คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
เมื่อเดือนที่แล้วแฟนมวยชาวไทยไม่มากก็น้อยคงได้ร่วมชมถ่ายทอดสดการชก “ไทย ไฟต์” ส่งตรงจาก คิง พาวเวอร์ สเตเดียม ที่เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ พร้อมกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมามากมายพอสมควร จากนั้นไม่กี่อึดใจวันพุธที่ 19 กันยายนที่ผ่านมาก็ได้มีศึกแลกแข้งแม่ไม้มวยไทยนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง โดยโยกไปจัดกันที่เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งก็มีการยิงสัญญาณสดๆ กลับมาเมืองไทยเช่นเดิม
คราวนี้ขวัญใจอย่าง บัวขาว ป.ประมุข ไม่มีโปรแกรมขึ้นชก แต่ก็มีนักมวย “ไทย ไฟต์” ชื่อคุ้นๆ หูแฟนมวยทั้ง สุดสาคร ไทรโยค หรือ เอกประชา แต่คู่ที่ทุกคนให้ความสนใจที่สุดน่าจะเป็น สิงห์มณี แก้วสัมฤทธิ์ พบกับ เบนุย ฮูซิเน คู่ปรับเก่าชาวฝรั่งเศส ซึ่งเพิ่งพบกันไปเมื่อเดือนที่แล้วที่สนามของสโมสร เลสเตอร์ ซิตี และ สิงห์มณี ชนะคะแนนไปท่ามกลางข้อครหา ทางทีมงานเลยจัดให้มาล้างตากันอีกครั้ง
งวดนี้ สิงห์มณี ทำได้ดีขึ้น ขยันออกอาวุธ แต่ก็มีแต่แข้งซ้ายเป็นหลักและยังติดการรักษารูปมวยแบบนักชกไทยทั่วๆ ไป ยืนสง่าตีหน้าขรึมไว้ก่อน ส่วนทาง เบนุย นั้นเดินชวนทะเลาะไม่เลิก แถมออกอาวุธได้ครบเครื่องกว่าและมีลูกศอกกลับ 2-3 ครั้ง แม้ไม่โดนแต่ก็ฮือฮา จะว่ากันไปก็ถือว่าวืดวาดเสียรูปมวยทว่าก็ต้องชมเรื่องความขยัน สุดท้ายชกกันครบ 3 ยกกรรมการให้นักมวยจากเมืองน้ำหอมแก้มือได้สำเร็จ แต่ก็ยังค้านสายตาอีกหลายคน ไม่แน่นะครับคู่นี้อาจมีภาค 3 ก็เป็นได้ เว้นแต่ทาง “ไทย ไฟต์” เห็นว่าจะเข็นไม่ไหวแล้ว เพราะสรุปแล้วทั้ง 2 ไฟต์ที่ไปชกต่างแดนเด็กเราทำได้ไม่ประทับใจ เอาแต่คุมรูปมวย ไม่ขยันออกอาวุธ ไม่เข้าตาครับ
แต่คู่อื่นๆ ก็ได้อรรถรสไม่น้อยทั้ง อาร์มิน พุ่มพันธ์ม่วง ก็ลุยกับนักชกฝรั่งเศสตั้งแต่ยกแรก ชกไปชกมาดันหมดแรงซะงั้น แต่ยังดีได้จังหวะฟันศอกจนคู่ต่อกรแตกยับถูกจับแพ้ไปในยกสอง ในขณะที่ ซูเปอร์เอ็กซ์ ส.กลิ่นมี ขึ้นมาลุยกับนักชกอิตาลีอย่างสนุก แต่พลาดท่าโดนศอกแตกและโดนหมัดเข้าเต็มๆ ออกอาการมึน กรรมการเลยจับแพ้ไปในยกสองเช่นกัน ไทรโยค พุ่มพันธ์ม่วง ลุยกับ ฟาบิโอ ปินก้า แชมป์ “ไทย ไฟต์” 2010 เป็นคู่เอก ไทรโยค ก็ไม่ทำให้แฟนมวยชาวไทยผิดหวังดักเตะเอาชนะไปได้ สุดสาคร ส.กลิ่นมี สร้างชื่อมาดีมาไฟต์นี้พลาดท่าโดนศอกแตกถูกจับแพ้ไปอีกราย สุดท้าย เอกประชา มีนะโยธิน เดินชนแลกอาวุธกับนักชกน้ำหอมอีกรายอย่างสนุกและเอาชนะไปได้อย่างประทับใจ
คราวนี้ทางทีมงานผู้บรรยายรวมทั้งพี่มาดเหน่อเสน่ห์ของเรา พยายามออกตัวมาก ว่ากรรมการเป็นเรื่องของทางฝรั่งเศสจัดมา ทีมงานไม่มีส่วนในการจัดกรรมการและพยายามเน้นว่าให้แฟนมวยทำใจเรื่องการให้คะแนน ก็ขอเรียนด้วยความเคารพว่าแฟนมวยน่ะเขาเปิดใจกันแล้วและอยากเห็นการให้คะแนนมวยเดิน มวยขยันออกอาวุธ และมวยออกอาวุธหลากหลายอยู่แล้ว ไม่ใช่มวยรักษาทรงอย่างเดียว แค่นี้ “ไทย ไฟต์” ก็จะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง จริงๆ แล้วคราวนี้ที่แฟนมวยก็มีคาใจเรื่องจับแพ้แตกว่าง่ายไปหรือเปล่า แต่ดูกันจริงๆ ก็แผลฉกรรจ์พอสมควรเลือดไหลไม่หยุด เซฟนักมวยไว้ก่อนก็ดีแล้ว ผมว่าคราวนี้มาถูกทางแล้วนะครับ
