โจ ฮาร์ท ผู้รักษาประตูของ แมนเชสเตอร์ ซิตี ต้องต่อสู้กับความผิดหวัง หลังเพื่อนร่วมทีม เสีย 2 ประตู ในช่วงท้ายเกม ส่งผลให้พ่ายแพ้ต่อ เรอัล มาดริด แบบหวุดหวิด 2-3 ในศึกยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดเปิดสนาม เมื่อคืนอังคารที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา
แมนฯ ซิตี ลงประเดิมสนามในศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก กับ “ราชันชุดขาว” โดยเป็นฝ่ายออกนำ 1-0 ในนาทีที่ 68 จากการยิงของ เอดิน เซโก ตัวสำรองที่ถูกส่งลงมาแทน ดาบิด ซิลบา ก่อนที่ มาร์เซโล ฟูลแบ็คบราซิลเลียน จะตามตีเสมอเป็น 1-1 ในอีก 8 นาทีต่อมา
จากนั้น “เรือใบสีฟ้า” ทำท่าว่าจะเก็บ 3 คะแนน ออกจากถิ่น ซานติอาโก เบอร์นาบิว เมื่อ อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ ซัดฟรีคิกให้ทีมขึ้นนำ 2-1 ในช่วง 5 นาทีสุดท้าย ทว่า ลูกทีมของ โรแบร์โต มันชินี กลับถูกทีเด็ดของ คาริม เบนเซมา ซัดตีเสมอในนาทีที่ 87 ก่อนที่ คริสเตียโน โรนัลโด จะมาพังประตูชัยในนาทีที่ 90
นายทวารวัย 25 ปี กล่าวว่า คุณไม่ควรจะกลับออกไปจากที่นี่ในฐานะผู้แพ้ เมื่อเป็นฝ่ายนำอยู่ 2-1 ในช่วง 5 นาทีสุดท้าย เราควรจะตำหนิใครนะหรือ ? เราต้องโทษตัวเอง พวกเขาเป็นทีมที่แข็งแกร่ง เราก็เช่นเดียวกัน เราเป็นฝ่ายขึ้นนำถึง 2 ครั้ง แต่เราแพ้ ดังนั้น เราจึงทำได้แค่โทษตัวเราเอง”
“มันเป็นเรื่องยากที่จะเดินออกจากสนาม หลังพ่ายแพ้ 2-3 และมองโลกในแง่ดี ผมรู้สึกผิดหวังจริงๆ เราไม่ใช่ทีมที่จะมาที่นี่ และตบไหล่ตัวเอง พร้อมกับพูดว่า เราทำได้ดีแล้ว เราเป็นทีมที่ต้องการชัยชนะ” นายด่านทีมชาติอังกฤษ ทิ้งท้าย