“เจ๊มล” นางนฤมล ศิริวัฒน์ ประธานคณะกรรมาธิการกีฬา วุฒิสภา ประกาศขอลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมา หลังทำงานให้คณะกรรมาธิการการกีฬา ร่วม 2 ปี พร้อมเปิดโอกาสให้ นายจรัล จึงยิ่งรุ่งเรือง รองประธานคณะกรรมาธิการกีฬาคนที่สอง ขึ้นดำรงตำแหน่งแทน จากความเห้นชอบในที่ประชุมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยยังคงทำหน้าที่สานภารกิจที่ยังค้างคา และยืนยันว่า ยังมีการตรวจสอบหากมีความไม่ชอบมาพากล ในการร้องเรียนต่างๆ อย่างแน่นอน
เมื่อเวลา 10.30 น.การประชุมคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา ณ ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ หมายเลข 309 ชั้น 3 อาคารรัฐสภา 2 เรื่องพิจารณาสรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา ในรอบปีที่ผ่านมา เพื่อเตรียมการจัดทำรายงานผลการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการ เพื่อเสนอต่อวุฒิสภาเพื่อพิจารณา และพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยมี นางนฤมล ศิริวัฒน์ ประธานคณะกรรมาธิการกีฬา วุฒิสภา เป็นประธานในที่ประชุม พร้อมด้วย คณะกรรมาธิการการกีฬา และสื่อมวลชนร่วมฟังประชุมอย่างคับคั่ง
โดย นางนฤมล กล่าวสรุปผลงานการทำงานคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา ในรอบปีที่ผ่านมาว่า “ตลอดระยะเวลา 1 ปีของคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภาที่ผ่านมา เราได้ทำภารกิจทั้งส่งเสริม สนับสนุน การกีฬาในประเทศโดยตลอด และรับเรื่อวร้องเรียนต่างๆ ที่ผ่านมา มีทั้งสำเร็จลุล่วงด้วยดี ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งเสนอต่อ การกีฬาแห่งประเทศไทยโดยตรง ซึ่งได้มีการแก้ไขด้วยดีตลอด หรือ การร่าง พ.ร.บ.กีฬาอาชีพ รวมทั้ง พ.ร.บ.สารต้องห้าม อีกด้วย ส่วนที่ยังไม่สำเร็จตามวัตถุประสงค์ของกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา สักเท่าไหร่นัก เห็นจะเป็นกรณีของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย อาทิ เรื่องสนามฟุตซอล เป็นต้น”
ทั้งนี้ “เจ๊มล” ยังได้ฝากคำถามถึงการกีฬาแห่งประเทศไทย ให้จี้ไปยังสมาคมกีฬาที่จะส่งนักกีฬาไปแข่งขันเอเชียน อินดอร์ แอนด์ มาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 4 ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ในเดือนเมษายน ปี 2013 นี้ ว่า “ยังให้ทางการกีฬาแห่งประเทศไทยลงไปกระตุ้นกับสมาคมกีฬาต่างๆ ที่จะส่งชื่อนักกีฬาร่วมแข่งขันเอเชียน อินดอร์ แอนด์ มาร์เชียลอาร์ตเกมส์ 2013 ให้เริ่มเก็บตัวได้แล้ว เพราะเท่าที่ผ่านมา ตนได้ตรวจสอบแล้วนักกีฬายังไม่เริ่มเก็บตัวเลย และการที่นักกีฬาจะประสบความสำเร็จจะต้องเริ่มอย่างน้อย 6 เดือนได้แล้ว แต่ตอนนี้เริ่มใกล้เข้ามาทุกขณะแล้ว จึงไม่อยากให้การส่งนักกีฬาไปครั้งนี้เสียเปล่า”
ต่อมา ประธานคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา ได้ประกาศขอลงตำแหน่ง โดยตนจะดำรงตำแหน่งรองประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการแทน ว่า “ตลอดระยะเวลาทำงานของตนเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา มันทำให้ถึงเวลานี้ตนจะต้องถึงเวลาลงจากตำแหน่งนี้เสียที เพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา ได้ขึ้นมาทำหน้าที่นี้บ้าง ซึ่งตนเห็นว่า คุณจรัล จึงยิ่งเรืองรุ่ง รองประธานกรรมาธิการคนที่สอง เป็นคนที่ทำงานในส่วนนี้เป้นเวลานานนับตั้งแต่ก่อตั้งเกือบ 6 ปีด้วยกัน จึงเห็นว่า ท่านจรัล มีความเหมาะสมมากที่สุด และให้พลเอก เกษมศักดิ์ ปลูกสวัสดิ์ เป็นรองกรรมาธิการคนที่หนึ่ง, นายพิสิฐ เกตุผาสุข รองประธานกรรมาธิการคนที่สอง, นายสุโข วุฑฒิโชติ รองประธานกรรมาธิการคนที่สาม และ นายธวัชชัย บุญมา รองประธานกรรมาธิการคนที่สี่”
สุดท้าย นายจรัล จึงยิ่งเรืองรุ่ง ว่าที่ประธานกรรมาธิการการกีฬา ได้กล่าวเป็นการทิ้งท้ายว่า “ตนยังคงทำหน้าที่ของคณะกรรมาธิการกีฬา วุฒิสภา ซึ่งได้ทำมาโดยตลอดในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาให้สำเร็จลุล่วง ยังยึดมั่นในการทำงานติดตาม และตรวจสอบในเรื่องร้องเรียนจากสมาคมกีฬาต่างๆ ที่เข้ามาร้องเรียนกับเรา และพร้อมสนับสนุนกีฬาต่างๆ เหมือนเดิม”