“เจ๊มล” นางนฤมล ศิริวัฒน์ ประธานคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา เตรียมจี้หาผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบกรณีที่สนามบางกอก ฟุตซอล อารีน่า (หนองจอก) ไม่สามารถสร้างเสร็จทันกำหนดพิธีเปิดการแข่งขันศึกฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 ในระหว่างวันที่ 1-18 พฤศจิกายนนี้ได้ ชี้ต้องรับผิดชอบทุกฝ่ายไม่ใช่หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงอำนาจหน้าที่ของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในการเป็นผู้แต่งตั้งคณะกรรมการฝ่ายจัดการแข่งขัน
เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2555 ณ ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ หมายเลข 309 ชั้น 3 อาคารรัฐสภา 2 ได้มีการประชุมคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา ระเบียบวาระเรื่องพิจารณาผลคืบหน้าการเตรียมความพร้อมจัดการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 โดยมี นางนฤมล ศิริวัฒน์ เป็นประธาน พร้อมด้วย ดร.เสกสรร นาควงศ์ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และตัวแทนจากสำนักงบประมาณเข้าชี้แจง
การประชุมครั้งนี้ ทาง กมธ.กีฬา วุฒิสภา ได้ทำการเชิญ นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เข้าร่วมชี้แจ้ง แต่ “บังยี” แจ้งกลับมาว่า ติดรับแขกจากต่างประเทศจึงไม่สามารถเดินทางมาร่วมประชุมได้แต่อย่างใด โดยในที่ประชุม นางสาวอมรวดี จักรไพวงศ์ ตัวแทนสำนักงบประมาณ ได้เผยว่า จัดสรรงบเรียบร้อย ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด “ทางสำนักงบประมาณได้ทำการจัดสรรงบในการก่อสร้างสนามจำนวน 1,239 ล้านบาท เป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่การปีงบประมาณ พ.ศ.2555 จึงไม่มีปัญหาในส่วนนี้แต่อย่างใด แต่การเบิกจ่ายหรือการทำขั้นตอนอื่นๆ นั้น ทางกรุงเทพมหานครเป็นผู้จัดด้วยตนเอง” พร้อมเผยว่า ช่วงก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ไม่เคยมีหนังสือเชิญจากคณะกรรมการฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตซอลโลก ให้สำนักงบประมาณเข้าร่วมประชุมแต่อย่างใด
ภายหลังการประชุม นางนฤมล ศิริวัฒน์ ได้เผยว่า “ตอนนี้เรารู้แล้วว่าปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายเงินล่าช้านั้นไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานสำนักงบประมาณแต่อย่างใด ส่วนท่านเสกสรรที่มาชี้แจงในวันนี้นั้นไม่ได้เป็นผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบงานโดยตรงจึงไม่ได้ข้อมูลอะไรมาก”
“แต่จากนี้ทางคณะกรรมการจะเร่งตรวจสอบหาผู้มีส่วนรับผิดชอบในการที่สนามหนอกจอกก่อสร้างไม่ทันกำหนด ซึ่งทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันรับผิดชอบ ไม่ใช่หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง โดยจะเสนอไปให้ทางรัฐบาลตรวจสอบ หรือถ้าไม่ได้ผลก็จะไปที่สำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งอยากจะให้มั่นใจว่าเราจะทำอย่างเต็มที่และไม่ได้เป็นการจี้จับผิดใครแต่อย่างใด แต่เพื่อเป็นเคสศึกษาสำหรับเป็นกรณีตัวอย่างในการจัดงานระดับโลกครั้งต่อไป”
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังมีการตั้งข้อสังเกตถึงอำนาจของสมาคมฟุตบอลฯในการแต่งตั้งคณะกรรมการฝ่ายจัดการแข่งขัน โดยกล่าวว่า คณะกรรมการฝ่ายจัดการแข่งขันน่าจะเป็นเรื่องที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นผู้จัดตั้งด้วยตนเอง เพราะมีอำนาจ จึงไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงกลายเป็นสมาคมฟุตบอลฯที่มีอำนาจน้อยกว่าเป็นคนแต่งตั้ง และที่สำคัญ หลายฝ่ายในฝ่ายจัดฯมีตำแหน่งที่สูงจึงส่งผลกระทบต่อการรว่มมือกันในการทำงาน
โดยในสัปดาห์หน้า (18 ต.ค.) จะเชิญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องการจัดการแข่งขันฟุตซอลโลกทั้งหมดเข้าชี้แจง