เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผยยังมีความหิวกระหายที่จะคว้าแชมป์ยุโรปให้ได้ 5 สมัยเทียบเท่า ลิเวอร์พูล ทำไว้สูงสุดบนเกาะอังกฤษ หลังผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาล 2012-13 เรียบร้อยแล้ว
เมื่อคืนวันพุธที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แมนฯยูไนเต็ด แชมป์ 3 สมัย บุกไปพลิกชนะ บรากา 3-1 จากประตูของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี นาที 80 เวย์น รูนีย์ จุดโทษนาที 84 และ ฮาเวียร์ เฮร์นานเดซ นาที 90+2 ทำให้มีเพิ่มเป็น 12 แต้มจาก 4 นัดคว้าแชมป์กลุ่ม เอช แน่นอนแล้ว โดย ซีเอฟอาร์ คลูจ ที่แพ้ กาลาตาซาราย 1-3 วันเดียวกันมี 4 แต้มเท่ากัน ขณะที่เหลืออีก 2 นัดเท่านั้น
หลังเกม เซอร์ อเล็กซ์ กุนซือที่พา แมนฯยู เป็นทีมเดียวที่ชนะรวด 100 เปอร์เซนต์ เผยว่า "สโมสรเรามีประวัติศาสตร์และควรที่จะคว้าแชมป์ให้ได้มากขึ้นเรื่อยๆ ผมต้องการเทียบ ลิเวอร์พูล คู่แข่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา รวมถึง บาเยิร์น มิวนิค และ อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม (เท่ากัน 4 สมัย) ส่วน เอซี มิลาน และ รีล มาดริด ค่อนข้างจะห่างกัน แต่แน่นอนยังเหมือนเป็นแรงผลักดันเล็กๆ"
"ผมผิดหวังเมื่อคิดเกี่ยวกับโอกาสที่มีเพื่อขึ้นไปคว้าแชมป์ แต่คุณไม่สามารถไปแสดงความละโมบอะไรได้มาก เพราะเมื่อดูจากเส้นทางคุมทัพของผมได้ถ้วยยุโรป 2 ใบและ คัพ วินเนอร์ส คัพ ก็ถือเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจแล้ว" นายใหญ่ชาวสกอตต์ ทิ้งท้าย โดยระหว่างปี 2008-2011 แมนฯยู เข้าชิงถ้วยใบใหญ่สุดถึง 3 ครั้งแต่คว้าแชมป์มาครองได้ครั้งเดียว
ส่วน ไมค์ ฟีแลน ผู้ช่วย เซอร์ อเล็กซ์ ปลื้มที่ปีนี้เข้ารอบแต่หัววัน แก้ตัวจากฤดูกาลที่แล้วที่ร่วงรอบแบ่งกลุ่ม "ความตั้งใจปีนี้ของเราคือผ่านเข้ารอบให้เร็วที่สุด หลังผิดหวังเมื่อปีที่แล้ว ผู้เล่นและสต๊าฟฟ์ทุกคนรู้ซึ้งดีและคิดว่าแฟนๆ ก็ต้องการปฎิกิริยาเช่นนี้"