xs
xsm
sm
md
lg

“ติณห์ ศรีตรัย” ซิ่งสู่ฝัน "เอฟวัน"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ติณห์ ศรีตรัย
ASTV ผู้จัดการรายวัน - รูดม่านปิดฉากไปแล้วสำหรับการแข่งขันรถรายการพิเศษ "เรซ ออฟ แชมเปียนส์" ที่รวบรวมนักซิ่งระดับโลกคับคั่งโชว์ความเร็วกระหึ่ม ณ สนาม ราชมังคลากีฬสถาน เมื่อวันที่ 14-16 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่ง ติณห์ ศรีตรัย เป็นหนึ่งในตัวแทนคนไทย ที่ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ หลังบดคันเร่งคว้าสิทธิ์รอบชิงประเภททีมนานาชาติได้สำเร็จ ทีมข่าว MGR SPORT จะพาไปรู้จักกับหนุ่มวัย 23 ปีที่มีความใฝ่ฝันโลดแล่นบนเวทีรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลกกับเส้นทางที่มีความเป็นไปได้หากได้รับการผลักดันมากพอจากประเทศไทยที่หวังเป็นเจ้าภาพ เอฟวัน

แน่นอนว่า "ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น" ติณห์ เริ่มต้นสนทนาโดยยอมรับว่าตนเองได้รับอิทธิพลจนหลงใหลกีฬาความเร็วจาก บุรินทร์ ศรีตรัย ผู้เป็นพ่อนักแข่งแรลลีที่สร้างแรงบันดาลใจ จนทำให้ปัจจุบันตนเองโลดแล่นอยู่ในระดับทัวริงคาร์ ผลงานที่เข้าตาคือเมื่อกลางปี 2012 ที่ผ่านมาก็คือขึ้นโพเดียมคว้าแชมป์รายการ "เอเชียน ทัวริง คาร์ ซีรีส์" สนามระดับโลกอย่าง เซปัง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย

ติณห์ เผยว่า “สมัยเด็กผมก็เป็นลูกชายคนหนึ่งที่ติดพ่อมาก เวลาไปแข่งรถแรลลีก็มักติดสอยห้อยตามไปเสมอ จนกระทั่งพ่อซื้อรถโกคาร์ทให้ขับ โดยทีแรกก็ยังไม่คิดจริงจังมากนัก แต่พอขับไปเรื่อยๆ และออกไปแข่งตามรายการต่างๆ จนได้แชมป์โกคาร์ทรุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ของประเทศไทย ปี 2541 กลับมา ก็ทำให้เริ่มตัดสินใจเป็นนักแข่งรถและตระเวนกวาดแชมป์เรื่อยมา”

หลายคนอาจจะมองว่ากีฬาความเร็วคือตะบี้ตะบันเหยียบคันเร่งผ่านธงตราหมากรุกเป็นคันแรกให้ได้ แต่นักขับหน้าคมจากจังหวัดขอนแก่นเผยว่าตนได้อะไรมากกว่านั้นคือการแข่งที่ต้องอยู่ภายใต้ความไม่ประมาทใช้ความเร็วอย่างเหมาะสมรวมถึงถนอมเครื่องยนต์ นอกจากนี้ยังต้องมีระเบียบวินัย ฝึกซ้อม และใช้ชีวิตภายใต้กฎเกณฑ์ ไม่ใช่ดูเท่หรือเป็นแบดบอยอย่างที่ใครคิด “การเป็นนักแข่งรถ สำหรับผมข้อดีคือได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักและหลงใหลตั้งแต่เด็กๆ แต่ก็ต้องแลกกับเวลาส่วนตัวที่น้อยลง ไม่ค่อยมีโอกาสพบเพื่อนฝูงเพราะต้องเดินทางไปแข่งทั่วประเทศ หมั่นดูแลตัวเองไม่ให้เจ็บไข้ได้ป่วยและมีวินัยอยู่เสมอ เพราะทุกอย่างมีผลกระทบกับการแข่งขันทั้งสิ้น ก่อนแข่งผมตั้งกฏไว้ว่าจะไม่ออกไปไหนเลยนอกจากสนามซ้อม และยังเป็นการรักษาสภาพร่างกายไปด้วยในตัว เพราะสำหรับนักกีฬาระเบียบวินัยสำคัญมาเป็นอันดับหนึ่ง แม้ในใจจะอยากเที่ยวแค่ไหนก็ตาม ส่วนเรื่องเครื่องรางของขลังผมไม่มีติดตัว ไม่ได้ลบหลู่ แต่คิดว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเองมากกว่าว่าเรามีสมาธิกับการแข่งขันมากน้อยเพียงใด”

