กิเลนพลิกเชือดพลังเอ็มระทึก 2-1

"กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มสมราคาเต็งแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ หลังฮึดกลับมายิงเอาชนะ "พลังเอ็ม" โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี ไปได้แบบสุดมันส์ 2-1 ในศึกฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก เมื่อช่วงค่ำวันที่ 22 ก.ย. ที่ผ่านมา

ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก
เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด 2-1 โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี

เกมฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก คู่เวลา 18.30น. ที่สนามเอสซีจี สเตเดียม เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด จ่าฝูงของตารางที่กำลังนั่งนับวันถอยหลังรอชูถ้วยแชมป์ลีกอยู่ทุกขณะ เปิดบ้านต้อนรับ โอสถสถา เอ็ม 150 สระบุรี ผู้มาเยือนจากอันดับ 7 ของตาราง เกมนี้ทั้งสองทีมจำต้องเล่นกันท่ามกลางสนามที่เปียกแฉะพอสมควร เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักก่อนเกมจะเริ่มขึ้นหลายชั่วโมง

เริ่มเกมมา 7 นาที เมืองทอง ได้ฟรีคิกจังหวะ ฮิโรยูกิ นากาโมโตะ โดนใบเหลืองหลังเสียบสกัด ดานโญ เซียกา ล้มกลิ้งหน้าเขตโทษ และเป็นประตูทันทีเมื่อ อัตนัน บาราคัต เปิดบอลไปหน้าประตูให้ รี กวาง ชอน สะบัดคอโขกบอลซุกตาข่ายแบบเต็มๆ เมืองทองฯ ขึ้นนำ 1-0 ขณะที่ โอสถสภา นาที 13 เกือบตีเสมอได้ แทงเกนี ชิปาอู กระชากบอลครึ่งสนามในจังหวะสวนกลับ ก่อนแทงให้ ลาซารัส คาอิมบี ลากเข้าไปยิงผ่าน กวิน ธรรมสัจจานันท์ ไปแล้ว แต่บอลเหินข้ามคานไปนิดเดียว

แต่แล้วนาที 16 คู่หูกองหน้าของ “พลังเอ็ม” มาแก้ตัวได้สำเร็จในจังหวะสวนกลับเร็ว ชิปาอู เล่นชิ่งกับ คาอิมบี ก่อนจัดการซัดบอลเข้าไปที่เสาสองดังซวบ ไล่ตีเสมอเป็น 1-1 ส่วนนาที 22 กิเลนผยอง ได้โอกาสซัดประตูสองจังหวะซ้อน จากลูกยิงของ จักรพันธ์ พรใส และ ธีรศิลป์ แดงดา แต่แนวรับของโอสถสภา ช่วยกันบล็อคลูกยิงของทั้งคู่ได้หมด

หลังตีเสมอได้ เกมดำเนินไปอย่างจืดชืด นาที 38 ธีรศิลป์ สบโอกาส ไหลสั้นๆหน้าประตูให้ อัตนัน วิ่งมากดด้วยขวาเต็มข้อ แต่กองหลังทีมเยือนเข้ามาบล็อคไว้ได้ทัน นาที 43 โอสถสภา เกือบทำเซอร์ไพรซ์ยิงขึ้นนำจากลูกฟรีคิกของ อภิภู สุนทรพนาเวส บอลเกือบพุ่งเข้าสามเหลี่ยมมุมเสาไกล แต่ กวิน ซูเปอร์เซฟ บินไปปัดไว้ได้ จบครึ่งแรก เสมอกันไปก่อน 1-1