เมื่อเดือนที่แล้วแฟนมวยชาวไทยไม่มากก็น้อยคงได้ร่วมชมถ่ายทอดสดการชก “ไทย ไฟต์” ส่งตรงจาก คิง พาวเวอร์ สเตเดียม ที่เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ พร้อมกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมามากมายพอสมควร จากนั้นไม่กี่อึดใจวันพุธที่ 19 กันยายนที่ผ่านมาก็ได้มีศึกแลกแข้งแม่ไม้มวยไทยนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง โดยโยกไปจัดกันที่เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งก็มีการยิงสัญญาณสดๆ กลับมาเมืองไทยเช่นเดิม
คราวนี้ขวัญใจอย่าง บัวขาว ป.ประมุข ไม่มีโปรแกรมขึ้นชก แต่ก็มีนักมวย “ไทย ไฟต์” ชื่อคุ้นๆ หูแฟนมวยทั้ง สุดสาคร ไทรโยค หรือ เอกประชา แต่คู่ที่ทุกคนให้ความสนใจที่สุดน่าจะเป็น สิงห์มณี แก้วสัมฤทธิ์ พบกับ เบนุย ฮูซิเน คู่ปรับเก่าชาวฝรั่งเศส ซึ่งเพิ่งพบกันไปเมื่อเดือนที่แล้วที่สนามของสโมสร เลสเตอร์ ซิตี และ สิงห์มณี ชนะคะแนนไปท่ามกลางข้อครหา ทางทีมงานเลยจัดให้มาล้างตากันอีกครั้ง
งวดนี้ สิงห์มณี ทำได้ดีขึ้น ขยันออกอาวุธ แต่ก็มีแต่แข้งซ้ายเป็นหลักและยังติดการรักษารูปมวยแบบนักชกไทยทั่วๆ ไป ยืนสง่าตีหน้าขรึมไว้ก่อน ส่วนทาง เบนุย นั้นเดินชวนทะเลาะไม่เลิก แถมออกอาวุธได้ครบเครื่องกว่าและมีลูกศอกกลับ 2-3 ครั้ง แม้ไม่โดนแต่ก็ฮือฮา จะว่ากันไปก็ถือว่าวืดวาดเสียรูปมวยทว่าก็ต้องชมเรื่องความขยัน สุดท้ายชกกันครบ 3 ยกกรรมการให้นักมวยจากเมืองน้ำหอมแก้มือได้สำเร็จ แต่ก็ยังค้านสายตาอีกหลายคน ไม่แน่นะครับคู่นี้อาจมีภาค 3 ก็เป็นได้ เว้นแต่ทาง “ไทย ไฟต์” เห็นว่าจะเข็นไม่ไหวแล้ว เพราะสรุปแล้วทั้ง 2 ไฟต์ที่ไปชกต่างแดนเด็กเราทำได้ไม่ประทับใจ เอาแต่คุมรูปมวย ไม่ขยันออกอาวุธ ไม่เข้าตาครับ
แต่คู่อื่นๆ ก็ได้อรรถรสไม่น้อยทั้ง อาร์มิน พุ่มพันธ์ม่วง ก็ลุยกับนักชกฝรั่งเศสตั้งแต่ยกแรก ชกไปชกมาดันหมดแรงซะงั้น แต่ยังดีได้จังหวะฟันศอกจนคู่ต่อกรแตกยับถูกจับแพ้ไปในยกสอง ในขณะที่ ซูเปอร์เอ็กซ์ ส.กลิ่นมี ขึ้นมาลุยกับนักชกอิตาลีอย่างสนุก แต่พลาดท่าโดนศอกแตกและโดนหมัดเข้าเต็มๆ ออกอาการมึน กรรมการเลยจับแพ้ไปในยกสองเช่นกัน ไทรโยค พุ่มพันธ์ม่วง ลุยกับ ฟาบิโอ ปินก้า แชมป์ “ไทย ไฟต์” 2010 เป็นคู่เอก ไทรโยค ก็ไม่ทำให้แฟนมวยชาวไทยผิดหวังดักเตะเอาชนะไปได้ สุดสาคร ส.กลิ่นมี สร้างชื่อมาดีมาไฟต์นี้พลาดท่าโดนศอกแตกถูกจับแพ้ไปอีกราย สุดท้าย เอกประชา มีนะโยธิน เดินชนแลกอาวุธกับนักชกน้ำหอมอีกรายอย่างสนุกและเอาชนะไปได้อย่างประทับใจ
คราวนี้ทางทีมงานผู้บรรยายรวมทั้งพี่มาดเหน่อเสน่ห์ของเรา พยายามออกตัวมาก ว่ากรรมการเป็นเรื่องของทางฝรั่งเศสจัดมา ทีมงานไม่มีส่วนในการจัดกรรมการและพยายามเน้นว่าให้แฟนมวยทำใจเรื่องการให้คะแนน ก็ขอเรียนด้วยความเคารพว่าแฟนมวยน่ะเขาเปิดใจกันแล้วและอยากเห็นการให้คะแนนมวยเดิน มวยขยันออกอาวุธ และมวยออกอาวุธหลากหลายอยู่แล้ว ไม่ใช่มวยรักษาทรงอย่างเดียว แค่นี้ “ไทย ไฟต์” ก็จะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง จริงๆ แล้วคราวนี้ที่แฟนมวยก็มีคาใจเรื่องจับแพ้แตกว่าง่ายไปหรือเปล่า แต่ดูกันจริงๆ ก็แผลฉกรรจ์พอสมควรเลือดไหลไม่หยุด เซฟนักมวยไว้ก่อนก็ดีแล้ว ผมว่าคราวนี้มาถูกทางแล้วนะครับ
