อลัน สมิธ ที่หากเดินสวนกันตอนนี้หลายคนอาจจะจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่าเคยเป็นถึงอดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปจากจุดสูงสุดค้าแข้งให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตอนนี้เล่นให้ มิลตัน คีนส์ ดอนส์ แต่เจ้าตัวก็เข้าใจโลก และรับได้กับถึงสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปจากหน้ามือเป็นหลังมือถึงขนาดวันหนึ่งยังตื่นขึ้นมานึกว่าตัวเองอายุ 52 ปีเลยด้วยซ้ำ
ฤดูกาลนี้ สมิธ ย้ายมาเล่นให้กับ มิลตัน คีนส์ ดอนส์ ต้นสังกัดประจำ ลีก วัน แบบถาวร หลังยืมมาจาก นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปี 2012 ถือเป็นช่วงปลายอาชีพของนักเตะวัย 31 ปีที่เคยรุ่งโรจน์ติดทีมชาติอังกฤษ 19 นัดเล่นให้กับ แมนฯยูไนเต็ด ในศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก และเคยคว้าแชมป์ พรีเมียร์ชิป 1 สมัยฤดูกาล 2006-07
สมิธ เริ่มต้นค้าแข้งกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ปี 1998 แต่จุดเปลี่ยนในชีวิตเกิดขึ้นคือวันที่ 18 กุมภาพันธ์ปี 2006 ยังคงติดแน่นอยู่ในหัวสมองเมื่อพุ่งขวางลูกยิงของ จอห์น อาร์เน รีเซ แบ็กซ้ายที่ตอนนั้นเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล เกม เอฟเอ คัพ ที่ แอนฟิลด์ จนลงผิดท่าข้อเท้าหัก
สมิธ ที่ตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปทั้งหน้าตาและทรงผม กล่าวว่า “ถ้าหากคุณเห็นผมตอนเช้าคงจะต้องคิดว่ากำลังอายุครบ 52 ในเดือนหน้าแน่ๆ ทั้งที่ใกล้แตะหลัก 32 เท่านั้นเอง แต่ใครที่ทุ่มเทให้กับกีฬาก็มักจะต้องผ่านเรื่องแบบนี้ ทุกคนประสบปัญหาอาการบาดเจ็บ แต่ก็ทำให้คุณนึกถึงทุกสิ่งเกี่ยวกับกีฬา”
“จุดเปลี่ยนสำคัญ คือ อาการบาดเจ็บรุนแรงที่ แอนฟิลด์ ทำให้ไม่สามารถเล่นฟุตบอลในระดับสูงสุดได้อีกแล้วและอาจจะรวมถึงทุกระดับ เมื่อมองย้อนกลับไปอาการเจ็บก็ทำให้ผมเป็นคนที่แกร่งกว่าเดิม ไม่ใช่ในฐานะนักฟุตบอล แต่ข้อเท้าซ้ายก็แตกต่างจากข้างขวา 70 เปอร์เซนต์ ตอนนี้ผมโตขึ้นเข้าใจมากขึ้น และพยายามทำให้ชีวิตนักเตะที่ยังเหลือยืดยาวที่สุด” สมิธ ทิ้งท้าย