ครึ่งหลัง กลายเป็น โอสถสภา ที่เปิดเกมบุกใส่เจ้าบ้านอย่างดุดัน แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่เฉียบคมพอ ร้อนถึง สลาวิซา โยคาโนวิช ต้องแก้เกมส่ง พิชิตพงษ์ เฉยฉิว และ เปาโล รังเคล ลงสนามมาแทนที่ของ ธฤติ โนนศรีชัย และ อัตนัน ที่แทบจะหายไปจากเกม สถานการณ์ดีขึ้นเล็กน้อย แต่ยังบวกประตูกันเพิ่มไม่ได้ จากนั้นมีแฟนบอลเจ้าถิ่น “บางกลุ่ม” ปาก้อนน้ำแข็งใส่ศรีษะของ ฉัตรชัย บุตรพรม เล่นเอาเกมต้องหยุดอยู่พักหนึ่ง ก่อนกลับมาเล่นกันอีกครั้ง

นาที 67 โอสถสภา เกือบได้ประตูขึ้นนำ ชิปาอู ประสานงานกับ คาอิมบี ขึ้นมาแดนหน้าของเมืองทองฯ อีกครั้ง และเป็น ชิปาอู ที่ได้ซัดจังหวะสุดท้ายแต่บอลไม่ตรงกรอบ ถัดมาอีก 2 นาที มาริโอ ยูรอฟสกี ได้ทีส่องให้ เมืองทอง หน้าประตูบ้าง แต่บอลเหินข้ามคานแบบไม่ได้ลุ้น ต่อมานาที 73 จักรพันธ์ พรใส เกือบขวิดให้ เมืองทอง นำเช่นกัน แต่บอลหลุดเสาไปนิดเดียว

พยายามอยู่นาน ในที่สุด นาที 77 เจ้าถิ่นก็มายิงหนีเป็น 2-1 จนได้ จังหวะ รังเคล จับบอลยาวหน้าเขตโทษแบบไม่ล้ำหน้า ก่อนสับไกติดเซฟของ ฉัตรชัย แต่เคราะห์ดีบอลเด้งเข้าประตูไปในที่สุด แต่จากนั้นเกมก็ต้องหยุดอีกครั้งเมื่อ รังเคล เจอศอกของผู้เล่น โอสถสภา แบบเต็มรักลงไปนอนกองคาสนาม จนต้องโดนหามออกในเวลาต่อมา

ใกล้จบเกม มีผู้เล่นเมืองทอง โดนทำฟาล์วล้มในสนาม แต่ผู้เล่นของโอสถสภาอย่าง คาอิมบี ไม่หยุดเล่นบอล ทำให้นักเตะเมืองทอง ต้องวิ่งมาสกัดบอลออก ผู้ตัดสินเดินมาชักใบเหลืองให้ คาอิมบี เป็นการตักเตือน ทว่าเจ้าตัวมีปากเสียงกับผู้ตัดสินต่อ เชิ้ตดำไม่รอช้าชูใบแดงไล่ออกจากสนามไปทันที ทำให้ทีมเยือนเหลือผู้เล่น 10 คน อย่างไรก็ตาม ช่วงท้ายไม่มีใครยิงได้ จบเกม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี ไป 2-1

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีม
เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด : กวิน ธรรมสัจจานันท์, ภานุพงศ์ วงษ์ศา, รี กวาง ชอน, ธฤติ โนนศรีชัย, มงคล นามนวด, สารัช อยู่เย็น, จักรพันธ์ พรใส, ดานโญ เซียกา, มาริโอ ยูรอฟสกี, อัตนัน บาราคัต, ธีรศิลป์ แดงดา
โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี : ฉัตรชัย บุตรพรม, เกรียงศักดิ์ ชุมพรผ่อง, บุญมี บุญรอด, ฮิโรยูกิ นากาโมโตะ, ฮิโรมิจิ คาตาโนะ, ศราวุฒิ จตุรภัทร, กอบเดช ชอบมโนธรรม, เจษฏา พั่วนะคุณมี, อภิภู สุนทรพนาเวศ, ลาซารัส คาอิมบี, แทงเกนี ชิปาอู

ผลการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก วันเสาร์ที่ 22 กันยายน 2555
เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด 2-1 โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี
วัวชน ยูไนเต็ด 2-1 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ชลบุรี เอฟซี 3-1 อาร์มี ยูไนเต็ด
พัทยา ยูไนเต็ด 2-0 บีบีซียู เอฟซี