร่จะเกิดขึ้น ผมคงดีไม่พอสำหรับการเป็นแชมป์เมเจอร์จริงๆ นั่นมันทำให้รู้ว่าเราก็ยังไม่ตายถ้าหากไม่ได้แชมป์นี้”
อีกหนึ่งคำพูดปลอบใจตัวเองของ พาแดรก ฮาร์ริงตัน ก้านเหล็กไอริชที่ติดทีมไรเดอร์ คัพ มาทุกสมัยตั้งแต่ปี 1999 ทว่าหนล่าสุดครั้งที่ 40 เมื่อปีที่ผ่านมา เขาต้องให้สัมภาษณ์กลบเกลื่อนไปว่า “แม้แต่สุนัขข้างถนนยังรู้เลยว่าผมจะไม่ถูกเลือกติดทีมในครั้งนี้ ด้วยเสียงที่เย็นชาและคำพูดสุภาพของ โฆเซ มาเรีย โอลาซาบัล ทำให้ผมรู้ผลทันทีแบบไม่ต้องถาม”
ด้านทาง เจิง หนานี โปรสาวมือ 1 โลกที่ไม่ต้องถามหาฟอร์มเก่งในช่วงนี้ ได้ยกคำพูดของ แอนนิกา โซเรนสตัม ตำนานโปรสาวจากแดนไวกิงที่เคยพูดไว้ว่า “แอนนิกา บอกฉันว่าการเป็นมือ 1 ของโลก มันเหมือนว่าเธออยู่ด้วยความโดดเดี่ยวในโลกนี้เลย” ซึ่งก็คลายกับว่าที่เธอพูดไว้จริง เมื่อบุญเก่าที่เธอสะสมไว้เป็นเข่งยังไงก็ไม่หมด และยังไม่เสียตำแหน่งมือ 1 โลกแม้ว่าจะไม่ได้แชมป์รายการใดๆ เลยในครึ่งปีหลังของฤดูกาล 2012
รอรีย์ แม็คอิลรอย โปรดาวรุ่งมือ 1 โลกที่เวลานี้แค่ขยับตัวซ้าย-ขวาก็มีคนตามข่าวไม่ขาดสาย โดยโปรวัย 23 ปี ให้สัมภาษณ์ติดตลกถึง ไทเกอร์ ก่อนจับสลากประกบคู่แบบซิงเกิลแมตช์ ในศึกไรเดอร์ ครั้งที่ผ่านมาว่า “คนแรกที่อยากแข่งด้วยและคิดถึงมากคือ ไทเกอร์ เลยและผมจะออกไปไล่เตะบั้นท้ายเขาด้วยตัวเอง” งานนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าใครได้เตะใครกันแน่ แต่ที่ชัวร์ๆ วูดส์ ชวดแชมป์อีกตามเคย
ท้ายที่สุดกับคำสอนของคุณพ่อ รอรีย์ ที่พยายามบอกลูกชายเสมอถึงความกระหายในความสำเร็จ และพยายามรีบคว้าแชมป์อย่าให้อายุต้องเพิ่มมากไปกว่านี้ เพราะหลักการง่ายๆ ยิ่งแก่ก็จะยิ่งไม่มีอะไรดี “หากคุณยังรู้สึกว่าตัวเองดีไม่พอ อายุคุณก็จะยิ่งแก่มากขึ้นเท่านั้น” ซึ่งเป็นคำสอนสั้นๆ แต่ได้ผลดีทีเดียวเพราะลูกชายครองมือ 1 ไปเรียบร้อยด้วยวัยเพียง 23 ปี เท่านั้นเอง
เรื่องโดย : ปภังกรณ์ นิลวรกุล