คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
ช่วงนี้มีมวยสากลอาชีพระดับโลกให้คุยกันหลายเรื่องหน่อยนะครับ อย่างเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (16 ก.ย.) ชาเวซ จูเนียร์ ลูกชายยอดนักชกระดับตำนานอย่าง ฮูลิโอ เซซาร์ ชาเวซ ก็ขึ้นชกป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นมิดเดิลเวต (168 ปอนด์) ของสภามวยโลก กับเจ้าของตำแหน่งคนเดิม เซร์จิโอ มาร์ติเนซ ซึ่งก็ปรากฏว่าไม่ได้เลือดพ่อมาแม้แต่น้อย โดนไล่ดักต่อยจนจมูกและคิ้วแตกยับ โดยทำอะไรผู้ท้าชิงแทบไม่ได้เลย มีได้ลุ้นเล็กๆ ก็ช่วงท้ายยก 12 เมื่อสามารถส่งลงไปกองกับพื้นได้ แต่ก็แค่นั้น เพราะ 11 ยกแรกนั้น ตามหลังสุดกู่ คะแนนแพ้ขาดไม่ต้องลุ้น
ก่อนหน้านี้ ก็มีข่าวเรื่องไฟต์ต่อไปของ แมนนี ปาเกียว ว่า จะขึ้นชกกับ ฮวน มานูเอล มาร์เกซ คู่ปรับเก่าที่พบกันมาแล้วถึง 3 ครั้งด้วยกัน โดยคาดว่า ภาค 4 นี้จะระเบิดขึ้นในวันที่ 8 ธันวาคมปีนี้ (ซึ่งก็จะตรงกับเมืองไทยสายๆ วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม) ก็นับว่าทำให้แฟนมวยแปลกใจไม่น้อย เพราะหลายคนเชื่อว่า “เดอะ แพ็คแมน” น่าจะอยากแก้มือกับ ติโมธีย์ แบร็ดลีย์ นักชกอเมริกัน ที่แพ้มาแบบค้านสายตาคนในวงการมวยทั่วโลกมากกว่า จนถึงขนาดอัยการประจำรัฐเนวาดา ต้องทำการสอบสวนว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลหรือเปล่า (ซึ่งก็สรุปว่าไม่มีนะครับ ไม่มีใบสั่งว่างั้น)
ทางฝ่าย แบร็ดลีย์ เองก็ดูจะผิดหวังกับการที่ ปาเกียว เสี่ยงพวงมาลัยไปที่ มาร์เกซ แทนที่จะมาฟาดปากกับตัวเองอีกรอบให้หายกังขา จนขนาดที่กำปั้นสหรัฐฯออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ปาเกียว เป็นพวก “ขี้ขลาด” ไม่ได้ว่าครั้งเดียวนะครับ ย้ำถึง 4-5 ครั้งเลยทีเดียว โดยบอกว่าเขาเป็นแชมป์ เอาชนะนักชกฟิลิปปินส์ ที่ว่ากันว่าดีที่สุดในโลก ถ้าเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ ดังนั้น ควรอยากจะมาแก้มือมากกว่าจะไปเจอกับคู่ชกที่เจอกันมาถึง 3 ครั้งแล้ว นอกจากนั้น ยังบอกอีกว่าคงจะรู้ตัวดีว่า ถ้ามาเจอกับเขาตอนนี้ที่มีขาสมบูรณ์ทั้ง 2 ข้าง (ไฟต์ที่แล้ว แบร็ดลีย์ อ้างว่าตัวเองขาแพลงตั้งแต่ยกต้นๆ ทำให้เคลื่อนตัวไม่สะดวก แต่ยังชนะได้) คงจะต้องอ่วมกว่านี้แน่นอน เลยไม่กล้าประจันหน้าอีกครั้ง
ทางฝ่าย ปาเกียว ยังไม่ออกมาตอบโต้ เพียงแต่ เฟรดดี โรช เทรนเนอร์ส่วนตัว ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า การพบกับ มาร์เกซ ครั้งนี้ แม้จะเป็นภาค 4 แต่ก็ถือว่าเจอศึกหนัก เพราะรู้ทางกันเป็นอย่างดีและรู้วิธีที่จะเล่นงาน ปาเกียว เป็นอย่างดีอยู่แล้ว ซึ่งเขาจะต้องทำการบ้านหนักมากขึ้นสำหรับการเจอกันครั้งนี้
ผมว่าเรื่องของเรื่องก็คือ ศึก “ปาเกียว-แบร็ดลีย์” นั้น ทาง แบร็ดลีย์ จะโม้อย่างไรก็ตาม ทาง ปาเกียว น่าจะพูดได้เสมอว่าคนทั้งโลกก็เห็นว่าใครแพ้ใครชนะ ในขณะที่ศึก “ปาเกียว-มาร์เกซ” ทั้ง 3 ภาค ก็บู๊กันดุเดือดเลือดพล่าน แพ้ชนะกันแบบสูสีทั้ง 3 ไฟต์ แถมไฟต์ล่าสุดที่พบกันเมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว ปาเกียว ก็ชนะแบบเรียกว่าค้านสายตาผู้ชมเหมือนกัน ดังนั้น น่าจะอยากแก้สงสัยกันมากกว่า แต่ที่สำคัญ ก็คือ ชื่อชั้น มาร์เกซ ทำเงินได้มากกว่าเห็นๆ จึงเป็นที่มาที่ไปของภาค 4 ให้เราได้คอยติดตามกัน
