“เจ๊มล” นางนฤมล ศิริวัฒน์ ประธานคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา จ่อลงดาบ บรรดาผู้ตัดสินกีฬาทุกชนิด ที่มีส่วนรู้เห็นในการล้มการตัดสิน จนนำความเสื่อมเสียสู่วงการกีฬาในประเทศไทย โดยมีโทษสูงสุด คือ จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในการร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพคราวต่อไป
เมื่อเวลา 10.30 น.การประชุมคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม 2555 ณ ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ 309 ชั้น 3 อาคารรัฐสภา 2 มีสาระการประชุมถึง 2 เรื่อง คือ การพิจารณาสรุปประเด็นสาระสำคัญของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ โดยมี นางนฤมล ศิริวัฒน์ ประธานคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา เป็นประธานในที่ประชุม พร้อมด้วยคณะกรรมาธิการร่วมประชุม
โดย นางนฤมล เน้นสาระสำคัญของการล้มผลการแข่งขันของผู้ตัดสิน ซึ่งได้รับการร้องเรียนอยู่บ่อยครั้ง ว่า ควรที่จะเพิ่มบทลงโทษต่อผู้ตัดสินอย่างจริงจัง “ตนคิดว่า สาระสำคัญของการร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ ควรมุ่งเน้นการล้มผลการแข่งขันของผู้ตัดสิน ที่ทำหน้าที่บกพร่องในสนาม จนนำความเสื่อมเสียชื่อเสียงสู่วงการกีฬาในประเทศไทย แม้ว่าจะมีการผลักดันกีฬาอาชีพถึง 13 ชนิดกีฬาก็ตาม แต่ว่ามาตรฐานผู้ตัดสินยังมีบางส่วนที่ยังตัดสินเช่นนี้ ทางกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา เห็นว่า ควรจะเพิ่มบทลงโทษ กรณีที่ผู้ตัดสินชนิดกีฬามีการล้มผลการแข่งขัน จะรับบทลงโทษสูงสุดคือจำคุกไม่เกิน 10 ปีปรับเงินไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เพื่อให้เป็นมาตรฐานสากลต่อไป”
ต่อจากนั้นประธาน กมธ.กีฬา ยังได้เน้นถึงแผนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 5 ควรเน้นถึงการจัดการของส่วนจังหวัดที่ยังไม่ราบรื่น ว่า “ทางกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา เดินทางชมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติที่ จ.เชียงใหม่ เห็นระบบการจัดการแข่งขัน และการประสานงาน ระหว่างหน่วยงานในจังหวัด ยังไม่ราบรื่น ต่างฝ่ายต่างทำงาน จนไม่สำเร็จลุล่วงเท่าไหร่ ประกอบกับการประชาสัมพันธ์ที่ไม่กระจายไปตามองค์การบริหารส่วนจังหวัด ทำให้ผู้คนเข้ามาชมชนิดกีฬาต่างๆ เบาบางจนน่าตกใจ ทั้งๆ ที่เชียงใหม่ก็เคยรับเป็นเจ้าภาพการแข่งขันใหญ่ๆมาแล้วก็ตาม ทาง กมธ.กีฬา เห็นว่า น่าจะเน้นยุทธศาสตร์กีฬาส่วนจังหวัดให้มากขึ้นกว่านี้”