“บีงยี” วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย จ่อโดนโทษหนัก หลังเบี้ยวไม่มาตามคำเชิญของคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา หลายครั้ง จึงทำให้ที่ประชุมมีมติเตรียมใช้พระราชบัญญัติ คำสั่งเรียกฯ “เจ๊มล” นฤมล ศิริวัฒน์ ในฐานะประธาน เผย หากยังไม่มาอีกโทษปรับเงิน หรือถึงขั้นจำคุก
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม 2555 ณ ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ 309 อาคารรัฐสภา 2 เวลา 10.00 น.ได้มีการประชุมคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา (กมธ.ส.ว.) เรื่องพิจารณาการเตรียมความพร้อมในการจัดการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 โดยก่อนหน้านี้ นางนฤมล ศิริวัฒน์ ประธาน กมธ.ส.ว.ได้ส่งหนังสือเชิญ นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เข้าร่วมชี้แจง ปรากฏว่า ในวันและเวลาดังกล่าวทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมแทน จึงทำให้ทางคณะกรรมาธิการตัดสินใจไม่รับฟังคำชี้แจง และมีการประชุมภายในเพื่อหาแนวทาง โดยหลังการประชุม นางนฤมล ศิริวัฒน์ ได้เผยว่า ทาง กมธ.ส.ว.มีมติให้ใช้พระราชบัญญัติ คำสั่งเรียก พ.ศ.2554 เนื่องจากเห็นว่าได้ทำการเชิญนายวรวีร์หลายครั้งแล้ว แต่ไม่เคยมาชี้แจง
“ทางคณะกรรมาธิการได้เชิญ คุณวรวีร์ มะกูดี ในฐานะนายกสมาคมฟุตบอลฯเข้าร่วมชี้แจงรวมวันนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว ซึ่งในวันนี้ทางสมาคมได้เป็นคนนัดวันและเวลาเองว่าจะมาเข้าร่วมประชุมในวันที่ 25 ต.ค.เวลา 11.00-12.00 น.แต่ปรากฏว่า คุณวรวีร์ ได้ส่งหนังสือมาขอเลื่อนเป็นเวลา 15.30 น.ของวันเดียวกันแทน โดยให้เหตุผลว่า ติดธุระไม่สามารถมาได้ ซึ่งปกติแล้วทางคณะกรรมาธิการไม่เคยประชุมกันในเวลา 15.30 น.จึงเป็นไปไม่ได้” ประธาน กมธ.ส.ว.เผย
นางนฤมล กล่าวต่อว่า “และที่สำคัญ ทางคุณวรวีร์ได้หลีกเลี่ยงโดยไม่มีเหตุอันควร ทางคณะกรรมาธิการจึงมีมติว่าควรจะต้องใช้พระราชบัญญัติคำสั่งเรียก พ.ศ.2554 ตามอำนาจที่เรามี ส่วนจะใช้อย่างไรนั้น ทางคณะกรรมาธิการจะมีการประชุมกันอีกทีในวันจันทร์ที่ 29 ต.ค.นี้ เพราะกรณีนี้ถือเป็นเคสแรกที่ต้องใช้ พ.ร.บ.คำสั่งเรียกตั้งแต่ที่มีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมา ส่วนโทษที่จะได้รับหากไม่ทำตาม พ.ร.บ.มีตั้งแต่ปรับเงิน จำคุก หรือทั้งจำทั้งปรับ”
พร้อมกันนี้ “เจ๊มล” ยังฝากทิ้งท้ายไปถึง นายวรวีร์ มะกูดี ด้วยว่า “ทางคณะกรรมาธิการต้องการเชิญคุณวรวีร์มาชี้แจงเท่านั้น ไม่ได้มีเหตุประสงค์ร้ายใดๆ อยากจะให้เข้ามาช่วยชี้แจงถึงข้อบกพร่องไม่ใช่แค่สนาม แต่รวมถึงการจัดการแข่งขันด้วย เพื่อที่จะใช้เป็นกรณีศึกษาต่อไป และที่ทางคุณวรวีร์ให้สัมภาษณ์เหมือนกับว่าเราจ้องจะเล่นงานนั้น อยากจะบอกว่ามันเป็นหน้าที่ของคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา ที่จะต้องตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริงเท่านั้น”