“พิมล” เผย “โค้ชเช” ได้โอนสัญชาติไทยต้นปีหน้า

“บิ๊กเอ” พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย เผยความคืบหน้าการโอนสัญชาติไทยของ มร.เช ยองซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทย เหลือเอกสารภูมิลำเนาอาศัยในประเทศไทย ซึ่งกำหนดระยะเวลา 5 ปี คาดว่า เรื่องนี้น่าจะแล้วเสร็จในช่วงต้นปีหน้า

ความคืบหน้าการขอโอนสัญชาติไทยของ มร.เช ยอง ซอก โค้ชเทควันโดทีมชาติไทย ซึ่งได้ยืดเยื้อมานานหลายปี ล่าสุด นายพิมล ยังได้ผยถึงความคืบหน้าการขอโอนสัญชาติไทยให้ มร.เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโด ทีมชาติไทย ยังคงเหลือเอกสารสำคัญ อย่างแรกเลย คือ ใบอนุญาตเข้ามาทำงานในราชอาณาจักรไทยตามกฎหมายที่กำหนดไว้เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี ซึ่งได้ยื่นไปที่กระทรวงมหาดไทยแล้ว ตอนนี้ตนเหลือ เอกสารภูมิลำเนาในราชอาณาจักรไทยต่อเรื่องมาจนถึงวันที่ยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทยไม่น้อยกว่า 5 ปี โดยนับจากการได้รับใบสำคัญถิ่นที่อยู่ ที่แสดงยืนยันได้ว่ามีภูมิลำเนาต่อเนื่องในประเทศเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี

พร้อมกันนี้ นายพิมล ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าการเก็บตัวของทีมนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ชุดลุยซีเกมส์ ที่พม่า ว่า “ตอนนี้ตนได้เตรียมนักกีฬาฝึกซ้อมที่การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยเรียกเก็บตัวฝึกซ้อมตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ยอมรับว่าก็มีที่โดนใจอย่าง น้องจูน ภัคภา พงษ์พานิช เจ้าของเหรียญทองยูธโอลิมปิก ในรุ่น 57 กิโลกรัมหญิง ซึ่งมีฝีมือดี โดยนักกีฬาที่เราส่งแข่งซีเกมส์ คือให้เด็กมีประสบการณ์ในระดับทัวร์นาเมนต์ใหญ่มากขึ้น”

“นักกีฬาทุกคนที่เข้าร่วมเก็บตัวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ล้วนมีดีกรีเหรียญทอง และเหรียญเงิน ในการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยมาแล้วทั้งสิ้น รวมกับนักกีฬาที่ได้สิทธิ์ไวลด์การ์ด จากโครงการช้างเผือกจากทางสมาคมประมาณ 15-20 คน รวมทั้งหมดประมาณ 35 ชีวิต ในแคมป์ฝึกซ้อม ฉะนั้นการคัดตัวจึงเป็นอะไรที่ยากลำบาก ก่อนตัดรายชื่อครั้งสุดท้ายก่อนลุยศึกซีเกมส์ครั้งที่ 27 ที่ประเทศเมียนมาร์ ที่ทีมสตาฟฟ์โค้ชจะต้องมาคุยกันอีกครั้ง”