เมื่อถามถึงทัวร์นาเมนต์ที่ประทับใจที่สุดตั้งแต่เป็นนักขับอาชีพ ติณห์ ผู้มี “ดิ ไอซ์แมน” คิมิ ไรค์โคเนน อดีตแชมป์โลก เอฟวัน ปี 2007 เป็นไอดอลในดวงใจ เผยให้ฟังว่า “หากไม่นับการแข่งประเภทรถยนต์ ก็ต้องเป็นศึกโกคาร์ทชิงแชมป์โลก ปี 2007 ที่เบลเยียม แม้ไม่ได้แชมป์หรือรางวัลใดๆ กลับมาแต่ก็ยังได้ประสบการณ์ จากการได้ร่วมประชันความเร็วกับนักขับฝีมือดีทั่วโลกอีกด้วย ก่อนเลื่อนระดับขึ้นไปแข่งรถรายการทัวริงคาร์ หรือรุ่นฟอร์มูลา ในเวลาต่อมา”

รองแชมป์ เอเชีย ฟอร์มูลา เรโนลต์ ปี 2010 เผยอีกว่าครั้งหนึ่งเคยเกือบที่จะหันไปเอาดีทางด้านเป็นนักฟุตบอลอาชีพและทิ้งชีวิตหลังพวงมาลัยไปเลยเหมือนกัน “ผมบ้าเตะฟุตบอลมาก ถ้าเป็นช่วงที่ไม่มีแข่งนี่ใครชวนไปเตะที่ไหนก็ไป ซึ่งครั้งหนึ่งผมเคยคิดอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพด้วย แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะเป็นนักแข่งรถมากกว่าเพราะถือเป็นสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด”

เป้าหมายในอนาคตของนักขับรถอาชีพทุกคนคือได้ก้าวไปสัมผัสการแข่งขันระดับโลกคือ เอฟวัน ก็ต้องลุ้นว่าเจ้าตัวจะไล่ตามความฝันไหนได้สำเร็จหรือไม่ โดยทิ้งท้ายว่า “เอฟวัน คือความใฝ่ฝันของนักขับทั่วโลก แต่การเปลี่ยนไปขับรุ่นใหญ่ไม่ใช่เรื่องง่าย จากที่ได้สัมผัสกับการแข่งขัน ฟอร์มูลา ทรี ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์ระดับรองมาก่อนพบว่าต้องฝ่าด่านอีกมาก ต้องไต่ลำดับจาก ฟอร์มูลา ทรี 2 ปี ไปสู่ จีพี ทู อีก 2 ปี ก่อนเข้าสู่ เอฟวัน คำนวนแล้วใช้เวลา 5 ปี เป็นอย่างน้อย อย่างไรก็ตาม ผมจะไม่ยอมแพ้และจะสู้เพื่อคว้าโอกาสนั้นมาให้ได้ ไม่ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนก็ตาม”
เช็กไลน์สนามก่อนซิ่ง ROC
แต่งองค์ทรงเครื่อง
ควบรถ KTM X-Bow คว้าชัย ROC
กำลังโหลดความคิดเห็น