ช่วงนี้มีมวยสากลอาชีพระดับโลกให้คุยกันหลายเรื่องหน่อยนะครับ อย่างเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (16 ก.ย.) ชาเวซ จูเนียร์ ลูกชายยอดนักชกระดับตำนานอย่าง ฮูลิโอ เซซาร์ ชาเวซ ก็ขึ้นชกป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นมิดเดิลเวต (168 ปอนด์) ของสภามวยโลก กับเจ้าของตำแหน่งคนเดิม เซร์จิโอ มาร์ติเนซ ซึ่งก็ปรากฏว่าไม่ได้เลือดพ่อมาแม้แต่น้อย โดนไล่ดักต่อยจนจมูกและคิ้วแตกยับ โดยทำอะไรผู้ท้าชิงแทบไม่ได้เลย มีได้ลุ้นเล็กๆ ก็ช่วงท้ายยก 12 เมื่อสามารถส่งลงไปกองกับพื้นได้ แต่ก็แค่นั้น เพราะ 11 ยกแรกนั้น ตามหลังสุดกู่ คะแนนแพ้ขาดไม่ต้องลุ้น
ก่อนหน้านี้ ก็มีข่าวเรื่องไฟต์ต่อไปของ แมนนี ปาเกียว ว่า จะขึ้นชกกับ ฮวน มานูเอล มาร์เกซ คู่ปรับเก่าที่พบกันมาแล้วถึง 3 ครั้งด้วยกัน โดยคาดว่า ภาค 4 นี้จะระเบิดขึ้นในวันที่ 8 ธันวาคมปีนี้ (ซึ่งก็จะตรงกับเมืองไทยสายๆ วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม) ก็นับว่าทำให้แฟนมวยแปลกใจไม่น้อย เพราะหลายคนเชื่อว่า “เดอะ แพ็คแมน” น่าจะอยากแก้มือกับ ติโมธีย์ แบร็ดลีย์ นักชกอเมริกัน ที่แพ้มาแบบค้านสายตาคนในวงการมวยทั่วโลกมากกว่า จนถึงขนาดอัยการประจำรัฐเนวาดา ต้องทำการสอบสวนว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลหรือเปล่า (ซึ่งก็สรุปว่าไม่มีนะครับ ไม่มีใบสั่งว่างั้น)
ทางฝ่าย แบร็ดลีย์ เองก็ดูจะผิดหวังกับการที่ ปาเกียว เสี่ยงพวงมาลัยไปที่ มาร์เกซ แทนที่จะมาฟาดปากกับตัวเองอีกรอบให้หายกังขา จนขนาดที่กำปั้นสหรัฐฯออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ปาเกียว เป็นพวก “ขี้ขลาด” ไม่ได้ว่าครั้งเดียวนะครับ ย้ำถึง 4-5 ครั้งเลยทีเดียว โดยบอกว่าเขาเป็นแชมป์ เอาชนะนักชกฟิลิปปินส์ ที่ว่ากันว่าดีที่สุดในโลก ถ้าเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ ดังนั้น ควรอยากจะมาแก้มือมากกว่าจะไปเจอกับคู่ชกที่เจอกันมาถึง 3 ครั้งแล้ว นอกจากนั้น ยังบอกอีกว่าคงจะรู้ตัวดีว่า ถ้ามาเจอกับเขาตอนนี้ที่มีขาสมบูรณ์ทั้ง 2 ข้าง (ไฟต์ที่แล้ว แบร็ดลีย์ อ้างว่าตัวเองขาแพลงตั้งแต่ยกต้นๆ ทำให้เคลื่อนตัวไม่สะดวก แต่ยังชนะได้) คงจะต้องอ่วมกว่านี้แน่นอน เลยไม่กล้าประจันหน้าอีกครั้ง
ทางฝ่าย ปาเกียว ยังไม่ออกมาตอบโต้ เพียงแต่ เฟรดดี โรช เทรนเนอร์ส่วนตัว ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า การพบกับ มาร์เกซ ครั้งนี้ แม้จะเป็นภาค 4 แต่ก็ถือว่าเจอศึกหนัก เพราะรู้ทางกันเป็นอย่างดีและรู้วิธีที่จะเล่นงาน ปาเกียว เป็นอย่างดีอยู่แล้ว ซึ่งเขาจะต้องทำการบ้านหนักมากขึ้นสำหรับการเจอกันครั้งนี้
ผมว่าเรื่องของเรื่องก็คือ ศึก “ปาเกียว-แบร็ดลีย์” นั้น ทาง แบร็ดลีย์ จะโม้อย่างไรก็ตาม ทาง ปาเกียว น่าจะพูดได้เสมอว่าคนทั้งโลกก็เห็นว่าใครแพ้ใครชนะ ในขณะที่ศึก “ปาเกียว-มาร์เกซ” ทั้ง 3 ภาค ก็บู๊กันดุเดือดเลือดพล่าน แพ้ชนะกันแบบสูสีทั้ง 3 ไฟต์ แถมไฟต์ล่าสุดที่พบกันเมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว ปาเกียว ก็ชนะแบบเรียกว่าค้านสายตาผู้ชมเหมือนกัน ดังนั้น น่าจะอยากแก้สงสัยกันมากกว่า แต่ที่สำคัญ ก็คือ ชื่อชั้น มาร์เกซ ทำเงินได้มากกว่าเห็นๆ จึงเป็นที่มาที่ไปของภาค 4 ให้เราได้คอยติดตามกัน