"บิ๊กเน" เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขู่ฟ้องสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย หากเกิดปัญหาคลับไลเซนซิงไม่เรียบร้อย จนทีมไม่สามารถเข้าแข่งขันรายการ เอเอฟซี แชมปเปียนส์ลีก 2013 ย้ำเป็นการทำให้เกิดความเสียหาย นำมาซึ่งเกียรติยศชื่อเสียง
เมื่อช่วงบ่ายของวันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน 2555 ณ โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน (พระราม 9) ได้มีการประชุมหารือเรื่องโปรแกรมการแข่งขันและกฎระเบียบศึกฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2013 โดยมี ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด (ทีพีแอล) เป็นประธานพร้อมด้วยตัวแทนจากทั้ง 18 สโมสร อาทิ เช่น นายรณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการสโมสรเอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด, นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, นายอรรณพ สิงห์โตทอง รองประธานสโมสรชลบุรี เอฟซี ร่วมชี้แจง
ภายหลังการประชุม "บิ๊กเน" เนวิน ชิดชอบ เผยว่าเป็นการดีถ้าฤดูกาลหน้ามีการเว้นโปรแกรมการแข่งขันตามปฏิทิน ฟีฟาเดย์ "ผมว่าถ้าหลักวิธีการคิดของทีพีแอลเป็นเหมือนสากลก็คงจะไม่เป็นปัญหา ซึ่งวันนี้ก็ดีใจที่ทางทีพีแอลยอมรับฟัง และยอมจัดโปรแกรมตามฟีฟาเดย์ เพราะจะส่งผลถึงนักเตะที่ติดทีมชาติทั้งไทยและต่างประเทศ รวมถึงเป็นการทำให้โครงสร้างทีมชาติไทยดีขึ้นด้วย และจะสามารถหาทีมมาอุ่นเครื่องได้ง่ายขึ้นเพราะโปรแกรมเป็นเช่นเดียวกับทุกประเทศ จึงหวังว่าทีพีแอลจะดำเนินการตามที่ได้รับเรื่องไป"
สำหรับในเรื่องของคลับไลเซนซิงประธานแดนอีสานเผยว่า "เรื่องคลับไลเซนซิงเป็นสิ่งที่เราเตือนสมาคมฟุตบอลฯมาโดยตลอด และในวันที่ 29 พ.ย. นี้ ทางเอเอฟซีจะสรุปโควต้าของแต่ละประเทศ และทำการจับสลากประกบคู่ จึงหวังว่าสมาคมฟุตบอลฯจะรับผิดชอบตามที่เคยพูด หากสโมสรได้สิทธิ์ไปแข่งแต่มีปัญหาเรื่องคลับไลเซนซิงที่ไม่เรียบร้อย ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นทางบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คงจะต้องดำเนินการฟ้องคดีแพ่ง ฐานทำให้สโมสรเสียหาย ในเรื่องของการเสียเกียรติและชื่อเสียง เป็นมูลค่าตามที่มีเหตุมีผลและเพียงพอต่อความเสียหาย เช่น เสียหายด้านสิทธิประโยชน์ที่สโมสรจะได้รับ รางวัลต่างๆตั้งแต่รอบคัดเลือกจนถึงรอบชิงชนะเลิศ รวมถึงค่าบัตรผ่านประตูที่ทางทีมควรจะได้รับ ซึ่งทุกอย่างสามารถคำนวณได้" เนวินขู่