ฝ่ายจัดการแข่งขันสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) แถลงข่าวสรุปการเดินทางมาตรวจประเมินมาตรฐานสโมสรของไทยพรีเมียร์ลีก เผยฤดูกาลนี้พัฒนาขึ้น พร้อมชม บุรีรัมย์ ไนเต็ด และ ชลบุรี เอฟซี ที่ทำผลงานได้ดีในระดับทวีป แต่ไม่การันตีว่าจะได้โควตาเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก เพิ่ม เพราะชาติอื่นพัฒนาเช่นกัน ด้าน “บังยี” วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เปรยหากฤดูกาลหน้าได้โควตาเท่าเดิม ก็ถือว่าน่าพอใจ แต่ถ้าได้เพิ่มก็ถือว่าเป็นโบนัส
“บังยี” วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ร่วมกับ “บิ๊กเปี๊ยก” องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ และ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ในฐานะฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตบอล “สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก” จัดแถลงข่าวการเดินทางมาประเมินมาตรฐานของสโมสรในไทยพรีเมียร์ลีก ที่โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอริน เมื่อวันที่ 8 กันยายน โดยมี นายสจ๊วร์ต รามาลินกัม ผอ.ฝ่ายจัดการแข่งขันสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) และ นายเฉิน เฮ่า หมิง ผู้จัดการฝ่ายการตลาดเอเอฟซี ในฐานะตัวแทนผู้ประเมินจากเอเอฟซีร่วมแถลง
นายสจ๊วร์ต กล่าวว่า การเดินทางมาประเมินในครั้งนี้ ทางเอเอฟซีเน้นเฉพาะการประเมิน 6 สโมสรในไทยลีก ประกอบด้วย 3 สโมสรที่ขึ้นชั้นมาจากลีกดิวิชัน 1 คือ บีบีซียู เอฟซี, ชัยนาท เอฟซี และ พัทยา ยูไนเต็ด ส่วนอีก 3 สโมสร ประกอบด้วย อีสาน ยูไนเต็ด, ทีทีเอ็ม เชียงใหม่ เอฟซี และ วัวชน ยูไนเต็ด ทางเอเอฟซีจะทำการประเมินต่อในเรื่องที่คั่งค้างอยู่จากฤดูกาลที่แล้ว โดยเฉพาะสนามแข่งขัน เนื่องจากทั้ง 3 ทีมมีการเปลี่ยน และปรับปรุงสนามแข่งขัน ขณะที่อีก 12 สโมสรในจะต้องส่งเอกสารข้อมูลเพิ่มเติมให้กับเอเอฟซีอย่างครบถ้วนภายในวันที่ 19 ตุลาคม จากนั้นทางเอเอฟซีจะประกาศผลการประเมิน ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ในวันที่ 27-29 พฤศจิกายน ซึ่งแต่ละสโมสรจะต้องได้ 600 คะแนน จากคะแนนเต็ม 1,000 คะแนน จึงจะผ่านประเมิน แล้วจึงค่อยนำผลไปเปรียบเทียบกับมาตรฐานของประเทศอื่นๆ ในเอเชีย เพื่อจัดโควตาเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีกต่อไป
พร้อมกล่าวต่อว่า มาตรฐานไทยลีกในฤดูกาลนี้มีการพัฒนาขึ้นจากฤดูกาลก่อนอย่างเห็นได้ชัด สโมสรต่างๆ มีโครงสร้างดีขึ้น และมีการพัฒนาสู่ภูมิภาคอย่างชัดเจน ทีมอย่างบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ ชลบุรี เอฟซี ต่างทำผลงานได้ดีในเกมระดับทวีป อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโดยรวมลีกไทยจะพัฒนาขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้โควตาเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก เพิ่มขึ้นจากเดิม เนื่องจากชาติอื่นๆ ต่างมีการพัฒนาเช่นเดียวกัน โดยคู่แข่งสำคัญของไทย คือ สิงคโปร์ และ เวียดนาม ที่ขอสมัครเข้าร่วมการประเมินในฝั่งเอเชียตะวันออกเป็นครั้งแรกในปีนี้ ข้อเสียของไทยลีก คือ ช่องว่างระหว่างสโมสรใหญ่ และสโมสรเล็ก ในเรื่องการตลาด แต่ก็ต้องขอชื่นชมทุกฝ่ายที่ช่วยทำให้วงการฟุตบอลไทยไปในทางที่ดีขึ้น” ตัวแทนเอเอฟซีทิ้งท้าย
ด้าน “บังยี” วรวีร์ มะกูดี เผยว่า เดิมแชมป์ไทยลีกจะได้โควตาผ่านเข้าไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่มเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก อัตโนมัติ ส่วนแชมป์เอฟเอคัพจะต้องไปเตะเพลย์ออฟก่อน และถ้าหากตกรอบเพลย์ออฟ จะได้สิทธิ์เล่นเอเอฟซีคัพทันที ซึ่งถ้าหากฤดูกาลหน้าได้โควตาเท่าเดิมก็ถือว่าน่าพอใจแล้ว แต่ถ้าหากผลการประเมินออกมาแล้วทำให้ไทยได้โควตาเพิ่มก็ถือว่าเป็นโบนัส เนื่องจากทุกๆ ชาติมีการแข่งขันกันสูง